Home บทความ เมื่อถูกเลิกจ้างตอนวัยกลางคน (ข้อคิดเตือนสติคน)

เมื่อถูกเลิกจ้างตอนวัยกลางคน (ข้อคิดเตือนสติคน)

ปิดความเห็น บน เมื่อถูกเลิกจ้างตอนวัยกลางคน (ข้อคิดเตือนสติคน)
0

ลองสังเกตดู เวลาที่เขาเปิดรับสมัครงาน สิ่งที่เขาให้รายละเอียด นอกจากเรื่องวุฒิการศึกษา

ประสบการณ์การทำงาน สิ่งที่เขามักจะกำหนดในการสมัคร คือ อายุุ

 

เช่น ตำแหน่งนี้ต้องการคนมีประสบกาณณ์ด้านนี้อย่างน้อย 2 ปี อายุุ 25 – 35 ปี แบบนี้เป็นต้น

ซึ่งในหลายๆอาชีพหลายๆสายงาน ก็มักจะรับคนที่อายุุไม่เกิน 40 ปี น้อยมากที่จะรับคนที่อายุุมากกว่านี้

 

ถ้าไม่ใช่งานเฉพาะทางจริงๆ ที่ไม่กำหนดอายุุ หรือแม้แต่การสอบชิงทุนไปเรียนต่างประเทศ

หรือการไปทำงานต่างประเทศ ก็มีการกำหนดเกณฑ์อายุุไว้ด้วยเช่นกัน

 

เราเคยหันกลับมาถามตัวเองดูไหม เคยตั้งคำถามดูบ้างไหม ว่าถ้าเราต้องตกงาน

ในตอนที่เราอายุุ 40-50 ปีแล้วนั้น เราจะทำอย่างไรกับชีวิต

 

จะไปหาสมัครงานเหมือนสมัยหนุ่มๆสาวๆก็ยากแล้ว เพราะอายุุเกินไปแล้ว

คนที่เพิ่งจบใหม่ เขามักจะไม่ค่อยคิดมากกับเรื่องนี้กันหรอก

 

เพราะเขาใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆก็มีความสุขดีแล้ว ขอแค่สิ้นเดือนเงินเดือนออก

เอาไปจ่ายค่าผ่อนรถผ่อนบ้าน ผ่อนค่า บั ต ร เ ค ร ดิ ต ใช้กินใช้เที่ยวแต่ละเดือนก็หมดแล้ว

 

หลายคนมักจะใช้ชีวิตตามคนอื่น วิ่งตามกระแส ต้องมีแบบนั้นอายุเท่านั้นเท่านี้

อยากมีตามคนนั้นคนนี้ โดยที่ไม่ได้มองเลยว่า เราพร้อมแล้วจริงๆ

 

หรือยังกับการที่ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ โดยเฉพาะค่ารถ กับค่าบ้าน

ชีวิตติดอยู่ในกรงล้อ ที่ต้องตื่นมาทำงาน เลิกงานก็ไปปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อน

 

กลับบ้านนอนแล้วตื่นไปทำงานใหม่ วันหยุดก็ออกไปเที่ยวไปใช้เงิน ยิ่ง เ ค รี ย

ยิ่งใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเยอะเข้าไปอีกแต่กลับลืมคิดไปว่า ในแต่ละวันที่หมดไปนั้น

 

เท่ากับเวลาในชีวิตก็เหลือน้อยลงเรื่อยๆมีคนจบใหม่ที่สามารถเข้ามาทำงานแทนเราได้ในทุกๆปี

แต่เรากลับยังคนใช้ชีวิตแบบไม่มี ส า ร ะ ไปวันๆไม่มีการวางแผนชีวิตข้างหน้า

 

ไม่มีแผนการเงินเพื่อเกษียณ ไม่เคยคิดที่จะเพิ่มทักษะความรู้ใหม่ๆ

เพื่อพัฒนาตัวเอง ที่จะนำไปเพิ่มเงินเดือนให้เราได้ ชอบอ้างแต่ไม่มีเวลา แค่ทำงานกลับมาก็เหนื่อยจะ แ ย่ แล้ว

 

แต่กลับมีเวลาไปสนใจว่าดาราคนไหนจะคบจะเลิกกับใคร หรือใครกำลังทำอะไร

ลองเปลี่ยนใหม่หันมาสนใจตัวเราเอง ว่าควรจะทำอะไรกับชีวิตของเราดี

 

อย่าไปเสียเวลาชีวิตของเราเพื่ออยากรู้เรื่องคนอื่นเลย มันเสียเวลาเปล่า

เริ่มคิดได้แล้ว วางแผนชีวิตให้ดี อยากให้ชีวิตข้างเป็นอย่างไร เริ่มจากการกระทำ

 

และความคิดของเราในวันนี้ เริ่มลงมือทำมันซะตั้งแต่วันนี้ ดีกว่ามาพูดทีหลังว่า

“รู้งี้” เพราะถ้าถึงเวลาที่ต้องใช้คำนี้ ก็คงจะสายไปเสียแล้วที่จะได้ทำมัน

 

ที่มา : b i t c o r e t e c h

Load More In บทความ
Comments are closed.

Check Also

คนที่ให้เงินเขายืม มักจำได้ แต่คนที่ไปยืมเงินเขามามักจะลืม

คนที่ให้เ งิ นเขา ยื ม มักจำได้ แต่คนที่ไปยื มเ งิ นเขา … …