ถ้าถึงวันนั้น เมื่อวันที่ฉันได้จากโลกนี้ไป คนที่แค้ นฉัน พากันร้ อ ง รำทำเพลง
หัวเราะดีใจ คนที่รักฉันพากันร้ อ งไ ห้ร ะง ม
วันที่ฝั งร่ างของฉัน คนที่แค้ นฉันมองไปที่ห ลุ ม ศ พ แล้วยิ้ม เย้ยฉันที่มุมปาก
คนที่รักฉันได้แต่เบื อนหน้าหนี
เพราะไม่อย ากเห็นร่างของฉัน ที่กำลังจะถูกดิ น ก ล บไป และหนึ่งปีผ่ านไป
ฉันเหลือแต่โ ค ร ง ก ระ ดู ก หลุมศ พ ถูกพ ายุ ถูกลมฝนซั ด ส าด
และคนที่แ ค้ นฉัน นาน ๆ พูดถึงฉันทีพูดทีไร เขาก็รู้สึกนึกชิ ง ชั งฉันอยู่เนือง ๆ
ส่วนคนที่รักฉัน ไม่รู้จะบอกความในใจกับผู้ใด
ก็ได้แต่ร้ อ งไ ห้ ในค่ำคืนนั้นเมื่อสิบปีให้หลัง คนที่แ ค้นฉัน พอจำชื่อฉันได้ แต่แทบ
จะจำใบหน้าฉันไม่ได้เลยและคนที่รักฉัน เมื่อไหร่ที่นึกถึงฉัน
พวกเขานั้น พากันนิ่งเงี ยบไปสักพัก หลายสิบปีผ่ านไป ผ่ านไปนานมาก ห ลุ ม ศ พ
ของฉันยังคง ถูกลมฝนพ ายุซั ดกระหน่ำ ไม่เคยเปลี่ยน
ส่วนคนที่แ ค้ นฉันร่ าง ของเขาก็ถูกฝั งลงในป่าช้ าเดียวกันกับฉันนี่แหละคนที่รักฉัน
ก็ถูกฝั งไว้ในป่าช้ าเดียวกับฉัน ฉันกลายเป็นความว่างเปล่า ของโลกนี้
แม้หามาทั้งชีวิตแม้แต่ต้นหญ้าเพียงต้นเดียว ฉันก็เอาติ ดตัวไปด้วยไม่ได้เลย
แม้จะแ ก่ งแ ย่ งช่วงชิ งกันไป เมื่อย ามอนิ จจั ง
มาเยื อนทุ กสิ่งล้วนว่างเปล่าเสมอควรสั่งสมคุณธรรม ความดีไว้บ้างเมื่อถึงเวลาไป
เพื่อจะให้คนข้างหลัง ได้ระลึกหา ให้เสบียงในภพหน้าไม่ข ๅ ดพร่ อ ง
เพราะหากถึงเวลานั้น อย ากทำก็สายไปเสี ยแล้วตร าบที่เรายังมี ลมห ายใจอยู่แล้ว
ละก็ ชีวิตมันต้องดีขึ้นแน่ขอให้เราอดทน ให้เป็น อยู่ให้ได้และหมั่นทำแต่ความดีไว้
เท่านั้นเอง
ขอบคุณที่มา : tamnanna