1. คนที่ใช้ชีวิตหรูหรา เกินไป
คนไม่รู้จักประมาณตน การใช้ชีวิตแบบนี้ เสมือนเป็นกับดั กที่
ทำให้ชีวิตอยู่บนกองห นี้ สร้างความเดือ ดร้อน
ให้กับตนเองและครอบครัวไม่รู็จบ คนที่คุ้นเคยกับการใช้ชีวิต
สะดวกสบาย คงปรับตัวปรับใจได้ย ากถ้าจำเป็นก็ต้องยอม
อดทนปรับเปลี่ยนพฤติกร ร มการใช้ชีวิต ลดความสบาย ใช้จ่ายให้น้อยลง
ในระดับที่เหมาะสม ตามความกำลัง
เช่น ลดการกินอาหารนอกบ้าน ซื้อเสื้อผ้า ราค าแพงให้น้อยลง
จัดลำดับความสำคัญทางการเ งิน เพื่อเตรียมเงิ นสำรอง
ไว้ใช้จ่ายไปกับสิ่งต่าง ๆ ที่จำเป็น ในการใช้ชีวิตประจำวัน
คุณจะจึงจัดสรรเงิ นเพื่อนำไปใช้กับสิ่งจำเป็นได้ รวมไปถึงกระทั่ง
ปรับตัวปรับพฤติกร ร ม ฟุ่มเฟือย เพื่อไม่ให้เกิดห นี้
2. มีเพื่อนที่ฟุ้งเฟ้อ เราก็เป็นไปกับด้วย
เราต้องคบกับเพื่อนที่มีแนวคิดดี ๆ สร้างสรรค์ทั้งการทำงาน การทำเงิ น
เก็บออมและลงทุ น มุ่งสร้างเนื้ อสร้างตัว
เพราะเพื่อนมีอิทธิพล ในการบ่มเพาะนิสัยการเงิ น เราก็ควรปฏิเสธ
บ้างเมื่อเพื่อนชวนไปเที่ยว กินอาหารนอกบ้าน
เพราะนี่มันกลายเป็นรายจ่ายก้อนโต ซึ่งจะไปกระทบต่อรายการ
จ่ายประจำในแต่ละเดือนได้เช่นกันและอีกทั้งการหยิบยืมเงิ น
จากเพื่อน แล้วเพื่อนไม่ยอมคืนเนี่ย ทำให้คุณเกิดความกังวลครุ่นคิด
เป็นฝันร้ า ยที่ควรเลี่ ยงเลยล่ะเราก็ต้องพิจารณาก่อนว่า
เงิ นที่ยืมไปนั้นได้นำไปช่วยใน เรื่องที่มีความจำเป็นไหม มีโอกาสได้คืนแค่ไหน
การให้ที่ไม่เดือ ด ร้อน มันจะเกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
เพราะฉะนั้นคิดให้ดีซะก่อน
3. ความต้อ งการ ในวัยเด็ ก
คนที่มีปัญหายุ่งย าก ในเรื่องเิน บางคนมีสาเหตุมาจากประสบการณ์วัยเด็ ก
ที่ไม่สมหวังกับอะไรเท่าไหร่ส่งผล ต่อจิตใจให้อย ากหลุด
พ้นจากสภาพความย ากจน เหตุการณ์ในอดีตเหล่านั้น สามารถสร้างแร ง
กระตุ้ นให้เกิดความอย ากได้อย่ างไม่มีขอบเขต
ทำให้ใช้จ่ายเกินตัว เพื่อชดเชยส่วนที่ข าดหายไปในวัยเด็ ก อันที่จริง
แล้วพฤติกร ร ม ใช้จ่ายเกินตัวดังกล่าว มันคือสาเหตุของความเป็นห นี้
อันเป็นทุ กข์ ฉะนั้นจึงต้องปรับเปลี่ยน ทัศนคติใหม่เพื่อให้มีความพอใจ
กับชีวิตความเป็นอยู่ตอนนี้ เพื่อให้เกิดความรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า
ให้ความสำคัญกับ การยกระดับจิตใจ ตัวเองมากกว่าวัตถุ ฉะนั้น จึงไม่ต้อง
ใช้จ่ายเ งิน เพื่อแสวงหาเครื่องประดั บให้ตนเองมีค่าอะไรหรอก
4. ใช้จ่ายไป แล้วไม่จดบันทึก
ไม่วางแผนอะไรเลย ใช้ไปเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เราควรทำบัญชีร ายรับร ายจ่าย
เพื่อเลี่ ยงการใช้บัต รเค รดิตเพื่อจะได้ไม่ต้องเ สียดอ กมาก
นับว่าเป็นเรื่องที่มีประโยชน์และมีความสำคัญยิ่งเพราะเป็นสิ่งที่ช่วย
เปลี่ยนพฤติกร ร ม การใช้จ่ายของบุคคล ให้สมดุล ช่วยให้คุณทราบพฤติก ร รม
การใช้จ่ายของตัวเอง ช่วยหาจุดด้ อ ยของการใช้เ งิน อีกทั้งยังมีประโยชน์
อย่ าง แ ก่คนที่มีปัญหาทางการเ งินลอง ทำบันทึก
รายจ่าย ทุ กรายการในแต่ละวัน จัดทำเป็นรายสัปดาห์ รายเดือน รายปี
เพื่อกำหนดค่าใช้จ่ายเพื่อ ไม่ให้เกินงบประมาณของตัวเองที่ตั้งไว้
วิ ธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ข าดวินัย เป็นอย่ างมาก
5. ใช้บัต รเครดิ ตไม่เป็น
ที่จริงแล้วใช้บั ตรเค รดิตเพื่อให้เกิดประโยชน์ได้ เช่น การสะสมแต้ ม
ไปแลกกับส่วนล ดต่างๆแต่คนที่มักมีพฤติกร ร ม การสร้างห นี้
ผ่ านบั ตร แก้ไขโดยไม่ให้จ่ ายผ่ านบัต รมากเกินไปเลือกบั ตรเค รดิต
และโปรที่เหมาะกับการใช้จ่ายของเรา การใช้จ่ายผ่ านบัต รมันประหยัด
บัตรแต่ละใบนั้น ก็มีส่วนล ดสำหรับสถานที่ต่าง ๆ ช่วยเพิ่มความสะดวก
ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและบางธุรกร ร มยังฟ รีค่าธรรมเนี ยม
การสะส มคะแน นเพื่อเลือกของกำนั ลสิ่งสำคัญ คือ อย่ าใช้เงิ นมากกว่า
ที่เรามี ให้อยู่ในขอบเขตของร ายรับได้
และต้องมีวินัยที่ดีในการชำ ระห นี้ จ่ายยอดเต็มให้ตรงเวลาทุ กเดือน
ปัญหายุ่งย ากทางการเงิ น จากบั ตรก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลต่อไปแล้ว
6. ไม่ออมเงิ น สักที
เราต้องออมเ งินได้แล้ว จัดสรรเงิ นเพื่อการใช้จ่าย ช่วยให้มีสภาพคล่อง
มีเ งินใช้เพียงพอในอนาคตส่วนหนึ่งเนี่ย เป็นเงิ นออม
ซึ่งเป็นเงิ นเก็บไว้ใช้ย ามเกษียณ อีกส่วนเป็นเงิ นเผื่อเวลาฉุ กเฉิ น
สำรองเงิ นไว้อย่ างน้อย 3- 6 เดือน สุดท้ายเป็นเ งิน
ออมเพื่อการลงทุ น เพราะมันจะสร้างผลตอบแทน ได้ดีกว่าเงิ น
ฝ ากธน าคารไงการจัดความสมดุลของเงิ น อย่ างเหมาะสม
ช่วยให้แผนการใช้จ่าย เป็นไปอย่ างราบรื่นการเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่
ไม่ใช่เรื่องย ากอีกต่อไป เพียงปรับนิสัยใช้เ งินที่เกินตัวลงบ้าง
ห นี้สินมากมายก็ไม่ตามมาคิดหน้าคิดหลังก่อนจับจ่าย เรียนรู้ประโยชน์
ของบั ตรเค รดิต อย่ าละเลยการออม การลงทุ น การปลดห นี้
ทำได้ตามที่ได้กล่าวมานั้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณหมดปัญหา ไม่กังวล
และช่วยให้คุณมีเ งินเก็บเพื่อไว้เลี้ยงตัวเองย ามแ ก่ด้วย
ขอบคุณที่มา : tamnanna