1. อย ากให้ยอมรับเอง
เรื่องบางเรื่องมันชัดเจน แต่ยังแถว่าไม่ได้ทำ พอให้หาหลักฐ านมาอธิบาย
ในสิ่งที่เกิดขึ้นคุณก็ตอบไม่ได้ ก็เลยต้องเงียบไปก่อน
ให้เวลาคุณไปทบทวนตัวเองไงว่าจะยอมรับตอนไหน เช่นว่า เห็นแฟนเรา
นั่งจับมือกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ หากกลื นกินได้
ก็ทำแล้วแล้วเราเอง รอดูความสวีท ของทั้งสองจนเขาแทบ จะเดินประคอง
กันผ่ านเราไปแบบมองไม่เห็นเรา เราถ่ ายรูปไว้
จากนั้นไปเจอแฟนตามที่นั ดเจอกันพอเขาเห็นรูป เขาก็ปฏิเสธแล้วบอกว่า
เป็นเพื่อนกันซะอย่ างงั้น ไม่พอนะยังหาว่าเราตาฝ าดอีก
2. ส่วนหนึ่ง เพราะต้องการให้ง้อ
เพราะอย ากรู้สึกว่าตัวเองสำคัญ เรารักใครสักคน เราก็จะอ่อนไหวกับคนคน ๆ นั้น
กับเพื่อน คนรู้จักทั่วไปจะทำอะไรเรายังไงก็ได้ แต่เมื่อเป็นแฟนขึ้นมา
ความขิ้งอนจะทำงานขึ้นมาทันใดแตะปุ๊บ พร้อมงอนปั๊บ เพราะต้องการให้เขาง้อ
ให้เขาได้รู้ว่า เราสำคัญนะ
แค่นี้เอง แต่เรื่องงอนนี่คุณผู้หญิงรู้เอาไว้เถิด งอนได้แต่ให้พองาม
เดี๋ยวเขาจะรำค าญเอา
3. เอือมระอา แล้วไม่อย ากพูด
ทำผิดครั้งสองครั้ง มันพออภั ยแต่ถ้าทำผิดซ้ำ ๆ มันก็เอือม เมื่อไหร่ที่ผู้หญิงไม่พูด
เพราะความเอือมเขาพร้อมเดินจากคุณไปทันที มันไม่ใช่เรื่องดี
ในความสัมพันธ์เลยจริง ๆ มีแต่ทำให้ทุ กอย่ างเล วร้า ยลงแล้วพอเริ่มเปลี่ยนพฤติก ร รม
โกรธเพราะอะไร ชอบไม่ชอบอะไร คุยอย่ างมีเหตุผล
ทุ กอย่ างเคลียร์ ชีวิตจะดูไม่หนักมันทำให้นึกถึงประโยคที่คุณนิ้วกลมที่บอกว่า
“ความสุขไม่ซับซ้อน อะไรที่ซับซ้อน จะไม่สุข” อันนี้ใช่เลย
4. รู้จักตัวเอง ว่าใจร้อน
หญิงสาวบางคนรู้จักตัวเองดีว่า เป็นคนใจร้อน เลยชอบเงียบ ขอเวลาทำให้ตัวเองสงบ
ค่อยปรับความเข้าใจกัน แต่การหลบหน้านั้น ผู้ชายจะสงสัยว่าเราโกรธอะไร
ทำไมเราถึงไม่พูดที่จริงแล้วอย ากพูดนะ แต่ต้องไม่ใช่ตอนที่อ ารมณ์ที่ยังร้อน
ขืนพูดออกไป ตอนที่อ ารมณ์ยังไม่คงที่ มีหวังทะเล าะกันใหญ่โต
ขอบคุณที่มา : long-oie
