1. ไม่สนใจเรื่องลบ ๆ
ยิ่งเราอยู่ในยุคที่การรับรู้ข้อมูลข่าวส า รเป็นเรื่องที่ง่าย
ก็ยิ่งต้องรู้จักเลือกรับส า รและคัดกรองข้อมูลทุ กอย่ างให้ดี
เพราะจะเห็นว่าบางวัน เรามักต้องเจอกับข้อความที่เป็นแง่ลบ
อยู่บ่อย ๆ ซึ่งมันก็อาจส่งผลให้อ ารมณ์
อันสดใสขุ่นมัวลงได้ทันทีเลย เพราะฉะนั้น การไม่สนใจอะไร
ที่ทำให้เราต้องรู้สึกแ ย่ก็นับเป็นอีกหนึ่งวิ ธี
ในการใช้ชีวิตให้ไม่เหนื่อย และมีความสุขได้เหมือนกันค่ะ
2. เลือกอยู่กับคนที่ทัศนคติ ดี
ก็คล้าย ๆ กับการเลือกอยู่ใกล้คนที่ทำให้เราเกิดความรู้สึกสบายใจ
เพราะการได้อยู่ในวงโคจรเดียวกันกับคนที่มีพ ลั งเต็มร้อย
จะส่งผลให้เราซึมซับความคิดและแรงบันดาลใจดี ๆ เหล่านั้นกลับมา
ช่วยให้เรามองโลกแบบเป็นกลาง
ไม่เอนเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง คนประเภทนี้จะสอนให้เรา
เข้าใจความสุขของการใช้ชีวิตแบบง่าย ๆ
ไม่ซับซ้อนจนทำให้ตัวเองต้องเหนื่อย หรือรู้สึกว่ามันยุ่งย าก
เกินไปนั่นเองค่ะ
3. ต้องใช้เงิ นแก้ปัญหาบ้ าง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสะดวกสบาย ก็ถือเป็นเรื่องจำเป็นอีกอย่ างหนึ่ง
ของชีวิตคนเรา ฉะนั้นการจะใช้เงิ น
เพื่อมอบความสุขให้กับตัวเองบ้ าง ก็คงไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่ก็ต้องยืนอยู่
บนพื้นฐานของความพอดี ไม่เดื อดร้อนจนตัวเองต้องลำบากเกินไปด้วย
4. หัดพูดปฏิเสธให้เป็น
เชื่อว่าหลายคนคงมีนิสัยขี้เกรงใจซะจนกลัวคนรอบข้างรู้สึกไม่ดี แต่หารู้ไม่ว่า
การไม่รู้จักพูดปฏิเสธใครออกไปเลยนี่แหละค่ะ
ที่มันกำลังทำให้ตัวเราอึดอัด ลำบากใจเพราะบางสิ่งบางอย่ าง
เราก็ไม่ได้ยอมรับหรืออย ากที่จะทำมันด้วยใจเต็มร้อยจริง ๆ
ดังนั้นจงหัดปกป้องตัวเอง ด้วยการปฏิเสธคนอื่นไปบ้ าง
ไม่ต้องคิดแทนว่าใครจะรู้สึกยังไง
เพราะอย่ างแรกที่ควรสนใจ คือความรู้สึกของตัวเราเอง
ต่างหากล่ะค่ะ
5. ช่างมันกับเรื่องเล็ก ๆ
ในแง่ของความเป็นจริง คงไม่มีใครสามารถแบกรับทุ ก ๆ
เรื่องได้ไหว การช่างมันไปบ้ าง
แม้จะทำให้เราดูเป็นคนไม่ค่อยแคร์อะไร และอาจดู
เป็นคนเฉยชาในสายตาคนรอบข้าง
แต่ก็อดยอมรับไม่ได้จริง ๆ ค่ะว่า คำพูดสั้น ๆ เพียงสองพย างค์นี้
มันมีอิทธิพลต่อหลาย ๆ
เรื่องในชีวิตของเรามากทีเดียว เปรียบเสมือนกับเป็นการ
ช่วยปลดปล่อยความคิด สร้างความโล่งอกโล่งใจได้ดีไม่น้อย
ขอบคุณที่มา : jingjai999