พ่อแม่และผู้ปกครองทุกท่าน ต่างก็อย ากให้บุตรหลานโตขึ้น มาเป็นเ ด็ กที่เก่งและมีอนาคตที่ดีด้วยกันทั้งนั้น เรามาดูวิ ธี
เลี้ยงลูกให้เก่งกว่าคนอื่น กันว่ามีอะไรบ้างเ ด็ กที่ข า ดความเชื่อมั่นในตนเองมักไม่กล้าเผชิญกับสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ
หรือทำสิ่งใดๆ ที่ท้าทาย เพราะกลัวความล้ ม เ ห ล วหรือ กลัวทำให้คนอื่นผิ ดหวัง สิ่งเหล่านี้ จะเป็นตัวถ่วงในการ
ประสบความสำเร็จในอนาคตของลูกต่อไป
ศั ต รูของความเชื่อมั่นคือความท้อใจและความกลัว ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่จะคอยช่วยเสริมแรง
และให้กำลังใจลูกสามารถก้าวผ่านสิ่งที่ย ากๆ ในอนาคตได้ ซึ่ง นาต าเรีย วอเธอร์ ได้เขียนแนะนำไว้มี 17 วิ ธีดังนี้
1. ฝึกการให้กำลังใจเพื่อสร้างความสามารถ
ควรให้กำลังใจและเสริมแ ร งให้ลูกทำในสิ่งที่ลูกสนใจ เพราะจะทำให้ลูกไม่รู้สึกกดดัน มมากจนเกินไป ฮาโมนี ชู นักเปียโนระดับโลก
บอ กในร า ยการทอล์กโชว์ของ เอลเลน ว่า เธอฝึกเล่นเปียโนตั้งแต่ 3 ขวบ และเล่นได้ดีเพราะได้รับกำลังใจจากครอบครัว
การฝึกความพย าย ามจะสร้างความเชื่อมั่นในการพัฒนาตนเองต ามมา
2. ชื่นชมกับความพยายามของลูก
ไม่ว่าลูกจะแพ้หรือชนะ เมื่อเราโตมากขึ้นเราจะพบว่าระหว่างการเดินทางมีค่ามากกว่าจุดหมายปล า ยทาง เมื่อลูกตั้งเป้าหมายเพื่อที่จะ
ชนะในการทำกิจก ร ร มบางอ ย่ าง แต่ต้องสะดุดล้มหรือพลาดพลั้งไม่ไปถึงเส้นชัย ให้เราให้กำลังใจกับความพย าย ามของลูกนั้น
อ ย่ าทำให้ลูกรู้สึกอายเมื่อเขากำลังพย าย าม ผลดีในระยะย าวคือลูก จะเรียนรู้ว่าความพย าย ามช่วยสร้างความมั่นใจได้อ ย่ างมากทีเดียว
3. ไม่วิพากษ์วิจารณ์การแสดงออกของลูก
ไม่มีสิ่งไหนที่ทำให้ลูกท้อใจเท่ากับการวิพากษ์วิจารณ์ลูกในความพย าย ามของเขา การให้คำแนะนำ หรือข้ อเสนอแนะสามารถทำได้บ้ าง
แต่อ ย่ าบอ กว่าลูกทำกิจก ร ร มนี้ ได้แ ย่จริงๆ ถ้าลูกกลัวที่จะล้ ม เ ห ล วเพราะกังวลว่าจะทำให้เราโ ก ร ธหรือผิ ดหวัง
ลูกจะไม่กล้าทำสิ่งใหม่ การที่พ่อแม่วิพากษ์วิจารณ์ลูกบ่อยๆ จะทำให้ลูกรู้สึก หมดคุณค่าในตัวเองและหมดแ ร งจูงใจด้วย
4. ให้ลูกฝึกแก้ปัญหาด้วยตนเอง
ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ช่วยแก้ปัญหาให้ลูกเสมอ ลูกจะข า ดทักษะในการพัฒนาด้านความเชื่อมั่นในการคิดแก้ปัญหาด้วยตนเอง
เมื่อผู้ปกครองคอยช่วยเหลือตลอ ดเวลา ลูกจะข า ดวิ ธีรู้จักคิดแก้ปัญหาและความเชื่อมั่นในตนเองจะหมดไป นั่นหมายความว่า
ยอมให้ลูกได้เกรด B หรือ C บ้ างแทนที่จะได้เกรด Aตลอ ดในขณะที่ลูกกำลัง เรียนรู้ในการแก้ปัญหาในการทำงาน
5. กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น
การตั้งคำถามที่ไม่จบไม่สิ้น อาจทำให้ลูกรู้สึกเหนื่อยและเบื่อหน่าย แต่ความจริงแล้วไม่ควรเป็นอ ย่ างนั้น ผู้ปกครองควรตั้งคำถาม
เพื่อช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเ ด็ ก เพื่อลูกจะเรียนรู้ว่ามีหล า ยสิ่งหล า ยอ ย่ างที่เรามองไม่เห็นในโลกนี้อีกมากมาย
ที่เรายังไม่ได้เรียนรู้ สิ่งเหล่านี้จะก ร ะตุ้ นให้ลูกมีความอย ากรู้อย ากเห็น มากขึ้น เ ด็ กที่ มาจากครอบครัวที่พ่อแม่ตั้งคำถามให้เสมอๆ
จะเรียนรู้ได้เร็วและดีกว่าเ ด็ กที่พ่อแม่หาคำตอบให้ตลอ ดเวลา
6. ให้ลูกแสดงพฤติกรรมตามวัย
ไม่ควรมีความคาดหวังให้ลูกแสดงพฤติก ร ร มเหมือนผู้ใหญ่ เมื่อลูกรู้สึกว่าต้องแสดงพฤติก ร ร มที่เหมาะสมและถูกต้องต ามที่พ่อแม่
กำหนดเท่านั้นจะทำให้เห็นถึง มาตรฐานที่เป็นไปไม่ได้และจะไปลดความพย าย ามที่ลูกทำอยู่ การตั้งมาตรฐานที่ลูกไม่สามารถไปถึง
ได้จะลดความเชื่อมั่นของลูกลง
7. หลีกเลี่ยงการซิกแซก
หรือมีข้ อยกเว้นให้ลูกเสมอ การให้สิทธิพิเศษทำให้ลูกข า ดความเชื่อมั่น
8. ให้ลูกลองสิ่งท้าทายใหม่ๆ
แสดงให้ลูกเห็นเป้าหมายที่เป็นความสำเร็จเล็กๆ เพื่อไปสู่ความสำเร็จของเป้าหมายใหญ่ๆ เช่น ขี่จักรย านโดยไม่ใช้ล้อเล็กฝึก
การช่วยขี่ คุณพ่อคุณแม่สามารถ สร้างความมั่นใจในตัวลูกเพิ่มขึ้นได้จากความรับผิ ดชอบต ามวัย
9. เปิดประตูสู่ประสบการณ์ใหม่ๆ
ในฐานะผู้ปกครองเราควรช่วยเปิดโอกาสให้ลูกมีประสบการณ์ในโลกกว้างมากขึ้นเพื่อเปิดโลกทัศน์ในการเรียนรู้
การเปิดประสบการณ์ให้ลูกจะสอนให้ลูกรู้ว่า ไม่ว่าจะเจอประสบการณ์ซึ่งน่ากลัวที่เราไม่เคยเผชิญมาก่อนเราก็จะสามารถฝ่าฟั นและเอาชนะมันได้
10. ชมเชยในความกล้าหาญเมื่อลูกเริ่มลองสิ่งใหม่
ไม่ว่าจะเป็นการเข้าทีมบาสเกตบอลหรือ การลองเล่นโรลเลอร์สเก็ต ผู้ปกครองควรที่จะชมและให้กำลังใจเมื่อลูกทำสิ่งใหม่ๆ โดยพูดคำชมง่ายๆ
เช่นเก่งมากที่ กล้าลองสิ่งใหม่ๆ ความสบายมาจากการที่เราติดยึดกับสิ่งเก่าๆ แต่ความกล้าหาญมาจากการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่แตกต่างจากเดิม
11. ทำความล้ ม เ ห ล วให้เป็นเกาะที่สร้างฐานการเรียนรู้
การเรียนรู้จากข้ อผิ ดพลาดช่วยสร้างความมั่นใจ แต่นั่นจะเกิดขึ้นได้เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทำข้ อผิ ดพลาดเป็นโอกาสที่จะเรียนรู้เติบโตและก้าวไป
อ ย่ าปกป้องลูกมากเกินไป ยอมให้ลูกล้ ม เ ห ล วบ้ างบางครั้งบางคราวเพื่อช่วยให้ลูกเกิดความเข้าใจ และมีการวางแผนที่ดีขึ้นในครั้งหน้า
คุณพ่อคุณแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกเรียนรู้จากข้ อผิ ดพลาด
12. ให้กำลังใจลูกเมื่อลูกเผชิญความทุ ก ข์ย ากลำบาก
ในชีวิตนั้นไม่มีความยุติธรรมและไม่มีอะไรที่ง่ายเสมอไปซึ่งลูกต้องเรียนรู้เข้าสักวันใดวันหนึ่ง เมื่อเราเผชิญกับความย ากลำบาก คุณพ่อคุณแม่
ควรชี้ให้เห็นว่า เมื่อเราทนต่อความย ากลำย ากได้จะช่วยสร้างให้เราปรับตัวในการรู้จักยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ต่างๆ ได้
คุณพ่อคุณแม่ควรอธิบายให้ลูกฟังว่าทุกถนนสู่ความสำเร็จ จะต้องเผชิญกับขวากหนามบ้ างอะไรบ้ าง
13. สอนลูกว่าหากจะทำให้สำเร็จต้องรู้อะไรบ้ าง
คุณพ่อคุณแม่เป็นฮีโร่ในใจของเ ด็ กๆจนกระทั่งลูกเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ใช้โอกาสนั้นสอนลูกให้รู้จักวิ ธีการคิด การแสดงและการพูด
เป็นตัวอ ย่ างและแบบอ ย่ างที่ดีให้แก่ลูก การที่ลูกเฝ้าดูความสำเร็จของเราแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถประสบความสำเร็จได้เช่นเดียวกัน
14. เป็นผู้ปกครองแบบเข้าใจลูก
ไม่บังคับหรือเข้มงวดจนเกินไป หากเราเข็มงวดกับลูกมากเกินไป จะทำให้ลูกข า ดความมั่นใจและลดความเชื่อมั่นลง การทำต ามคำสั่ง
ตลอ ดเวลาจะทำให้ลูก ข า ดความกล้าการสร้างลูกให้มีความเขื่อมั่นจะทำให้ลูกเป็นคนสร้างสรรค์และกล้าพูดคำว่า “ไม่ได้”
ต่อสิ่งที่ไม่ถูกต้องเช่นกล้าปฏิเสธต่อผู้ที่มาหยิบยื่นสิ่ง เ ส พติ ดต่างๆให้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องยอมให้ลูกรู้จักลองผิ ดลองถูกเพื่อสร้างลูก
ให้เป็นคนดีและคนเก่งในอนาคต เป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวเสมอค่ะ
15. ฉลองความตื่นเต้นในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
เ ด็ กๆ มองดูและเรียนรู้ว่าพ่อแม่รู้สึกอ ย่ างไรต่อสิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับเขา ถ้าเราตื่นเต้นกับวิ ธีการว่ายน้ำ หรือ การพูดภาษาใหม่ๆ เ ด็ กๆ
ก็จะรู้สึกตื่นเต้นด้วย การเรียนรู้ เป็นสิ่งที่ย ากและหากทำให้ประสบความสำเร็จ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้เพิ่มมากขึ้น
ดังนั้นการฉลองความสำเร็จช่วยให้ลูกโตขึ้น
16. คุณพ่อคุณแม่เสนอตัวที่จะเข้าช่วยเหลือและสนุบสนุน
แต่ต้องไม่มากจนเกินไป การให้ความช่วยเหลือที่มากเกินไปและเร็วเกินไปจะลดความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองของลูก
ควรให้ลูกช่วยเหลือตัวเองก่อน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ลูกมากขึ้น
17. อ ย่ าบอ กลูกเมื่อเรามีความกังวลใจกับลูก
ผู้ปกครองที่กังวลใจมักแปลความหมายได้ว่าไม่เชื่อมั่น การแสดงความมั่นใจของผู้ปกครองจะส่งผลต่อความมั่นใจของเ ด็ กด้วย
ที่มา mgronline.com fahhsai