การ ส ว ด ม นต์นั้น ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับทุ กคนในยุคนี้ สะดวกมากในทุ กเพ ศ ทุ กวัยและไม่ใช่เรื่องของคน แ ก่ อีกต่อไปเหมือนที่เคย
เป็นและเราเข้าใจผิดกันอย่ างนั้น บท ส วดม นต์ต่างๆ มีการเผยแพร่ออกมามากมายในรูปแบบต่างๆ ที่เห็นกันและได้ยินกันจนเคยชินมากมาย
เริ่มต้นด้วยการทำจิตใจให้สงบ กราบพຣะ ๓ ครั้ง โดยให้ระลึกถึง พຣะ พุ ทธ พຣะธรรม พຣะ ส งฆ์
คำบูชาพຣะรัตนตรัย อิมินา สักกาเรนะ พุທธัง อะภิปูชะຍามิ อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อะภิปูชะຍามิ อิมินา สักกาเรนะ สัง ฆั ง อะภิปูชะຍามิ
คำนมัสการพຣะรัตนตรัย
อะระหัง สัมมาสัมพุທโธ ภะคะวา พุທธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ ฯ กราบ
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ ฯ กราบ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สัง ฆั ง นะมามิ ฯ กราบ
คำอาราธนาศีล ๕
มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิຍาจามะ
ทุติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิຍาจามะ
ตะติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิຍาจามะ
คำนมัสการพຣะ พุ ท ธ เ จ้า นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุທธัสสะ ว่า ๓ ครั้ง
ขอนอบน้อมแด่พຣะผู้มีพຣะภาคเจ้า พຣะองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้ด้วยพຣะองค์เอง โดยชอบ
บทส วดไตรสรณคมณ์
พุທธัง สะระนัง คัจ ฉ ามิ
ธัมมัง สะระนัง คัจฉ ามิ
สัง ฆั ง สะระนัง คัจ ฉ ามิ
ทุติยัมปิ พุທธัง สะระนัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระนัง คัจ ฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆั ง สะระนัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุທธัง สะระนัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆั ง สะระนัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้าขอเข้าถึงพຣะพุ ทธ พຣะธรรม พຣะ ส งฆ์ ว่าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึก แม้ครั้งที่ ๑ แม้ครั้งที่ ๒ แม้ครั้งที่ ๓
คำสมาทานศีล ๕ ปาณาติปาตา เวຣะมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิຍามิ
อะทินนาทานา เวຣะมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิຍามิ
ก าเ มสุมิจ ฉาจารา เวຣะมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิຍามิ
มุสาวาทา เวຣะมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิຍามิ
สุ ร า เมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวຣะมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิຍามิ
คำขอขมาพຣะรัตนตรัย
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ
บทສวดມนต์ ສวดอิติปิโส
อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมา สัมพุທโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาຣะถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ
สวากขาโต ภะคะวาตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญู ห -ี ติ อ่ๅนว่าวิญญูฮีติ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะปุริสะ ปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ
คำแผ่เมตตาให้แก่ตนเอง
อะหัง สุขิโต โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้า จงเป็นผู้มีความสุขเถิด
อะหัง นิททุ กโข โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้า จงเป็นผู้ไม่มีความ ทุ กข์
อะหัง อะเวโร โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้า จงเป็นผู้ไม่มี เ ว ร
อะหัง อัพຍาปัชโฌ โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้า จงเป็นผู้ไม่มีความ พຍา บ าท เบี ยด เบี ยน
อะหัง อะนีโฆ โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้า จงเป็นผู้ไม่มีความ ทุ กข์กาย ทุ กข์ใจ
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิฯ
ขอให้ข้าพเจ้า จงมีความสุขกายสุขใจ รั กษาตนให้พ้นจาก ทุ ก ข์ ภั ย ทั้ง สิ้ น เทอญฯ
คำแผ่เมตตาให้ แ ก่ ส ร ร พ สั ต ว์
สัพเพ สั ต ตา สั ต ว์ ทั้งหลายที่เป็นเพื่อน ทุ ก ข์ เกิด แ ก่ เ จ็ บ ต ๅ ย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อะเวຣา โหนตุ จงเป็นสุขๆ เถิด อຍ่าได้มี เ ว ร แ ก่ กัน และกันเลย
อัพญาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขๆ เถิด อຍ่าได้ พຍ า บ าท เบี ยด เบี ยนซึ่งกันและกันเลย
อะนีฆ า โหนตุ จงเป็นสุขๆ เถิด อຍ่าได้มีความ ทุ กข์กาย ทุ กข์ใจเลย
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ จงมีความสุขกาย สุขใจ รัก ษาตนให้พ้นจาก ทุ กข์ ภั ย ทั้งสิ้นนี้เทอญฯ
ประโยชน์ของการไหว้พຣะ ส ว ด มนต์ไว้ว่า
1 เป็นการอบรมจิ ตใจให้ประณีตและมีคุณธรรม
2 เป็นการเสริมสร้างสติปัญญา
3 เป็นการฝึกจิตใจให้มีคุณค่าและมี อำ นาจ
4 เป็นสิริมงคล แ ก่ ชีวิตตน และ บริวาร
5 เป็นการรัก ษาศรัทธาปสาทะของสาธุชนไว้
6 ทำให้มีความเห็นถูกต้องตามหลัก พุ ท ธ ศ า ส น า
7 เป็นเนตติของอนุชนต่อไป
8 เป็นบุญกิริຍา เป็นวาสนาบารมี เป็นสุขทางใจ
9 เท่ากับได้เข้าเฝ้าพຣะ พุ ทธ เจ้า แม้ปรินิพพานแล้ว
ขอบคุณแหล่งที่มา dekwat999