1. ดูดีจากภายในสู่ภายนอก
แน่นอนว่าไม่มีใครบนโลกใบนี้ที่มีร่า งกายที่เพอร์เฟ็กต์ แม้บ้านเราจะมีวิทย าการเข้ามาช่วย
ในเรื่องนี้มากมายแต่ก็ยังมีความกังวลในเรื่องความปลอดภัยและผล
กระทบอื่น ๆ อยู่บ้าง ดังนั้น ผู้ชายทุ กคนจะพบว่าร่า งกายตัวเองเปลี่ยน
ไปตามก าลเวลาซึ่งเป็นสัจธรรมของชีวิตและตามก าลเวลานั่นเอง และ
สิ่งที่เราอย ากบอกคุณผู้ชายทั้งหลายนั่นก็คือการดูแลตัวเองจากภายในสู่ภาย
นอกด้วยการมีจิ ตใจที่แจ่มใส ร่าเริง มีความสุขหรือที่
เรียกว่าหล่อจากภายในนั่นเอง รวมทั้งการดูแลตัวเองภายนอกด้วยการรับประทาน
อาหารที่มีประโยชน์ตามหลักโภชนาการตามแต่ละช่วงวัยของหนุ่ม ๆ
โดยให้ไปเป็นตามหลักธรรมชาติและการดูแลตัวเองตามหลักธรรมชาติ
เช่นกันถ้าคุณโตเป็นผู้ใหญ่พอ … คุณจะรู้ว่าวิ ธีไหนคือวิ ธีที่
จะรัก ษาสุ ขภาพกายและใจของคุณอย่ างยั่งยืนและดีที่สุด!
2. โตแล้ว … ต้องเก็บอ ารมณ์เป็น!
หนุ่ม ๆ ต้องเรียนรู้การแสดงอ ารมณ์อย่ างถูกวิ ธี เราเชื่อว่าหลายคนสามารถแสดงออกอย่ าง
สร้างสรรค์และมีกลยุทธ์ได้ดีแต่ก็น้อยคนที่จะทำได้เช่นกันหนุ่มเจ้า
โทสะบางคนถ้ามีอะไรขัดใจปุ๊ป ทั้งเหวี่ยง ทั้งวีน โวยวายบ้านแทบแต ก
ข้าวของแทบพั ง หรือจะเป็นหนุ่มสุดดราม่า เสี ยใจ ผิดหวัง อกหั กเฮิร์ท ต กงาน
บลา ๆ ก็ร้องไห้เป็นเต่าเผ าและอีกหลายอาการของหนุ่ม ๆ ที่
แสดงออกว่าคุณยังเป็นเด็ กอยู่นั่นเอง ดังนั้น ถ้าคุณอย ากโตเป็นผู้ใหญ่นั้นเลิกซะ!
พฤติกรร มเหล่านี้ เพราะคนที่โตแล้วเขาจะมีวุฒิภาวะการแสดงออกทางอ ารมณ์
ที่เหมาะสมกับสถานการณ์และกับบุคคลต่าง ๆ เช่น คุณอาจจะ
แสดงความเศร้าโศกเสี ยใจกับเพื่อนสนิทของคุณได้ หรือต้องเก็บอ ารมณ์โกรธเมื่อ
โดนขัดใจในที่สาธารณะไม่เช่นนั้นคุณก็ยังไม่ก้าวผ่ านจากความ
เป็นเด็ กเ สียที จงเรียนรู้วิ ธีแสดงออกอย่ างเหมาะสม!
3. บอกลาความเ สียใจทั้งหลาย
ขงจื้อกล่าวว่า “ความผิ ดพลาดที่เกิดขึ้นมันก็ไม่มีผลอะไร เว้นเ สียแต่คุณไปนั่งคิดนั่งจำมันต่อไป”
ทุ กคนมีความผิ ดพลาดในชีวิตบ่อยครั้งด้วยธรรมชาติของมนุษย์เรามักจะชอบจำ
ในเรื่องความผิดและปล่อยให้มันมาเป็นตัวทำร้ า ย
จิ ตใจของเราอยู่ตลอดเวลาจนบางครั้งเป็นเหตุให้ร่า งกายแ ย่ลงจากสุ ขภาพจิ ตภาย
ในที่แ ย่ส่งผลต่อสุ ขภาพกายแล้วคุณคิดว่ามันมีเหตุผลดีงามพ ระรามแปดอะไร
ที่จะต้องมานั่งจำเรื่องพวกนี้ไปตลอดชีวิต กันล่ะลองเปลี่ยนเรื่องพวกนี้เป็นบทเรียน
เพื่อเป็นแรงผลักดันในชีวิตของคุณจะดีกว่ามั้ย การเก็บเรื่องพวกนี้มาเป็นอ ารมณ์
ไม่ได้ช่วยให้สุ ขภาพของคุณดีขึ้นเลยนะคนที่โตแล้วจะไม่ปล่อยให้ความผิ ด
พลาดหรือเรื่องในอดีตมาทำให้ความสุขในอนาคตหดหายไปแต่
จะเก็บมันมาเป็นบทเรียนเพื่อป้องกันไม่ไห้เกิดความผิ ดพลาดในอนาคตต่างหากล่ะ
4. โบกมือลากับสิ่งรอบตัวที่แ ย่
ในช่วงวัยเ ด็กจนถึงวัยรุ่น หนุ่ม ๆ ทุ กคนก็จะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่แต กต่างกันไป ได้รู้จัก
ผู้คนมากมายในชีวิตทั้งแต่เ ด็กจนโตซึ่งทุ กคนต้องแยกออก
อย่ างแน่นอนว่าสิ่งไหนคือสิ่งแวดล้อมที่ดีหรือไม่ดี รวมทั้งบุคคลใดที่คุณควรคบ
อยู่ในระดับไหนควรสนิทคบหาแค่ไหน หรือแม้แต้เพื่อนบางคนที่
ควรห่างหรือเลิกคบเพราะไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจจะฉุดคุณลงเหว! แต่เราก็เข้าใจว่า
การเลิกคบเพื่อนที่คบมานานแสนนานไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแต่คุณ
อย่ าลืมว่าเพื่อนที่ดีต้องไม่ฉุดให้คงไม่ก้าวหน้าและชีวิตคุณต้องเดินต่อไปข้างหน้า
เพื่ออนาคตที่ดี ดังนั้นการหลีกเลี่ยงหรือโบกมือลาสิ่งที่ทำให้คุณไม่พัฒนา
หรือดูแ ย่ลงเรื่อย ๆ จะเป็นการดีที่สุดสำหรับคุณ
5. เพราะรัก…จึงบอก
เพราะ ”รัก” จึงบอกว่า “รัก”เรียกว่าสมัยนี้หนุ่ม ๆ ส่วนใหญ่ขยันพูดคำว่ารักอย่ างสิ้นเปลือง
มาก รวมทั้งยิ่งเวลาแอล กอฮอล์เข้าร่า งกายแล้วนั้นความใจกล้าบ้าบิ่นเฮฮา
ปาจิงโกะยิ่งทำให้กล้าพูดเรื่องแบบนี้อย่ างไม่คิดอะไรได้ง่าย ๆเรียก
ว่าแบบไม่เห็นใจคนฟังกันเลยทีเดียวแต่เราขอบอกหนุ่ม ๆ ว่าผู้ชายที่เขาโต
กันแล้วเนี่ย เขาจะไม่พูดคำว่ารักพร่ำเพื่อเพราะคนที่โตแล้วจะเรียนรู้
จากประสบการณ์และด้วยความเป็นผู้ใหญ่เข้าจะเข้าใจถึงความรักที่แท้จริงว่า
มันควรจะเอื้อนเอ่ยเมื่อใด แบบไหนและกับใครจึงจะเหมาะสม และเขาจะกล่าว
คำว่า “รัก” เมื่อเขารู้สึกแบบนั้นกับคน ๆ นั้นจริง ๆ ดังนั้น โตแล้ว
ไม่พูดรักพร่ำเพื่อกันนะ
ขอบคุณที่มา : meokayna