1. ใช้ชีวิตได้อย่ างสงบสุข
คนประเภทนี้ โดยทั่วไปมักจะไม่ค่อยคิดเล็ก คิดน้อย หรือคิดมากกับเรื่องที่ไม่จำเป็นสักเท่าไหร่
เพราะความที่เป็นคนนิ่งเฉยให้กับทุ ก ๆ เรื่องจึงมีส่วนช่วยลดความกังวลใจ และสามารถดำเนินชีวิต
ได้อย่ างปกติสุข มากกว่าผู้ที่ชอบเก็บเรื่องราวต่าง ๆ มาบั่นทอนความรู้สึกจนเกินพอดี
2. ไม่ต กเป็นเป้าของการถูกนินทา
เพราะการที่ไม่ได้วางตัวให้มีบุคลิกโดดเด่นมากจนเกินไป จึงอาจทำให้ไม่ค่อยได้รับ
การถูกพูดถึงจากคนอื่น ๆมากสักเท่าไหร่ หรือถ้าหากจะถูกพูดถึง ก็มักจะถูกพูดถึงใน
ด้านทั่วไป ที่ไม่ได้เป็นเชิงลบเสี ยมากกว่า ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี
3. กลายเป็นผู้ถูกเกรงใจ
บุคคลในลักษณะนี้ จะได้รับความเกรงใจจากคนรอบข้าง และเพื่อนฝูงไปโดยปริย าย
เพราะความที่ไม่ค่อยแสดงออก และนิ่งเฉยต่อสถานการณ์ตรงหน้า
มีส่วนทำให้มีใครสามารถรับรู้ได้ว่า ภายในใจกำลังคิด หรือรู้สึกอะไรอยู่
จึงมักต กเป็นผู้ที่คนรอบข้างจะเทคแคร์ความรู้สึกมากเป็นพิเศษ
4. ซ่อนความรู้สึกได้ดีกว่า
บางความรู้สึกก็ต้องยอมรับว่า ไม่เหมาะที่จะแสดงออกไปตรง ๆ ซึ่งก็ไม่ใช่ทุ กคนจะสามารถเก็บซ่อน
มันเอาไว้ได้ นอกเสี ยจากว่า ฝึกตัวเองให้เป็นคนนิ่ง ๆ กับทุ กเรื่องราว และกับทุ ก ๆ คนที่พบเจอ
อาจช่วยทำให้เก็บงำความรู้สึกที่ไม่สามารถแสดงออกไปไว้ได้ดียิ่งขึ้น
5. ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามายุ่ง
อาจเป็นเพราะความที่มีบุคลิกนิ่ง ๆ และไม่ค่อยสุงสิงกับใคร จึงอาจมีส่วนทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามาตี
สนิทมากเท่าที่ควร นับว่าเป็นข้อดีที่สามารถช่วยตัดปัญหา และความน่ารำคาญใจที่อาจเกิดขึ้นจากคนอื่นได้ดี
เพราะยิ่งมีคนเข้ามาในชีวิตเยอะมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสร้างปัญหาและความวุ่นวายได้มากขึ้นเท่านั้น
6. มีสติมากกว่าเดิม
เพราะความเงียบถือเป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่สามารถช่วยให้คนเรามีสติในการจัดการกับปัญหาตรงหน้าได้ดีขึ้น
อีกทั้งยังทำให้ดูเป็นคนเฉลียวฉลาด เป็นบุคคลที่แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี
7. ไม่มีใครรู้ว่าคิดอะไร
คนที่น่าจะเดาทางได้ย ากที่สุด คงหนีไม่พ้นบุคคลประเภทเงียบ ๆ มีบุคลิกนิ่งเฉย
ไม่พูดเยอะมากเท่าคนทั่วไป ไม่ค่อยมีใครรับรู้ หรือเดาใจได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งวิ ธีในการป้องกันตัวเองจากการโดนตัดสินโดยคนอื่น ๆ ได้ด้วย
ขอบคุณที่มา : songtorkwamrak