1. ความยึดมั่น ถือมั่น
ถัดไปจากการตัดอัตตาทิ้งไปแล้ว ก็ต้องตัดความยึดมั่น ถือมั่นทิ้งไปด้วย ยึดมั่นในที่นี้ไม่ได้เฉพาะเจาะจงแค่ตัวเอง
แต่เป็นการเอาตัวเองไปผูกยึดกับคนหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นของเราอย่ างถาวร
แม้แต่ร่า งกายก็แค่ยืมมาใช้เท่านั้น เมื่อหมดอายุขัยก็ต้องคืนร่า งกายนี้ไป ดังนั้นยึดถือไว้ก็มีแต่หนัก ไม่มีประโยชน์ใด ๆ เลย
2. อัตตา
คือตัวตน มนุษย์ทุ กคนมีสิ่งที่เรียกว่าอัตตาอยู่ในตัวด้วยกันทั้งนั้น มากบ้าง น้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับสิ่งที่สั่งสมมาในชีวิต
ท่านพุทธทาสเคยกล่าวไว้ว่า “อย่ าเห็นอะไร ๆ เป็น “ตัวกู” หรือ “ของกู” แต่จงทำอะไร ๆ
ด้วยความรู้ตัวอย่ างแจ่มแจ้ง แล้วเราก็จะไม่เป็นทุ กข์”
3. อดีตที่ไม่น่าจดจำ
คิดไว้เสมอว่าอดีต ก็คืออดีต โดยเฉพาะอดีตที่ผิ ดพลาด ไม่น่าจดจำ จะย้อนไปแก้ไขอะไรก็ไม่ได้
เปลี่ยนแปลงอะไรก็ไม่ได้ เราทำได้แค่เพียงเก็บอดีตเหล่านั้นไว้เป็นบทเรียน
เป็นประสบการณ์ที่คอยสอนตัวเองไม่ให้ผิ ดพลาดซ้ำ ๆ ซาก ๆ อีก แต่อย่ าเก็บมาคิด
จนทำให้ชีวิต ก้าวไปข้างหน้าไม่ได้ เพราะสุดท้ายแล้วก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้อยู่ดี
4. คนที่ไม่สำคัญ
ลองนึกดูให้ดี บางทีเราก็มีคนไม่สำคัญในชีวิตมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นคนรักเก่าที่ตัดไม่ข าด
หรือเพื่อนไม่ดีที่เลิกคบไม่ได้ซะที คนเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะคอยบั่นทอนกำลังใจในการใช้ชีวิตเรา
แต่ยังฉุดพรากตัวเราให้เดินหน้าต่อไปไม่ได้ซักที เพราะมัวแต่ยึดติ ด ทางที่ดีคือตัด ๆ ออกไปซะบ้าง
คนไม่ดีคบไปก็เปล่าประโยชน์ มีแต่จะพาเราไปพบเจอแต่เรื่องไม่ดี เข้าทำนองคบคนพาล พาลพาไปหาผิดนั่นแหละ
5. ความคิดแง่ลบ
ผลวิจัยในต่างประเทศระบุว่าคนเรามีความคิดไม่ดีหรือความคิดลบมากกว่าความคิดในแง่บวกซะอีก
และความคิดแง่ลบก็จะทำให้เกิดจินตนาการร้ า ย ๆ ที่ทำให้เรามองโลกในแง่ร้ า ยโดยไม่รู้ตัว
พอมองโลกแง่ร้ า ยมากเข้าก็เป็นอุปสรรคกับการใช้ชีวิต ทำให้ไม่กล้าที่จะเริ่มต้นทำอะไรซักอย่ าง
ที่สำคัญก็คือเราจะไม่สามารถมีความสุขกับอะไรได้สักอย่ าง เพราะความคิดของเราจะจมดิ่งอยู่แต่กับเรื่องร้ า ย ๆ นั่นเอง
6. ปัญหาที่แก้ไม่ได้
บางคนไม่รู้ว่าบางปัญหาก็ไม่ได้มีไว้แค่ แต่มีไว้ให้เรายอมรับและอยู่กับมันให้ได้ต่างหาก
เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่เจอปัญหาที่แก้ไม่ได้ อย่ าเพิ่งตั้งหน้าตั้งตาแก้ให้สำเร็จในคราวเดียว
การทำแบบนั้นมีแต่จะทำให้หมดพลังชีวิตและเครียดโดยใช่เหตุไปซะเปล่า เมื่อรู้แล้วว่าปัญหานั้นแก้ไม่ได้
สิ่งที่เราต้องทำก็คือเลิกคิด เลิกแก้ แต่ให้หาทางที่จะอยู่กับปัญหานั้นอย่ างสงบสุขแทน
7. นิสัยแ ย่ ๆ
เราทุ กคนมีนิสัยด้านลบในตัวด้วยกันทั้งนั้น ทั้งความขี้เกียจ เห็นแ ก่ตัว ขี้วีน ฯลฯ
บางคนรู้ทั้งรู้แต่ ก็ปล่อยให้เจ้านิสัยแ ย่ ๆ เหล่านี้เกาะกินจนกลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง
ซึ่งนิสัยเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้เราไปไม่ถึงจุดหมาย แต่บ่อยครั้งที่ยังมาบั่นทอนความก้าวหน้าในชีวิต
สิ่งที่เราทำได้ก็คือเราต้องรู้จักตัวเอง รู้ว่านิสัยเราเป็นยังไง อะไรที่รู้ว่าแ ย่ ว่าผิดก็ต้องตัดไฟเ สียตั้งแต่ต้นลม
เพื่อไม่ให้นิสัยแ ย่ ๆ มาเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต
8. ความกลัวที่จะผิ ดพลาด
ความกลัวเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คนทุ กคนมีความกลัวด้วยกันทั้งนั้น แต่ต้องไม่ใช่ความกลัวที่จะผิ ดพลาด
จนไม่กล้าเริ่มอะไรซักอย่ าง เพราะความผิ ดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ เมื่อไหร่ก็ตามที่เรากลัวที่จะผิ ดพลาด
ก็หมายความว่าเราไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จได้เลย ทางที่ดีอย่ ากลัวที่จะทำผิด แต่ให้กลัวที่จะไม่ได้ทำจะดีกว่า
9. การมองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง
รู้หรือไม่..เราทุ กคนมีคุณค่าในตัวเอง ถ้าเราเองยังไม่สามารถนับถือและเคารพตัวเองได้
แล้วใครที่ไหนจะมานับถือในคุณค่าของเรา ซึ่งการเห็นคุณค่าในตัวเองก็จะทำให้เรามั่นใจขึ้น
เข้มแข็งและพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าได้อย่ างมั่นคง
10. ความคิดของคนอื่น
บ่อยครั้งที่ความคิดของคนอื่นทำให้เรารู้สึกแ ย่โดยไม่จำเป็น ทั้งที่ความจริงแล้วความสุขของเราต่างหาก
ที่ควรจะมาเป็นอันดับหนึ่ง อย่ าเอาความคิดของใครมาทำให้เราเป็นทุ กข์ เค้าจะคิดยังไงก็เป็นเรื่องของเค้า
เราควบคุมความคิดของเค้าไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะมีทำในสิ่งที่เรามีความสุขได้
ขอบคุณที่มา : profession-j55