Home บทความ “รักคนไกล…แต่ระอาคนใกล้” อ่ า น ให้จบได้นะ เขียนไว้ดีมาก

“รักคนไกล…แต่ระอาคนใกล้” อ่ า น ให้จบได้นะ เขียนไว้ดีมาก

ปิดความเห็น บน “รักคนไกล…แต่ระอาคนใกล้” อ่ า น ให้จบได้นะ เขียนไว้ดีมาก
0

“รักคนไกล…แต่ระอาคนใกล้” อ่ า น ให้จบได้นะ เขียนไว้ดีมาก เป็นอีกหนึ่งบทความดีๆ

ที่ให้ข้อคิดเป็น อ ย่ า ง มาก จาก “แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร”

 

โดยเธอได้เล่าว่า ได้พบเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเพิ่งกลับจากการไปปลูกป่า

หน้าตาของเธอเบิกบานด้วยความปิติที่ได้ช่วยฟื้นฟูธรรมชาติ

เธอพรรณนาถึงคุณประโยชน์มากมายของการปลูกป่า ทั้งบรรเทาโลกร้อน

 

เพิ่มออกซิเจน ให้ร่มเงา ปกป้องหน้าดิน และช่วยให้ฝนฟ้า ต ก ต้องตามฤดู ก า ล ฯลฯ

“ดีจังเลย” แอมยินดีกับเพื่อน “ตอนนี้เธอปลูกต้นไม้ที่บ้านเยอะเลยสิ”

 

เพื่อนทำหน้าเซ็งทันทีแล้วตอบว่า “โอ๊ย ใครจะไปกวาดใบไม้ไหว ร่วงอยู่ได้ เลยตัดทิ้งไปแล้ว”

รักป่ารักต้นไม้ทั่วทั้งโลกนั้น บางครั้งกลับง่ายกว่ารักต้นไม้ในบ้าน

 

เราพร้อมจะไปปลูกป่าทั่ว ทุ ก หนแห่ง แต่คร้านที่จะดูแลต้นไม้ในบ้าน ปลูกป่านอกบ้านไม่ใช่เรื่อง ย า ก

แค่หย่อนกล้าไม้ลงหลุมแล้วกลบ จากนั้นก็กลับบ้านได้เลย แต่ปลูกต้นไม้ที่บ้านสิ

เรายังต้องรดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ยนานนับปี

 

ครั้นต้นไม้เติบโตสูงใหญ่ ก็ยังต้อง เ สี ย เวลากวาดใบไม้ร่วงไม่หยุดหย่อน วันดีคืนดีกิ่งไม้อาจ ต ก มากระแทก

หลังคาเป็นรูเป็นเพราะต้นไม้นอกบ้านให้แต่สิ่งดี ๆ มีแต่สิ่งที่น่าชื่นชม ไม่เป็นภาระ แ ก่ เราเลย

 

เราจึงรักเขาได้ง่าย ส่วนต้นไม้ในบ้านนั้นเรียกร้องการดูแลเอาใจใส่จากเราแถมยังอาจก่อปัญหาให้ด้วย

หลายคนจึงมองเห็นแต่ข้อ เ สี ย ของเขา จนรู้สึกระอาขึ้นมา เป็นเพราะเหตุผลเดียวกันนี้หรือเปล่า?

 

ผู้คนเป็นอันมากจึงรักและชื่นชมคนอื่นได้ง่ายกว่าคนในบ้าน เราเห็นแต่ความดีของคนไกลตัว

เพราะเขาไม่เคยเรียกร้องอะไรจากเราเลยส่วนคนในบ้านนั้นอยู่ใกล้กับเรามากเกินไป

 

จึงเห็นแต่ข้อ เ สี ย ของเขา หรือเห็นเขาเป็นภาระที่ต้องดูแลเอาใจใส่จนกลบข้อดีของเขาไปเกือบหมด

ผลก็คือเรามักสุภาพอ่อนโยนกับคนไกล แต่มึนตึงฉุนเฉียวง่ายมากกับคนใกล้ตัว

 

ลองมองให้เห็นคุณประโยชน์หรือความดีของต้นไม้ในบ้านบ้างเราอาจจะรักเขาได้ง่ายขึ้น หลายคน

มาเห็นประโยชน์ของต้นไม้ในบ้านก็หลังจากที่โค่นจนเหลือแต่ตอ แต่นั่นก็สายไปแล้ว

 

จะไม่ดีกว่าหรือ หากเรารู้จักชื่นชมเขาขณะที่ยังอยู่กับเรากับคนในบ้านก็เช่นกัน เราควรหัดชื่นชมคุณความดี

ของเขาบ้างที่แล้วมา เราอาจมองข้ามไปเพราะคุ้นชินความดีที่เขาทำกับเราจนมองเห็นเป็นเรื่องธรรมดา

เพลงที่แสนไพเราะ หากได้ฟัง ทุ ก วัน ทุ ก คืนก็กลายเป็นเพลงธรรมดาๆ ไม่มีเสน่ห์สำหรับเราอีกแล้ว

 

ฉันใดก็ฉันนั้น คำพูดที่ไพเราะของภรร ย า น้ำใจของสามี หรือความใส่ใจของพ่อแม่หากเราได้ยินได้ฟังหรือ

ได้รับ ติ ด ต่อกันเป็นปีๆ หรือนานนับสิบปีก็กลับกลายเป็นสิ่งสามัญจนเรามองไม่เห็นความสำคัญ

 

ไม่ต่างจากอากาศที่เราไม่ค่อยเห็นคุณค่าทั้งๆ ที่ ข า ด มันไม่ได้เลยน่าแปลกก็ตรงที่ หากคนใกล้ตัวทำ ผิ ด พ ล า ด

หรือสร้างความไม่พอใจ แ ก่ เราแม้เพียงครั้งเดียว การกระทำนั้นๆ

 

กลับฝังใจเราได้นานหรือลึกกว่าความดีที่เขาทำกับเรานับร้อยนับพันครั้งใช่หรือไม่ว่าเวลาเขาทำดีกับเรา

เรามองว่านั่นเป็น “หน้าที่ของเขา” หรือเป็น “สิทธิที่เราควรได้รับ” ?

 

แต่เมื่อใดที่เขาทำไม่ดีกับเรา ทำให้เราไม่พอใจเรากลับมองว่าการกระทำเช่นนั้นเป็น

“สิ่งที่ไม่สมควร” เป็นเรื่อง “ไม่ธรรมดา” …ดังนั้นจึงฝังใจเราได้ง่ายกว่า

 

อันที่จริงเขาอาจไม่ได้ทำ ผิ ด พ ล า ด เกินวิสัยปุถุชนแต่ความที่เรามักจะมีความคาดหวังสูงจากคนใกล้ชิด

ความ ผิ ด พ ล า ด ของเขาแม้เพียงเล็กน้อยก็ทำให้เรารู้สึก แ ย่ ขุ่นเคือง หรือน้อย เ นื้ อ ต่ำใจได้ง่ายและนาน

 

คนในบ้านหรือคนใกล้ตัวนั้น ไม่ว่าจะดีแสนดีเพียงใดก็ย่อมมีวันที่ต้องกระทบกระทั่งกับเราบ้าง

แต่หากเราไม่ฝังใจอยู่กับเหตุการณ์เหล่านั้นหันมามองและชื่นชมคุณความดีของเขา

 

เปิดใจรับรู้ความรักที่เขามีต่อเรา เราจะรักเขาได้ง่ายขึ้นและตระหนักว่าเขามีความสำคัญต่อชีวิตของเรา

ยิ่งกว่าคนไกลตัว เ สี ย อีก อ ย่ า รอให้เขาจากไป เ สี ย ก่อนถึงค่อยมาเห็นคุณค่าของเขาถึงตอนนั้นก็สายไป เ สี ย

แล้วอะไรก็ตามยิ่งอยู่ใกล้ตัวมากเท่าไรเราย่อมหน่ายแหนงและระอาได้ง่ายมากเท่านั้น

 

ขอบคุณ kubkhao

Load More In บทความ
Comments are closed.

Check Also

คนที่ให้เงินเขายืม มักจำได้ แต่คนที่ไปยืมเงินเขามามักจะลืม

คนที่ให้เ งิ นเขา ยื ม มักจำได้ แต่คนที่ไปยื มเ งิ นเขา … …