1. พ่อแม่หม้อเคี่ยวย า : เร่งรัดเกินพัฒนาการลูก
ลักษณะของพ่อแม่
เป็นพ่อแม่ที่เคี่ยวเข็ญและเร่งรัดลูกให้เรียนเร็วเกินกว่าอายุ
และพัฒนาการที่ควรจะเป็นมีการพาลูกไปเรียนพิเศษ
เพื่อให้ลูกได้เนื้ อหาส าระเกี่ยวกับการเรียนที่เกินอายุของส มอง
เพราะคิดว่าลูกจะต้องเรียนให้ไวและรู้ให้มากเพื่อที่จะได้เปรียบเด็ กคนอื่น ๆ
ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว เรื่องนั้นอาจจะไม่ได้จำเป็นหรือเหมาะกับลูกเลยก็ได้
ลูกจะเป็นยังไง
เป็นเด็ กที่เคร่งเครียด ไม่มีเวลาไปทำกิจก รรมอื่น ๆ ที่ตนเองสนใจ
เพราะต้องเรียนอย่ างเดียว ลูกจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ
หากทำตามสิ่งที่พ่อแม่อย ากให้ทำไม่ได้ อีกทั้งยังรู้สึกกดดันว่า
จะต้องแข่งขันกับคนอื่นตลอดเวลา
ปรับวิ ธีเลี้ยงอย่ างไร
พ่อแม่ต้องเข้าใจก่อนว่าพัฒนาการของเด็ กในแต่ละช่วงวัยนั้นแต กต่างกัน
เราต้องค่อย ๆ กระตุ้นพัฒนาการของลูกให้เป็นไปตามวัย
ไม่ใช่เอาแต่เร่งรัดให้ลูกเรียนเกินวัย ไม่จำเป็นต้องไปแข่งขันกับลูกของคนอื่น ๆ
และต้องเข้าใจว่าเด็ กแต่ละคนมีความชอบและความเก่งที่แต กต่างกัน
ไม่ใช่ทุ กคนที่จะเก่งด้านวิชาการ ยิ่งเราไปเร่งรัด
ก็อาจจะทำให้การเรียนรู้ของลูกแ ย่ลงกว่าเดิมอีกด้วย
2. พ่อแม่กระต่ายตื่นตูม : หวาดวิต กในทุ กเรื่อง
ลักษณะของพ่อแม่
เป็นพ่อแม่ที่หวั่นวิต กกับทุ กสิ่งที่เข้ามาในชีวิตของลูก รวมไปถึงสิ่งที่อยู่รอบตัวต่าง ๆ
ว่าสิ่งเหล่านั้นจะมาก่อให้เกิดอั นตรายกับลูกของเรา แม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูก
จะเป็นเรื่องที่เล็กแค่ไหนแต่สำหรับพ่อแม่ประเภทนี้มักจะมองว่าเป็นเรื่องใหญ่
ราวกับโลกจะแต กจึงพย าย ามปกป้องลูก ไม่ให้ลูกได้เผชิญเหตุการณ์ที่ย ากลำบากด้วยตัวเอง
ลูกจะเป็นยังไง
ลูกจะเป็นคนที่หวาดระแวงกับเหตุการณ์ต่าง ๆ รอบตัวเหมือนกันพ่อแม่
เป็นเด็ กขี้กลัวไม่กล้าทำอะไรใหม่ ๆ
ปรับวิ ธีเลี้ยงอย่ างไร
พ่อแม่ต้องทำใจให้สบาย ๆ รู้จักปล่อยวาง ไม่ต้องไปตึงเครียดกับเหตุการณ์ต่าง ๆ มากนัก
ให้คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้ลูกเรียนรู้และเติบโตขึ้น
ดังนั้นลองปล่อยให้ลูกได้จัดการกับความย ากลำบากที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองดูบ้าง
3. พ่อแม่เฮลิคอปเตอร์ : สอดส่องตลอดเวลา
ลักษณะของพ่อแม่
เป็นพ่อแม่ที่ตรวจสอบทุ กสิ่งที่เข้ามาในชีวิตของลูก
มีพฤติก รรมที่ปกป้องมากเกินไป เลี้ยงดูราวไข่ในหิน
ออกคำสั่งและกำกับเส้นทางชีวิตของลูกทุ กเรื่อง
เพราะกลัวว่าลูกจะทำเรื่องผิ ดพลาด
นอกจากนี้อาจจะจัดการแก้ไขปัญหาทุ กอย่ างที่เข้ามาในชีวิตของลูก
โดยที่ไม่ให้เขาลองเผชิญหน้าด้วยตนเอง
ลูกจะเป็นยังไง
ลูกจะเป็นคนที่ว่านอนสอนง่าย แต่จะเป็นคนที่ไม่กล้าตัดสินใจ
โตแต่ตัว มีความวิต กกังวลสูง
ปรับวิ ธีเลี้ยงอย่ างไร
การสอดส่องดูแลลูกเพราะความห่วงใยไม่ใช่เรื่องที่ผิดเลยค่ะ
แต่ว่าเราก็ต้องมีขอบเขต ในบางครั้งอาจจะลองปล่อยให้ลูกได้
ทำและตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองบ้าง เราไม่จำเป็นต้องไปบังคับ
หรือกำหนดเส้นทางชีวิตของลูกขนาดนั้น อย่ าลืมนะคะว่าลูกก็มีชีวิต
และควรจะเป็นคนกำหนดทางเดินของเขาเอง หน้าที่ของคน
เป็นพ่อแม่คือคอยให้คำแนะนำ สนับสนุนและพร้อม
ช่วยพยุงย ามที่ลูกอ่อนแอเท่านั้นเองค่ะ
4. พ่อแม่คู่หู : ทำตัวเหมือนเพื่อนเกินไป
ลักษณะของพ่อแม่
การเลี้ยงลูกแบบเพื่อนเป็นวิ ธีการเลี้ยงที่หลาย ๆ บ้านเลือกใช้
เพราะอย ากให้ลูกรู้สึกสนิทใจและกล้าเปิด อกคุยกับเราทุ กเรื่อง
แต่ในบางครั้งการเลี้ยงลูกแบบเพื่อนที่ “มากเกินไป” ย่อมส่งผลเสี ยเช่นกัน
เพราะเมื่อเลี้ยงลูกแบบเพื่อนในลักษณะที่ไม่เคยคัดค้าน
เห็นดีเห็นเห็นงามไปทุ กเรื่อง โดยไม่มีกฎเกณฑ์หรือขอบเขต
เพราะกลัวลูกไม่รักก็จะทำให้ลูกไม่มองเห็นว่าเราเป็นพ่อแม่
ลูกจะเป็นยังไง
เป็นคนไม่มีวินัย ไม่เชื่อฟัง พูดห้ามปรามอะไรก็ไม่เคยเชื่อ
ไม่เคารพพ่อแม่ ลูกจะคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล
ปรับวิ ธีเลี้ยงอย่ างไร
การเลี้ยงลูกแบบเพื่อนไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี
หากแต่ว่าควรจะต้องมีขอบเขตที่แน่ชัดว่าแบบไหนที่ทำกับเพื่อนได้
และแบบไหนที่ทำกับพ่อแม่ไม่ได้ หรือเมื่อมีกฎกติการ่วมกันแล้วก็ห้ามใจอ่อน
พ่อแม่ต้องเป็นคนที่คอยห้ามปรามและให้คำแนะนำในฐานะที่เป็นพ่อแม่
เพื่อให้ลูกรับรู้และเห็นว่าสถานภาพของเราคือพ่อแม่ ไม่ใช่เพื่อน
5. พ่อแม่เครื่องประดับ : รางวัลของลูกคือสิ่งสำคัญ
ลักษณะของพ่อแม่
เป็นพ่อแม่ที่เห็นความสำคัญของการเป็นที่หนึ่งทุ กสิ่งที่ลูกทำจะต้องเป็นที่หนึ่งในทุ กด้าน
เพราะคิดว่าสิ่งเหล่านั้นคือหน้าตาของพ่อแม่ เพื่อเป็นเครื่องการันตีว่าตัวเองเป็นพ่อแม่
ที่เก่งและดี วัดความสำเร็จและคุณค่าของการเป็นพ่อแม่จากความสำเร็จ
หรือรางวัลที่ลูกได้รับ การที่ลูกเก่งและโดดเด่นจึงเปรียบเสมือนเครื่องประดับของพ่อแม่
ลูกจะเป็นยังไง
ลูกจะเครียด คิดว่าทุ กอย่ างในชีวิตคือการแข่งขัน
จนทำให้กลายเป็นคนที่ชอบเอาชนะ ไม่รู้จักคำว่าแพ้
และถ้าเกิดวันไหนที่แพ้ขึ้นมาเขาจะรับมือกับความรู้สึกของตัวเองไม่ได้
ปรับวิ ธีเลี้ยงอย่ างไร
เริ่มจากปรับความคิดที่ว่ารางวัลคือสิ่งที่การันตีความดีและความเก่งของพ่อแม่
สิ่งที่จะบ่งบอกว่าเราเป็นพ่อแม่ที่ดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความสุขของลูก
และการสอนให้เขาเป็นคนดีของสังคมมากกว่า พ่อแม่ควรสอนให้ลูกรู้ว่ารางวัล
หรือการเป็นที่หนึ่งไม่ใช่ทุ กอย่ างของชีวิต ลูกต้องเรียนรู้ที่จะผิดหวังบ้าง
อีกทั้งพ่อแม่ควรสนับสนุนให้ลูกทำสิ่งที่เขาชอบและแค่เต็มที่กับสิ่งที่ทำก็พอ
ขอบคุณที่มา : 360scopenew