วันนี้เรามีบทความดี ๆ มาฝากให้คุณได้อ่ านกัน โดยข้อคิดจากท่าน ว.วชิรเมธี
ได้ให้ข้อคิดในด้านการประสบความสำเร็จ ว่าไม่ใช่ว่าคุณจะมัวแต่ทำงานหนัก
หรือทำให้มีฐานะร่ำร วย คุณกำลังลืมไป ว่าแท้จริงยังมีครอบครัวพ่อแม่
และสำคัญเลยคือสุ ขภาพ และความสำเร็จด้านอื่น ๆ อีก
คนที่ทำแต่งานหนักเพื่อหวังสำเร็จ แต่ด้านงานแล้วไ ม่สนใจอะไรทั้งสิ้นมองแต่
ด้านการทำงานแล้ว ไม่สนอะไรผลแท้จริง คือ วันนึงพอคุณป่ วยถึงขั้นไม่มีเวลาไป
หาหมอแล้ว ยังฝืนทำงานหนักต่อ เพราะมองว่าไม่มีเวลา
ท้ายสุดคนเหล่านี้ จะมีแค่เวลาแท้จริง ในห้องผู้ป่ วยเท่านั้น และอย ากยกตัวอย่ าง
คนสมัยก่อนทำงาน เพื่อหาเงิ นเก็บไว้ ใช้ย ามแ ก่เฒ่า แต่คนในยุคทุนนิยม
บริโภคทำมาหากิน เพื่อสะสมทรัพย์สินแข่งกัน บางคนก็มีมากจนเกินพอใช้แล้ว
แต่ก็ยังไม่หยุด สุดท้ายก็ต้องเอาเงิ นเก็บ ที่หามาได้มากมาย มาไว้เพื่อ ใช้รั กษาตัว
ฉะนั้นถ้าเราอย ากจะใช้ชีวิตอย่ างปกติสุข ต้องระวั งอย่ าทำงาน จงหลงลืมการดูแลร่ างกาย
ทรัพย์สินที่มีค่ามากที่สุดก็คือ “ตัวคุณเองร่ างกายของคุณสุ ขภาพ ของคุณเอง“
เมื่อในวัยทำงานคุณเคยใช้ “สุ ขภาพของคุณ” แบบเปลืองมาก ๆ “เพื่อให้ได้เงิ นมา”
พอมาถึงตอนปลายของชีวิตแล้ว คุณจะพบว่า…ต่อให้มีเงิ นร้อยล้านพันล้าน
ไม่ช่วยให้หายจาก โ ร คเ บาหวานที่สะสมมาเป็น 10 ปี หายไป
ต่อให้มีบ้านหลังใหญ่ ไม่ช่วยให้ความทรม านจาก โ ร คเข่าเสื่ อมหมดไป
ต่อให้มีรถหรูราคาแพง ไม่ช่วยให้ โ ร ค ม ะ เ ร็ ง รั กษาได้
เรียงลำดับแบบง่าย ๆ ลงมาจะพบว่า “เงิ นเวลาสุ ขภาพ” แบบนี้เรียกว่าเข้าใจผิดยังใช้ชีวิต แบบประมาทอยู่
ระดับความสำคัญแบบที่ถูกต้องมันจะต้องเป็น “สุ ขภาพเวลา แล้วค่อยเ งิน”
มันไม่แปลกที่วันนี้ คุณจะโหมทำงาน อย่ างหนัก…!!แต่ก็มีขอบเขตที่จะหยุด เพื่อรั กษาสุ ขภาพ ให้สมดุล
สิ่งที่แปลกคือคนส่วนใหญ่ ยังโหมทำงาน อย่ างหนักโดย ไม่สนอะไรนอกจาก “เงิ น เงิ น แล้วก็เ งิน”
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า ตอนจบคุณก็รู้ว่าเป็นไง รว ยหรือไม่ ร วยยังไม่รู้ ไม่แน่นอน
แต่ความแ ก่ความ ต าย และสุ ขภาพที่ถดถอยลงทุ กวัน มาแน่นอนคนที่ประสบความสำเร็จ
แท้จริ งแล้วไม่ใช่ คนที่มีเ งินเยอะที่สุดแต่เป็นคนที่ใช้” สุ ขภาพเวลา ไปแลกเงิ น” ได้คุ้มค่าและดีที่สุด
และมีเวลาและสุ ขภาพเหลือมากพอ ที่จะใช้ชีวิต อยู่กับคนที่เรารัก
ในแบบที่มีเงิ นและคุณภาพชีวิตที่ดี ไปพร้อม ๆ กันได้
ขอบคุณที่มา : pankanan