Home บทความ ชี วิ ต ไม่ต้องพึ่งพา ค น อื่น วิ ธี เลิก อ่ อ น แ อ

ชี วิ ต ไม่ต้องพึ่งพา ค น อื่น วิ ธี เลิก อ่ อ น แ อ

ปิดความเห็น บน ชี วิ ต ไม่ต้องพึ่งพา ค น อื่น วิ ธี เลิก อ่ อ น แ อ
0

1. เลิก โ ท ษ ตัวเอง

การโ ทษตัวเองเป็นกับดัก เพราะบางครั้งทำให้เรามัวแต่คิดว่า “เรานี่แ ย่ขนาดไหน”

พอตำหนิตัวเองว่า “เราแ ย่มากที่ไม่ระมัดระวั งให้ดี” หรือ “สื่อส า รได้แ ย่อย่ างนี้

เราคงไม่มีทางประสบความสำเร็จหรอก” มีแต่ทำให้ทุ กข์ใจมากขึ้น

 

เมื่อไม่ยอมรับตัวเองมาขึ้นเท่าไหร่ เราจะตั้งขีดจำกัดว่า “ยังไงเราก็ทำได้แค่นี้”

และหาเหตุผล “แก้ตัวให้ตัวเองไม่ต้องทำ” การโ ทษคนอื่นไม่ทำให้ตัวเองเติบโต

 

แต่การเอาแต่ตำหนิตัวเองอย่ างเดียวก็ย ากที่จะก้าวไปข้างหน้าได้ ทำให้เมื่อต้องเจอ

กับสถานการณ์แบบเดียวกันอีกก็จะตื่นกลัวมากเกินความจำเป็น ต่อให้มีศักยภาพ

 

พอจะก้าวข้ามสิ่งนั้นจริง ๆ แต่ก็อาจทิ้งโอกาสของตัวเอง เพราะคิดว่า

“ไม่น่าจะไหว เมื่อก่อนเราก็ทำไม่ได้นี่”

 

แต่ถ้านิย าม “ความสำเร็จเฉพาะตัวได้” ต้องใช้เกณฑ์ความรู้สึกพึงพอใจว่าเป็นสภาพ

ที่ตัวเราเองยอมรับได้ ไม่เสี ยใจภายหลัง ทำให้เรารู้สึกพอใจมากและมีรอยยิ้ม

 

เช่น บางคนพอใจกับการทำงานอย่ างบ้ าคลั่ง ในขณะที่บางคนกลับทำงานนิดหน่อยพอแค่

ให้ตัวเองได้เที่ยวและมีความสุข เลิกโ ทษตัวเองตั้งแต่วันนี้ แล้วก้าวไปข้างหน้าอย่ างมี

ความสุขและเข้มแข็ง

 

2. ทิ้งเรื่องกังวลใจ

แต่ละคนมีเรื่องที่ต้องกังวลแต กต่างกันไป เช่น เรื่องงาน เงิ น การแต่งงาน ชีวิตหลักเกษียณ

การประชุมสัปดาห์หน้า หรือการพรีเซ้นต์งานใหญ่กับลูกค้า

 

แต่เรื่องส่วนใหญ่ถึงจะกังวลไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเป็นอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น และไม่รู้ว่า

จะเป็นอย่ างไร ความกังวลกับเรื่องที่ยังไม่เกิดก็เป็นแค่การคิดไปเอง ซึ่งทำให้เสี ยเวลาและ

พ ลั งใจ ไม่ช่วยให้เติบโต

 

การจะขจัดความกังวลได้นั้น มีแต่ต้องลงมือทำอย่ างเป็นรูปธรรมเท่านั้น วิ ธีขจัดความกังวล

ว่าจะพรีเซ้นต์งานได้ดีหรือเปล่า มีเพียงการฝึกซ้อม เตรียมเอกส า รให้พร้อม

 

คาดเดาหัวข้อที่น่าจะโดนสอบถามล่วงหน้า ให้ทุ กคนช่วยคอมเมนต์ แล้วแก้ไข ฝึกซ้อมซ้ำ ๆ

ให้พูดได้โดยไม่ต้องมองเอกส า ร รวมถึงกิริย าท่าทางและการใช้มือเพื่อดึงดูดความสนใจ

 

แต่ถ้านึกวิ ธีจัดการอย่ างเป็นรูปธรรมไม่ออก แสดงว่าความกังวลนั้นยังคลุมเครือ แค่รู้สึกกังวลเฉย ๆ

แต่จับความรู้สึกได้ไม่แน่ชัดว่ากังวลเรื่องอะไร แบบนี้ย่อมนึกวิ ธีแก้ไขไม่ออก ความกังวลก็ไม่มี

ทางหายไป ดังนั้นหาให้เจอชัด ๆ ก่อนว่ากังวลเรื่องอะไร

 

ถ้ากังวลเรื่องสุ ข ภ า พ ให้เปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต เลือกกินอ า ห า รที่มีประโยชน์ต่อสุ ข ภ า พ

หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่ทำให้เ ค รี ย ดเกินไป เมื่อเจอแนวทางไปสู่การปฏิบัติอย่ างเป็นรูปธรรม

เราก็หาวิ ธีแก้ไขแล้วลงมือทำทีละอย่ าง แม้จะขจัดความกังวลไม่ได้ทั้งหมด

แต่สามารถบรรเทาลงได้

 

3. เลิก ทุ ก ข์ ใจเรื่องป มด้ อย

ถ้ามัวแต่ทุ กข์ใจเรื่องปมด้ อยก็อาจเกิดข้อเสี ยได้ เช่นคำว่า “คนอย่ างฉันทำไม่ได้หรอก”

และนิสัยนี้ทำให้กลายเป็นคนที่ดูถู กคนอื่นว่า “ห ม อนั่นก็ทำไม่ได้หรอก”

 

ลองนำปมด้ อยของคุณมาเป็นอ า วุ ธดังเช่นคนต่อไปนี้ บางคนกลุ้มใจที่ตัวเองผิวแห้ง จึงเปิดกิจการ

ร้านเสริมสวย บางคนลำบากที่ตัวเองเป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

 

จึงเปิดร้านออนไลน์ขายผลิตภัณฑ์แก้ภูมิแพ้ คนที่อย ากแต่งงานแต่ไม่มีโอกาสได้เจอผู้คนก็จัดกิจกร รมหาคู่

คนที่เคยทุ กข์ร้อนจากการหย่ าร้าง ก็เปิดบริษัทที่ปรึกษาด้านการหย่ าร้าง

 

จริง ๆ แล้วปมด้ อยที่คุณกังวลจะช่วยสร้างตลาดใหม่ได้ ไม่ว่าจะวิกผม การปลูกผม การลดน้ำหนัก

เสริมสวย หรือเรียนภาษาอังกฤษ ทั้งหมดล้วนเป็นธุรกิจที่เกิดจากปมด้ อยด้วยกันทั้งนั้น

 

ปมด้ อยที่นำไปสร้างเป็นธุรกิจได้นั้น คนส่วนใหญ่คงรู้สึกว่าไม่น่าทำได้จริง แต่จริง ๆ แล้ว

ปมด้ อยก็เป็นสิ่งที่ “เราคิดไปเอง” คนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจขนาดนั้น

 

ลองบอกกับเพื่อนว่า “ช่วงนี้รู้สึกอ้วนขึ้น” อีกฝ่ายก็ตอบผ่ าน ๆ ว่า “เหรอ ก็คงใช่มั้ง” หรือถ้าบอกว่า

“ช่วงนี้ผมหงอกขึ้นเยอะจัง” อีกฝ่ายก็ตอบแค่ “อายุสามสิบกว่าก็งี้แหละ”

 

คนอื่นไม่ได้มองหรือสนใจเราเหมือนอย่ างที่กังวลขนาดนั้น อย่ างปมด้ อยที่พูดไปก่อนหน้านี้

ทุ กคนก็คงแค่รับรู้และไม่ได้ใส่ใจเป็นพิเศษทุ กอย่ างมีสองด้าน เรื่องที่คุณคิดว่าเป็นจุดอ่อนก็

สามารถเปลี่ยนเป็นจุดแข็งได้

 

4. เลิกพึ่งพาคนอื่น

เวลารู้สึกไม่สบอ ารมณ์เรื่องความสัมพันธ์กับคนอื่น สาเหตุใหญ่มักมาจากการที่ต้องอาศัยคนอื่น

เมื่อเราเริ่มพึ่งพาคนอื่นเมื่อไร พอไม่มีคนนั้น อนาคตของตัวเองก็จบสิ้น

 

หมายความว่าชีวิตของตัวเองจะเป็นไปในทิศทางไหนก็ขึ้นอยู่กับคนอื่นเป็นหลัก

ทางที่ดีควรเปลี่ยนจากการพึ่งพาคนอื่นเป็นเรียนรู้จากคนอื่นจะดีเสี ยกว่า

 

คนที่พึ่งพาคนอื่นเป็นประจำมีแนวโน้มเป็นคนชอบ “โ ทษคนอื่น” หางานทำไม่ได้ก็โ ทษ

โรงเรียนงานไม่ราบรื่นก็โ ทษหัวหน้า โ ทษเพื่อนร่วมงาน ฯลฯ การโ ทษคนอื่น

 

ไปเสี ยทุ กอย่ างอาจเป็นเรื่องง่าย แต่สุดท้ายจะกลายเป็นว่าตัวเองถูกคนอื่นควบคุม

หากอย ากเข้มแข็งและแข็งแกร่งขึ้นง่ายนิดเดียว แค่คิดด้วยตัวเอง ตัดสินใจด้วยตัวเอง

และรับผลจากการตัดสินใจนั้นด้วยตัวเอง และรับผลจากการตัดสินใจนั้นด้วยตัวเอง

 

คนที่ชอบพึ่งพาคนอื่นคือคนที่ไม่คิดเอง ไม่ตัดสินใจด้วยตัวเอง ทำให้ต้องไหลไปตามคำพูดของคนอื่น

ต้องพึ่งพาคนอื่น และไม่มีทางที่จะเข้มแข็งและยืนหยัดได้

 

ขอบคุณที่มา : jingjai999

Load More In บทความ
Comments are closed.

Check Also

ลักษณะผู้ชาย แ ม ง ด า ที่หวัง จะเกาะ ผู้หญิงกิน

1. เขามักจะบอกคุณอยู่เสมอ ว่าแม่เขาอย ากได้อะไร เขามักจ … …