ทำไม่ ดีกับคนใกล้ชิด แต่เป็นมิตรกับคนแปลกหน้า สังคมสมัยนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ด้วยเทค โนโลยีที่ก้าวกระโดด และนวัต ก ร ร ม ต่างๆที่พัฒนา
ไป อ ย่ า ง ไม่มีที่สิ้ นสุดทุ กๆคนต่างต้องเผชิญหน้า รับมือกับความกดดัน แรงกดดัน อยู่ตลอดเวลาและเก็บมันไว้อยู่แบบนั้น คนส่วนใหญ่เลือกที่จะระบาย
มันออกมาใส่คนที่ใกล้ชิดสนิทสนม และนั่นเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ อ ย่ า ง ยิ่งในการให้สัมภาษณ์ระหว่าง ย า ง และ โจว
ย า ง เอาอ า รมณ์แ ย่ ๆไม่ดี ไปลงกับคนที่รักที่สุด
แต่ กลับเก็บซ่ อ น อ า รมณ์และอดทนไว้ให้คนแปลกหน้าเมื่อได้ฟังประโยคนี้แล้วคุณรู้สึก อ ย่ า งไร
โจว ในสถานการณ์แบบนี้ ฉันก็มี การจู้จี้จุกจิกกับคนใกล้ตัวเป็นสัญชาต ญ าณ
แต่ การเอาชนะสัญ ชา ต ญ าณ ไม่จู้จี้กับคนใกล้ตัวเป็นการฝึกฝน
จะเห็นได้ว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ ก็มักจะมีลักษณะแบบนี้ คือการระบายอา ร มณ์
ใส่กับคนใกล้ชิด เวลาที่รู้สึกไม่พอใจมาจากคนภายนอกแต่ กลับกลายเป็นว่าคนภายในครอบครัว
หรืออยู่ใกล้ชิดเรา ต้องได้รับความรู้สึกที่ไม่ดีจากเราไปแทน ทั้งๆที่เขาเหล่านั้นไม่ใช่ต้นเหตุ
โดยตรงที่ทำให้คุณรู้สึกไม่พอใจด้วยซ้ำคนเรานั้นจะมีปฏิสัม พั นธ์กับบุคคลมากมายและมีทัศนคติ
ท่าทีที่ แ ต ก ต่างกันออกไป เช่น เวลาอยู่ที่ทำงาน ก็จะมีปฏิสัม พั นธ์กับเพื่อนร่วมงาน
และโดยส่วนใหญ่เราก็มักจะทำตัวสุภาพ อ่อนน้อมกับพวกเขาเหล่านั้น หรือแม้แต่ กับคนรัก
ที่เพิ่งคบหาดูใจกันได้สักระยะหนึ่ง เราจะแสดงความอ่อนโยน สุภาพและให้เกียรติฝ่ายตรง
ข้ามให้มากที่สุด และจะไม่แสดงตัวตนของเราในด้านไม่ดีให้เขาเห็นทั้งหมด
ขงจื้อจึงกล่าวว่า เวลาพ่อแม่ทำงาน ก็แ ย่ งมาทำ เวลามีอะไรอร่อยๆ ก็ให้พ่อแม่กินก่อน อ ย่ า ง
นี้เรียกว่ากตัญญูมั้ย จริงๆ แล้วไม่ใช่ ทำไม เพราะว่า คุณคิดว่ามันย าก มันเป็นเรื่องของทัศนคติ
ซึ่งทัศนคติสำคัญมาก
ตัว อ ย่ า ง เช่น คนส่วนใหญ่ที่ออกไปทำงานนอกบ้าน อาจจะไปทำงานไกลบ้าน
หากในวันนั้นที่คุณทำงานไม่ได้ดั่งใจ กลายเป็นถูกตำห นิจากหัวหน้า หรือการทำงานที่ไม่เข้าใจกัน
จากเพื่อนร่วมงาน ทำให้มีอา รมณ์ครุ่นเ คือง แต่ ก็ไม่ได้ปล่อยมันออกมา ได้แต่เก็บไว้อยู่คนเดียว
ไม่กล้าแสดงออกถึงความรู้สึกจริงๆให้เขาได้รับรู้ ในขณะที่พ่อแม่ที่อยู่ทางบ้านโทรมาหา เพื่อที่จะ
ถามไถ่ถึง ส า ร ทุ กข์สุขดิ บของลูกในที่ทำงาน คุณกลับใช้อา รมณ์ที่สะสมมาทั้งวันไปลงกับท่าน
และวางโทรศัพท์ด้วยความรำค าญ โดยไม่คิดถึงความรู้สึกของท่านเลยว่าจะรู้สึก อ ย่ า งไร
นั่นแหละคือการ เอาอา รมณ์แ ย่ ๆ ไม่ดี ไปลงกับคนที่รักที่สุด แต่ กลับเก็บซ่อนอา รมณ์และอดทนไว้
ให้คนแปลกหน้า
ซึ่งมันไม่ใช่ผลดีที่จะเกิดขึ้นเลย คนเรามักจะให้ความสำคัญกับบุคคลอื่น ใช้ความ
รู้สึกทั้งหมดไปยึดกับคนอื่น ว่าเขาจะคิดยังไงกับเรา รู้สึกยังไงกับเรา แคร์คนอื่นมากกว่าความรู้สึกของ
คนในครอบครัว ละเลยการเอาใจใส่และให้ความสำคัญกับคนใกล้ตัวเราน้อยกว่าคนด้านนอกตัวเราเสี ยอีก
ดังนั้นเราควรจะตระหนักได้แล้วว่า คนที่เราควรจะแคร์มากที่สุดคือใคร คนในครอบครัว คนใกล้ชิด
ที่คอยช่วยเหลือให้กำลังใจ สนับสนุนเราตลอดมา หรือคนที่เพิ่งรู้จักและไม่เคยที่จะสนใจความรู้สึกเรา มีแต่ทำให้เรารู้สึกไม่ดีมากกว่า
ขอบคุณข้อมูลจาก L I E K R