หลังจากทำงานต่างถิ่นมานาน 20 ปี หนุ่มใหญ่คิดว่าได้เวลากลับบ้านเกิดสักที นายจ้างถามเขาว่า เขาจะขอรับ เ งิ น โบนัสทั้ง 20 ปี กลับไป หรือจะรับคำ เ ตื อ น จากเขา 3 ข้อ
เขาขอเวลาคิดหนึ่งคืนปกติเขาเป็นคนที่รักและเคารพนายจ้างมาก เพราะนายจ้างเป็นคนเก่ง และรักใคร่เขา อ ย่ า ง ลูกหลานมาตลอด เขาเชื่อว่าคำ เ ตื อ น จากนายจ้างต้องมีคุณค่า
ต่อเขาแน่นอนรุ่งขึ้นเขาจึงบอกนายจ้างว่า จะขอน้อมรับคำ เ ตื อ น แทน เ งิ น โบนัสทั้งหมด นายจ้างจึงให้คำ เ ตื อ นเขาไปดังนี้
3. อ ย่ า ตั ด สินใจด้วยความวู่วามใน ย า ม ที่มี อ า ร ม ณ์ ฉุนเฉียว
เพราะอาจทำให้ต้อง เ สี ย ใจไปตลอดชีวิต
2. อ ย่ า เ สี ย เวลาหรือ เ สี่ ย ง กับเรื่อง เ ย้ า ยวน
จิตใจต้องเข้มแข็ง เพราะอาจทำให้สูญ เ สี ย อนาคต
1. อ ย่ า คิดหาทางลัดสู่เป้าหมาย
มันเป็นไปได้ ย า ก ทุ ก อ ย่ า ง ต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง
เมื่อกล่าวคำ เ ตื อ น เสร็จ
นายจ้างมอบขนมปังให้ไป 3 ก้อน พร้อมกับค่าจ้างเดือนสุดท้าย ก่อนกำชับว่าขนมปังก้อนที่ใหญ่ที่สุด ให้นำออกมากินหลังจากกลับถึงบ้านแล้ว
เขาเริ่มเดินทางกลับบ้าน
หลายวัน ผ่ า น ไป ขนมปังก้อนแรกกินไปแล้วครึ่งชิ้น เมื่อเดินมาถึงทางสามแพ่ ง ไม่แน่ใจว่าจะเดินไปทางไหนดีถามคนที่เดิน ผ่ า น มา คนแรกบอกให้เขา
เดินเส้นทางลัด แม้เส้นทางจะเล็กหน่อย แต่ระยะทางใกล้กว่าเยอะอีกคนบอกให้เขาใช้เส้นทางใหญ่จะดีกว่า แม้หนทางจะไกลหน่อย แต่เดินสะดวกและปลอด ภั ย
ด้วยใจที่คิดถึงเมียที่อยู่ที่บ้าน อ ย า ก กลับถึงบ้านไวๆ เขาจึงตัดสินใจเลือกเส้นทางลัดเมื่อเดินไปได้ไกลพอสมควร ก็มีคนสวนทางมา บอกให้เขารีบหลบ
ไปให้พ้น มี โ จ ร ดัก ป ล้ น อยู่ข้างหน้าเขาคิดถึงคำ เ ตื อ น ของนายจ้าง “ อ ย่ า คิดหาทางลัดสู่เป้าหมาย” เขาจึงรีบหันกลับไปใช้เส้นทางใหญ่ต่อไป
เดินต่อไปอีกหลายวัน
ขนมปังก้อนที่สองหมดไปครึ่งชิ้น ต ก ค่ำหา โรงแรมเล็กๆ ริมทาง พักค้างแรม พอกลางดึกได้ยิน เ สี ย ง ร้องเพลงอันแสนไพเราะจากสตรีนอก
โรงแรมใจจริง อ ย า ก ออกไปดูหน้าสตรีคนนั้นหน่อย เนื่องจาก เ สี ย ง เพลงของหล่อนไพเราะจับใจเหลือเกิน
แต่พอนึกถึงคำ เ ตื อ น ข้อที่สองของนายจ้าง “ อ ย่ า เ สี ย เวลาหรือ เ สี่ ย ง กับสิ่ง เ ย้ า ยวน” คิดได้ดังนั้นก็สงบจิตสงบใจหลับต่อ
ไปรุ่งเช้าเดินออกจากห้องพัก เจ้าของโรงแรมบอกเขาว่า โ ช ค ดีที่เห็นคุณปลอด ภั ย เมื่อคืนมีแขกออกมาตามหา เ สี ย งเพลงของผู้หญิง
ถูกเจ้าของ เ สี ย ง เพลงซึ่งเป็นหญิงสติฟั่นเฟือนเอา มี ด ไ ล่ ฟั น จน บ า ด เ จ็ บ ส า หั ส
เดินต่อไปอีกหลายวัน
ใกล้ถึงบ้านแล้ว ขนมปัง 2 ก้อนแรกก็หมดพอดี รีบเร่งฝีเท้า กว่าจะเดินทางเข้าถึง ห มู่ บ้าน ฟ้าก็มืดสนิทแล้วพอมาถึงหน้าบ้าน กำลังจะยื่นมือเคาะประตูด้วยความดีใจ
ก็ได้ยิน เ สี ย ง เมียคุยกับผู้ชายอีกคนที่อยู่ในบ้าน เขาโกรธจัดแน่ใจว่าเมียต้องมีชู้แน่นอนระหว่างที่เขาไม่อยู่บ้าน เขาจึงคว้า มี ด แล้วกำลังจะพังประตูเข้าบ้าน
ก็พอดีนึกถึงคำ เ ตื อ น ข้อที่ 3 “ อ ย่ า ตั ด สินใจวู่วามใน ย า ม ที่มี อ า ร ม ณ์ ฉุนเฉียว” พอได้สติก็เลยทรุดตัวลงนั่งอยู่หน้าบ้านทั้งคืน
รุ่งเช้าพอแน่ใจว่าจะคุมสติ อ า ร ม ณ์ ตนเองได้แล้ว ค่อยตัดสินใจไปเคาะประตูเมียเปิดประตู พอเห็นเขาก็แสดงอาการดีใจ อ ย่ า ง มาก แต่เขากลับมีใบหน้าที่เรียบเฉย
เขาถามเมียว่าผู้ชายที่อยู่ในบ้านเป็นใคร เมียยิ้มก่อนตอบว่า ก็เป็นลูกชายของเราไง ฉันคลอดลูกหลังจากที่คุณจากบ้านไปไม่กี่เดือนพอดีชายหนุ่มเดินออกมาจากห้อง
หน้าตาชายหนุ่มเหมือนพ่อไม่มีผิด พ่อลูกได้เจอหน้ากันครั้งแรก กอดคอกันร้องไห้ด้วยความตื้นตันทั้งพ่อแม่ลูก
บนโต๊ะกินข้าว
เขาหยิบขนมปังก้อนที่ใหญ่ที่สุดออกจากกระเป๋าสัมภาระ เตรียมจะแบ่งกันกินกับ ทุ ก คนในบ้าน พอฉีกขนมปังออก ก็พบว่ามี เ งิ น ก้อนโตฝังอยู่ในขนมปังก้อนนั้น
ซึ่งก็คือโบนัสทั้งหมดของเขาตลอด 20 ปีเขาเล่าเรื่องคำ เ ตื อ น ทั้งหมดของนายจ้างให้ลูกเมียฟัง ท่านคือผู้ใหญ่ที่เขารักและนับถือมาตลอด คำ เ ตื อ น ที่ทรงคุณค่า
ช่วยให้เขาเดินทางกลับถึงบ้านด้วยความปลอดภัย ห นี้ บุญคุณครั้งนี้เป็นสิ่งที่เขาและครอบครัวจะจดจำไม่มีวันลืม
คำ เ ตื อ น ทั้ง 3 ข้อ จึงได้กลายเป็นหลักการดำเนินชีวิตของ ทุ ก คนในครอบครัวนี้ตลอดไป
ขอบคุณ ละมุนละไม