ในยุคนั้นไฟฟ้ายังมาไม่ถึงห มู่บ้านทุ ก ๆ คืนภายใต้เสี ยงตะเกียงลูกชายจะนั่งท่องอ่ านหนังสือ
ส่วนคุณแม่จะนั่งเย็บปักถักร้อยอยู่เคียงข้างทุ กฝีเข็มของแม่ จะค่อย ๆ เย็บเอาความรักของแม่…
ฝังลึกเข้าไปในเสื้อผ้าของลูก
วันแล้ววันเล่ า ปีแล้วปีเล่ าหนังสือชมเชยผลการเรียนของลูกติ ดเต็มฝาบ้านลูกเติบโตขึ้นทุ กวัน
แม่เฝ้ามองดูลูกด้วยความชื่นชม
ลูกสอบเข้าโรงเรียนมัธยมแนวหน้าของมณฑลแต่แม่ก็เริ่มป่ วยด้วยโ ร ค ไ ขข้ออั กเ ส บ อ าก ารโ ร ค
หนักขึ้นทุ กวันเริ่มทำนาไม่ไหวความเป็นอยู่ในบ้านเริ่มมีปัญหาโรงเรียนมัธยมในยุคนั้นทุ ก ๆ เดือน
นักเรียนทุ กคนต้องนำข้าวส าร 15 กิโลกรัมมอบให้โรงเรียน
เพื่อนเป็นค่าเล่ าเรียนและค่าอาหาร
ลูกรู้ว่าแม่ไม่มีปัญญาหาข้าวส า รมาให้บอกแม่ว่า” ลูกไม่ขอเรียนต่อ จะได้ช่วยแม่ทำนา” แม่ลูบหัวลูก”
ลูกมีน้ำใจ แค่นี้แม่ก็ปลื้มแล้วแต่หนังสือต้องเรียนวางใจเถอะ ไปมอบตัวให้เรียบร้อยเดี๋ยวแม่จะส่งข้าวส า รตามไป”
ลูกไม่ยอม แม่โกรธมากเอื้อมมือตบหน้าลูกชายไปหนึ่งฉาดใหญ่และนั่นคือการทำโ ท ษครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต
ลูกเดินทางอำล าจากบ้านไปเป็นนักเรียนประจำแม่มองดูการจากไปของลูกด้วยความครุ่นคิดหลังจากนั้น
ไม่นานแม่ก้าวเดินด้วยความย ากลำบากแบกถุงข้าวส า รไปมอบให้โรงอาหารที่โรงเรียนพ่อครัวรับถุงข้าวส า ร
แล้วเปิดดูแล้วบ่นว่า” ทำไมถึงคิดจะเอาเปรียบโรงเรียนด้วยวิ ธีนี้ดูสิ ข้าวเก่าข้าวใหม่เม็ดใหญ่เม็ดเล็กปน
กันวุ่นไปหมดเห็นที่นี่เป็นถังขยะหรือไง”
แม่ได้แต่ละอายใจ ขอโ ท ษพ่อครัวแล้วแม่ก็ได้ควักถุงผ้าเล็ก ๆ ออกมาถุงนึง” คุณพ่อครัวค่ะ นี่เป็นเงิ นห้าเหรียญ
รบกวนฝากให้ลูกชายดิฉัน ให้เป็นค่าใช้จ่ายของเขา”
พ่อครัวรับถุงที่หนักหน่วงไว้ในมือรู้ว่าข้างในถุงคงมีแต่เศษเหรียญเล็ก ๆ เลยกล่ าวแบบหยอกล้อว่า
”สงสัยเธอคงมีอาชีพขายไข่ต้มข้างถนนเป็นแน่”
เดือนถัดมาแม่ก็แบกถุงข้าวส า รมาส่งมอบเหมือนเดินพอเปิดดู สภาพข้าวส า รแ ย่เหมือนเดินพ่อครัวเริ่มบ่น”
ข้าวส า รแบบนี้ไม่ไหวหน่า หุงแล้วสุกบ้างไม่สุกบ้างคราวหน้าถ้ามาแบบนี้ เราไม่รับไว้นะ”
เดือนที่สาม สภาพข้าวส ารก็แ ย่เหมือนเดิมพ่อครัวโกรธจัด เริ่มคุมอ ารมณ์ไม่อยู่
”คุณแม่ครับ ทำไมดื้ออย่ างงี้เอาคืนไปเลย แบกมายังไงก็ให้แบกกลับไปแบบนั้น”
แม่คงคาดการณ์ไว้แล้วว่าเหตุการณ์จะเล วร้ ายเช่นนี้เธอรีบคุ กเข่าลงทรุดกับพื้นน้ำตาเริ่มไหล” ท่านค่ะ
ดิฉันขอส า รภาพค่ะข้าวส ารเหล่ านี้เป็นข้าวส ารที่ดิฉันไปขอทานเขามา”
พ่อครัวต กใจ จุกอก พูดอะไรไม่ออกเธอถลกขากางเกงขึ้นมาขาของเธอบวมเป่ง แข็งทื่อ
“ฉันเป็นโ ร คไขข้ ออักเ ส บระยะรุ นแรงเดินยังเดินแทบไม่ไหวจะเอาปัญญาที่ไหนไปทำนาลูกชายฉันรู้ดี
แกไม่ยอมมาเรียนแต่เป็นฉันที่แข็งใจตบสั่งสอนไล่เขามาเรียนให้ได้” เธอพูดต่อ” ฉันกลัวเพื่อนบ้านในห มู่บ้าน
รู้ว่าฉันต้องไปเป็นขอทานเพราะถ้ารู้ไปถึงหูลูกชายจะเป็นการทำร้ ายจิตใจเขา
ทุ ก ๆ เช้าก่อนฟ้าสาง
ฉันต้องรีบถือถุงเปล่ าออกจากห มู่บ้านเพื่อไปขอทานยังห มู่บ้านอื่นจนดึกจนดื่นถึงกล้ ากลับบ้านเพราะ
กลัวเจอเพื่อนบ้านนี่คือสาเหตุของข้าวส ารปะปนกันส ารพัดชนิด”
พ่อครัวรับฟังด้วยความเศร้าใจพร้อมน้ำตา พยุงเธอขึ้นมา”
ผมจะไปรายงานให้อาจารย์ใหญ่ทราบจะขอให้โรงเรียนบริจาคเงิ นช่วยเหลือให้เธอ”
เธอรีบปฏิเสธ”ไม่ได้ค่ะ ไม่ได้หากลูกรู้ว่าแม่เป็นขอทานเพราะเขาคงจะเป็นการทำร้ ายจิตใจลูกเกินไปและ
ต้องกระทบผลการเรียนลูกแน่ขอขอบพ ระคุณในความหวังดีแค่กรุณาช่วยรับข้าวส ารไว้ก็เป็นพ ระคุณแล้ว”
แล้วเธอก็จากไปด้วยก้าวเดินอันย ากลำบาก
ในที่สุด อาจารย์ใหญ่ก็ทราบเรื่องแต่อาจารย์ใหญ่เก็บความลับไว้โรงเรียนจัดการมอบทุนการศึกษาให้นักเรียนคนนี้
ในฐานะเรียนดีแต่ย ากจนหลังจากนั้นสามปีด้วยผลสอบ 627 คะแนนนักเรียนคนนี้สามารถสอบติ ดมหาวิทย าลัยชิงหัว
ปักกิ่งอันเป็นมหาวิทย าลัยอันดับหนึ่งของประเทศจีน
ในวันฉลองพิธีจบการศึกษาลูกชายเป็นนักเรียนคนเดียวที่ถูกจัดให้นั่งบนเวทีลูกชายเริ่มสงสัยถ้าในฐานะ
นักเรียนดีเด่นก็ยังมีเพื่อน ๆ อีกหลายคนที่ดีเด่นเช่นกันทำไมต้องเป็นเขาคนเดียวที่นั่งอยู่ตรงนี้ที่แปลกยิ่งกว่านั้น
คือมีถุงข้าวส ารสามถุงวางอยู่บนโต๊ะกลางเวที
พ่อครัวเป็นคนขึ้นเวทีแล้วเริ่มต้นเล่ าเรื่องราวของคนคนหนึ่งยอมไปขอทานเพื่อส่งลูกเรียนเรื่องราวถูกเล่ า
อย่ างละเอียดทุ กขั้นตอนข้างล่ างเวทีต่างฟังด้วยความเงียบกริบ ซาบซึ้ง
พอพ่อครัวเล่ าเรื่องจบอาจารย์ใหญ่ขึ้นพูดต่อด้วยความตื้นตันเขาชี้ไปที่ถุงข้าวส ารสามถุง” และนี่คือข้าวส ารสามถุง
ที่คนเป็นแม่หามาให้ลูกเรียนนี่คือข้าวส ารที่มีเงิ นเท่าไหร่ก็หาซื้อไม่ได้บนโลกใบนี้ขอเรียนเชิญคุณแม่ที่ยิ่งใหญ่ผู้นี้ขึ้นเวที”
ลูกชายมองไปรอบข้างด้วยความสงสัยแล้วสิ่งที่เขาเห็นคือพ่อครัวประคองคุณแม่เดินขึ้นเวทีมาช้า ๆ เราคงไม่รู้หรอกว่าคน
เป็นลูกจะรู้สึกอย่ างไรในตอนนั้นแน่ใจว่าความหวั่นไหวคงไม่น้อยว่าพายุลูกใหญ่ในท้องทะเลที่บ้าคลั่งและแล้ว
ฉากที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกมนุษย์ก็เกิดขึ้น
แม่ลูกสบตากันสายตาของแม่เต็มไปด้วยความอบอุ่น นิ่มนวลผมหงอกกระจายอยู่เต็มหน้าผากลูกชายโผเข้า
กอดร้องไห้ออกมาอย่ างสุดกลั้น” แม่ครับ แม่…….”
ข้าวส ารสามถุงในเรื่องนี้เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก ๆ ที่กว้างใหญ่ไพศาลดั่งเวหาที่หนักแน่น
มั่นคงดั่งภูผาคงไม่ใช่พ่อแม่ทุ กคนที่ต้องลำบากลำบนเหมือนแม่คนนี้เพียงเพื่อค้ำจุนลูกให้มีเส้นทางที่ดีในชีวิต
แต่ความรักของพ่อแม่ทุ กคนที่มีต่อลูก ๆ
ย่อมมีความคล้ายคลึงเฉกเช่นเดียวกันบุญคุณของพ่อแม่
คือผู้ที่ให้ทุ กสิ่งทุ กอย่ างในชีวิตเราเป็นรักที่ไม่ต้องการสิ่งตอบแทนยิ่งใหญ่เกินกว่าจะหาใด ๆ มาเปรียบเทียบใด
ลูกหลานทั้งหลายความกตัญญูรู้คุณรอกันไม่ได้ท่านรักเราตั้งแต่วันที่เราลืมตาดูโลกเราคงไม่ต้องรอถึงวันที่ท่านหลับตาลาโลก
แล้วค่อยมาสำนึกถึงบุญคุณท่าน
ขอบคุณที่มา : postkidde