คนซื้อ : ผักมัดเท่าไหร่จ๊ะย าย…???
คุณย า ย : 10 บาทจ้า
คนซื้อ : 3 กำ 25 บาท ได้ไหมจ๊ะย าย
คุณย าย : หลานจ๊ะ ผักนี้ย ายปลูกเองกับมือ เป็นผักปลอดส ารเคมีนะ
และ มาเดินขายยืนตากแดด ตั้งแต่เช้าต้นทุนมาก็มากโขอยู่
คุณย ายถามกลับ : แล้วกาแฟแก้วที่หลานถืออยู่น่ะ ราคาเท่าไหร่หรอ
คนซื้อ : 150 บาท
คุณย าย : แล้วหนูต่อราคาเขาไหม
คนซื้อ : จะบ้าหรือ…!!! นี่มันกาแฟมียี่ห้อ เขาไม่ต่อกันหรอก
กับคนร วย ๆ คุณไม่ต่อเขาสักบาทเดียว แต่พอกับคนหาเช้ากินค่ำแบบคุณย าย….
คุณกับต่อราคากันจนเป็นเรื่องปกติ
เพราะอะไร…? เราจึงต่อราคากับแม่ค้า ที่ต้องยืนขายของกลางแดดร้อน ๆ…
แต่.. กลับไม่เคยต่อราคากับพ่อค้าที่ร่ำร วย ตามห้างฯ หรือภัตตาคารเลย
“บางคน” ซื้อกาแฟร้านหรู… มักจะ “เช็คอิน ถ่ายรูป โพสอ วดร วย”
แต่.. พออย ากจะกินผักสด ๆ ตามตลาด ซื้อเสื้อผ้าตามตลาดนัด
มักจะกลายเป็นคนไม่มีตัง “ชอบต่อราคา ชอบขอส่วนลด” ขึ้นมาทันที…
เงิ นแค่ 5 บาท 10 บาท มันธรรมดามากสำหรับเจ้าของร้านกาแฟหรูในห้าง
แต่สำหรับพ่อค้าแม่ค้าริมทาง… มันอาจจะเป็นความเจ็ บป วดก็ได้นะ
จุดสำคัญคือว่า ทำไมเราชอบภูมิใจเวลาเราซื้อของ
จากพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นชาวบ้านลำบากอยู่แล้ว
เรามักต่อรองราคาและรู้สึกพึงพอใจ ถ้าหากว่าเราต่อราคาได้ถูกกว่าราคาที่เขาขาย…
แล้วทำไมเรามักไม่เคยได้ต่อรองราคาสินค้าราคาแพง ๆ
ที่เขาโก่งราคาไว้เรียบร้อยหมดแล้ว แปลกไหมละ…?
ในทางกลับกัน… บางคนมักจะชอบซื้อของจากคนจน ๆ และให้ราคาสูง
ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ต้องการสินค้าเหล่านั้น.. แค่ต้องการให้เ งินแ ก่พวกเขาเพื่อนำไปใช้เลี้ยงครอบครัวเขา
ถามว่าทำไมต้องทำแบบนั้น มันเป็นการทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่ามีคุณค่าในตัวเอง…
มันเป็นการช่วยเขา ที่ทำให้เขาไม่เสี ยศักดิ์ศรีครับ อย่ างน้อย ๆ เขาก็ภูมิใจในการทำอาชีพสุจริต
ขอบคุณที่มา : bitcoretech