1. รู้จักบริหารห นี้ที่มีอยู่
และไม่สร้างห นี้ใหม่อีกถ้าไม่จำเป็น
เมื่อเป็นห นี้ ก่อภาระเข้าแล้ว สิ่งที่ควรจะทำก็คือ จัดการกับห นี้ที่ด อกเบี้ย
แพงก่อโดยเฉพาะกรณีได้เงิ นก้อนมา โปะอะไรก่อน?
โปะบัตรเครดิต ก่อน ถัดลงมาก็ค่อย ๆ ดูว่าห นี้ไหนดอ กเบี้ยแพง ระยะเวลา
ผ่อนชำระสั้นสุด จ่ายก่อน แต่ทั้งนี้ ต้องจ่ายทุ ก ๆ รายการห นี้
ตามรอบเวลาชำระ เอาเ งินค่าบ้านไปหมุนค่ารถก่อน แล้วหยุดชำระค่าบ้าน
ระวั งธนาคารจะเรียกเก็บอัตราสูงสุด แถมบางแห่งมีเบี้ยปรับมาอีก
คำนวณความสำคัญของเงิ นและดอ กเบี้ยเงิ นกู้
เงิ นผ่อน ให้ดีเพื่อจะได้ไม่มีภาระต่อยอดไม่มีวันจบ
2. มองหาช่องทางการลงทุน
การลงทุนมีหลายรูปแบบมาก ไม่ว่าจะเป็นการออมเ งิน หรือการนำเงิ นไป
ต่อยอดถึงอย่ างไรก็คือการลงทุน เพื่อให้เงิ นงอกเงยจากเดิม
แต่สิ่งที่ต้องระวั งคือ
คำนวณเรื่องการลงทุนให้ดี เงิ นที่เรานำมาลงทุนนั้น จะต้องน้อยกว่าเงิ นเย็น
ที่คุณกันไว้เมื่อย ามฉุกเฉินไม่ต่ำกว่า 2 เท่า
ยกตัวอย่ างเช่นรายได้หลักของคุณได้เดือนละ 30,000 บาทถ้าหากค่าใช้จ่าย
ทั้งหมดต่อเดือน 15,000 บาท คุณจะเหลือเงิ น 15,000 บาท
หลักการลงทุนจะดึงเงิ น 1 ส่วนออกมาจากเ งินออมเพื่อนำมาลงทุนคุณจะ
เหลือเงิ นออม 10,000 บาทและนำเ งิน 5,000 บาทมาลงทุนต่อ
3. มีวินัยและความอดทน
สำคัญกว่าหาเงิ นให้ทันใช้
เนื่องจากโดยส่วนตัวแล้ว นั้นทำหลายอาชีพ หลายอย่ าง ทั้งงานประจำรับงาน
Consult เป็นนักเขียน และงานวิทย ากรอื่น ๆ
ดังนั้นรายได้ที่เข้ามามากน้อยต่างกันไปอาจจะต้องมีการปรับการใช้จ่าย
ปรับวิ ธีการออมต่าง ๆ ให้เหมาะสมอยู่ตลอดเวลา
4. สร้างรายได้หลัก
ให้มั่นคงได้ก่อน
ก่อนที่เราจะ หมุนเงิ น ได้จะมีอยู่แค่ 3 อย่ าง รายได้หลัก ค่าใช้จ่าย เงิ นลงทุน
เพราะ 3 ตัวนี้ละตัวหลักในการหมุนเงิ น
สิ่งแรกเลยเนี่ย คือรายได้หลักเป็นหัวใจหลักที่ต้องมีแน่นอน เพื่อเป็นหลัก
ประกันเลยว่า เมื่อไหร่ ฉุกเฉินตัวนี้ละที่จะช่วยคุณ
ขอบคุณที่มา : stand-smiling