1. ตั้งคำถาม ถามพนักงาน
ประสิทธิภาพในการทำงานที่ลดลง บ่อยครั้งมีจุดกำเนิดมาจาก การที่ พนักงานไม่รู้ว่าหัวหน้าต้องการ
หรือมีความคาดหวังจากตัวพวกเขาในเรื่องใด
หรือบางครั้งยังรวมไปถึง การสื่อส ารโดยใช้ข้อมูลผิด ๆระหว่างเพื่อนร่วมงาน ดังนั้น หัวหน้าจึงควร
เริ่มต้นที่ การตั้งคำถามพนักงาน เพื่อให้เกิดความแน่ใจว่า
พนักงาน เข้าใจในเนื้ องาน ตลอดจนความคาดหวังในการทำงาน ที่คุณต้องการให้เกิดขึ้นอย่ างแท้จริง
การเริ่มต้นด้วยการตั้งคำถาม ยังทำให้คุณสามารถรู้
ในแง่มุมของพนักงาน ด้วยอีกว่า พวกเขาต้องการหรือคาดหวังอะไร
2. ฟังพนักงาน ด้วยความใส่ใจ
ใช้เวลาไปกับการฟัง เพื่อที่จะได้รู้ว่า สิ่งที่พนักงานกำลังทำนั้น ถูกต้องตามความต้องการของคุณ
ตลอดจนพวกเขาเข้าใจมันมากน้อยเพียงใด บางทีอาจมีปัจจัยบางอย่ าง
ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน และส่งผลให้งานดำเนินไปอย่ างยุ่งย าก เกินความจำเป็น เช่น ปัญหาที่พนัก
งานคนนี้ ทำงานช้า อาจเกิดจากพนักงานแผนกอื่น
ที่ทำงานร่วมกัน ทำงานช้า หรือบางทีที่ระบบทั้งหมดขององค์กร ดำเนินไปอย่ าวุ่นวาย อาจจะเกิดจาก
partner รายใหม่ไม่สามารถจัดการสถานการณ์ได้ดี เหมือนดังเช่น partner รายเก่า
3. ให้การยอมรับพนักงาน
ให้การยอมรับ และใส่ใจในความรู้สึกของพนักงาน การที่จะเข้าใจความรู้สึกของพนักงานได้
อาจต้องใช้วิ ธีมองแบบ ‘Point of View’
หรือมองจาก ‘มุมมองของพนักงาน’ เมื่อพนักงาน เกิดความรู้สึกมีส่วนร่วม
และรู้สึกถึงความีคุณค่าในตนเอง นั่นจะกลายเป็นพื้นฐานที่สำคัญยิ่ง
ต่อการทำงานร่วมกัน และจะทำให้องค์กร ประสบความสำเร็จเป็นลำดับต่อไป
4. สื่อส ารกับพนักงาน ให้มากขึ้นกว่าเดิม
ทำงาน ด้วยการมีปฏิสัมพันธ์กับพนักงานอย่ างต่อเนื่อง เวลาเจอปัญหาในการทำงาน
จะทำให้สามารถระบุถึงที่มาที่ไป และเข้าใจถึง ธรรมชาติ
ในปัญหาอย่ างแท้จริง หลังจากนั้น ก็จะเจอวิ ธี ที่เป็นไปได้ ในการหา
ทางออกให้กับปัญหานั้นๆการสื่อส ารที่มากขึ้น
และมีความชัดเจน จะช่วยชี้ชัดๆ ให้เห็นว่า อะไรในองค์กร ที่สมควรจะเปลี่ยน
และผลที่ได้จากการเปลี่ยนนั้น จะเป็นเช่นไร
5. ลงมือแก้ปัญหาในทันที
แก้ปัญหา ด้วยการให้หลายๆ ฝ่ายร่วมมือกันในวางแผน และพัฒนา..
ไม่ว่าจะด้วยวิ ธีใดก็ตาม หากสามารถหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน
แนวทางในการจัดการก็จะดำเนินไปร่วมกัน นั่นหมายถึงประสิทธิภาพของงาน
จะออกมาเร็วขึ้น ดีขึ้นและสิ่งที่วางแผนนั้น ก็จะได้ใช้ประโยชน์โดยทั่วถึงกัน
ขอบคุณที่มา : forlifeth