
พ่อ-แม่ ยิ่ง แ ก่ ยิ่งห่วง ส่วนลูก ยิ่งโต ยิ่งห่าง
อ ย่ า ไปกังวลว่า ถ้าคุณจากไป อะไรจะเกิดขึ้น…เพราะเมื่อกลายเป็นผงธุลีไปแล้ว
ใครเขาจะยกย่องชื่นชมหรือตำหนิ ประณาม อ ย่ า ง ไร คุณจะไปรู้สึก รู้สาอะไรได้
ลูกของคุณเขาจะเป็น อ ย่ า ง ไร…ก็ อ ย่ า เป็นห่วงให้มากนัก พวกเขา ต่างก็มีจุดหมายและ
หนทางชีวิตของตนเอง ต า ย ไปแล้ว…คุณก็ยังไม่เลิก เป็นทาสของลูกๆ อีกหรือ
อ ย่ า คาดหวังอะไรมากจาก เ ด็ ก ๆ ต่อให้คุณชุบเลี้ยงใคร ไว้ดูแลคุณ ย า ม แ ก่ เฒ่า เขาก็ต้องวุ่นวายกับ
การงานและภาระผูกพันต่างๆ เกินกว่าจะมีเวลามาช่วยเหลือ ดูแลอะไรคุณได้มากนัก
ส่วนลูกจริงๆ นั้น ก็อาจจะกำลัง ทะ เลาะ กัน เพื่อ แ ย่ ง ทรัพย์สมบัติ ของคุณอยู่ ทั้งๆ ที่คุณยังมีชีวิต
อยู่ก็ได้ ดีขึ้นมาหน่อย ก็อาจจะแค่แอบ ภาวนาให้คุณ อ ย่ า ใช้ เ งิ น ให้มาก
และรีบจาก ไป เ สี ย เร็วๆ อ ย่ า ง นี้ก็มีให้เห็นอยู่ถมไป คุณไม่รู้หรอกหรือว่า..บรรดา
ลูกๆ เขาถือว่า ทรัพย์สมบัติของ คุณเป็นสิทธิ์ขาดของเขาไปแล้ว คุณจึงไม่มีสิทธิ์จะไปกำหนดอะไร
ได้เลย ใน เ งิ น ที่เป็นของเขา… เข้าใจไหม?
คนอายุเกิน ๖๐ อ ย่ า ง คุณ ต้องเลิกเอา สุ ข ภ า พ ไปแลกกับ ความร่ำ ร ว ย ได้แล้ว มี เ งิ น เท่าไร
ก็ซื้อ สุ ข ภ า พ คืนมาไม่ได้ คุณตอบได้ไหมว่า จะหยุดหา เ งิ น เมื่อใด…เท่าไหร่คุณถึงจะบอกว่า
พอแล้ว…ร้อย พัน หมื่น ล้าน สิบล้าน…พอรึยังไม่ทราบ ? ต่อให้คุณมีไร่นานับพันไร่
คุณก็กินข้าวได้แค่วันละสามจาน แม้นมีคฤหาสน์นับพันหลัง คุณก็ต้องการพื้นที่หลับนอน
ย า ม ค่ำคืนเพียงแปดตารางเมตร ดังนั้น..ตราบใดที่คุณยังมีข้าว ปลาอาหารกิน อ ย่ า ง เพียงพอ
มี เ งิ น พอใช้สอยได้ทุ ก วัน เพียงเท่านี้ก็ดีเหลือหลายแล้ว อายุเท่านี้แล้ว คุณควรอยู่ อ ย่ า ง เป็นสุข ทุ ก บ้านต่าง
ก็มีปัญหาของตนเอง อ ย่ า มัวไปคิดเปรียบเทียบ แ ก่ ง แ ย่ ง แข่งดีกัน ไม่ว่าชื่อ เ สี ย ง
ฐานะในสังคม หรือความก้าวหน้าของ เ ด็ ก ๆ ฯลฯ สิ่งที่ควรจะแข่งกัน ท้ากันจริงๆ
นั้น คือแข่งกันมีความสุข แข่งกันมี สุ ข ภ า พ ดีและอายุ ยืนนานส่วนอะไร ที่เราเปลี่ยนมันไม่ได้
ก็อ ย่ า ไปฝังอกฝังใจให้ ป่ ว ย การ และทำลาย สุ ข ภ า พ ตัวเองเลยอายุป่านนี้แล้วก็ยังเปลี่ยนมัน
ไม่ได้เลย หลัง ๖๐ แล้ว อ ย่ า ง นี้ คุณต้อง ค้นหาหนทางของคุณเอง ที่จะสร้างชีวิตที่เป็นอยู่ดีๆ และ
สุขสดใสขึ้นมาให้ได้ ตราบใดที่มันทำให้คุณ อ า ร ม ณ์ ดี คิดถึงแต่สิ่งที่ทำให้เป็นสุข
ทำอะไรก็สุขสนุกกับมันอยู่ ทุ ก วัน นั่นก็หมายความว่า คุณได้ ผ่ า น วันเวลา อ ย่ า ง เป็นสุขแล้ว
ทุ ก วันวานที่ ผ่ า น ไป คุณจะ สูญ เ สี ย ไป ๑ วัน แต่ถ้ามัน ผ่ า น ไป อ ย่ า ง เป็นสุข วันนั้นคือกำไรชัดๆ เลย
จิตใจที่ดี จะช่วย รัก ษา โ ร ค ภั ย ได้ ถ้าจิตใจเป็นสุข โ ร ค ก็จะหายเร็วขึ้น แต่ถ้าจิตใจทั้งดี ทั้งเป็นสุข
ด้วยแล้วล่ะก็ ความ เ จ็ บ ป่ ว ย จะไม่มีทางมาแผ้วพานได้ ด้วย อ า ร ม ณ์ที่ดีแจ่มใสอยู่เป็นนิจ
ออกกำลังกายให้เพียงพอ อยู่กลางแจ้งบ่อยๆ กินอาหาร ให้ครบ ห มู่ ได้วิตามินและแร่ธาตุ
อ ย่ า ง เพียงพอ เพียงเท่านี้ก็เชื่อได้แน่นอนว่า ชีวิตที่เป็นสุข อีก ๒๐ หรือ ๓๐ ปี
จะเป็นของคุณแน่นอน เหนือสิ่งอื่นใด…คุณต้องรู้จัก บ่มเพาะและเก็บเกี่ยวความสุขดีๆ
จากการได้อยู่ ได้เที่ยว ได้คุยกับเพื่อนๆเพราะเขาเหล่านี้ จะช่วยให้คุณ รู้สึก เ ย า ว์ วัยและมีความหมายอยู่
เสมอ ขาดพวกเขาเมื่อใด… คุณจะต้องรู้สึก สูญ เ สี ย อ ย่ า ง แน่นอน ครับ… อ่ า น แล้วเห็น “เฉลียงชีวิต” ในวัยชรากันบ้างมั้ย?
ก็ต้องขอบคุณทั้งเจ้าของความ คิด ผู้เผยแพร่ และทั้งผู้ส่งให้ผม อ่ า น ก็ อ ย า ก บอกว่า….อายุเราเลือกไม่ได้ก็จริง แต่ชีวิตแต่ละช่วงชีวิต เราเลือกได้
ขอบคุณแหล่งที่มา : เปลว สี เ งิ น