1. ประหยัดให้มากขึ้น
จากการประหยัด ค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ปิดไฟด วงที่ไม่จำเป็น ประหยัดน้ำ
เพื่อลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าน้ำค่าไฟประจำเดือน
ใช้โทรศัพท์แบบเติมเ งิน แทนการใช้รายเดือน และใช้เท่าที่จำเป็น
ซื้ อกับข้าวมาทำเอง และทำอาห ารไปกินที่ทำงาน
อร่อยแถมยังได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์อีกด้วย เลือกซื้ อของลดราคา
แต่ต้องพิจารณาดูแล้วว่าเป็นของที่จำเป็นต้องใช้จริง ๆ
เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อของเข้าบ้านได้อีกเพียบ
2. จัดการห นี้สินอย่ างเป็นระบบ
อุปสรรคที่สำคัญอย่ างหนึ่ง ของความมั่งคั่งก็คือห นี้สิน จึงต้องจัดการกับปัญหา
ห นี้สินให้เป็นระบบก่อนกั ดฟั นใช้ห นี้จำนวนน้อย ๆ
ก่อน จะได้ลดภาระห นี้สินในเดือนต่อ ๆ ไปให้ลดน้อยลง เริ่มจากเมื่อได้เงิ น
ก้อนใหญ่อย่ างโบนัสหรือเงิ นจากการทำงานพิเศษ ให้นำมาปิดห นี้สิน
ที่มียอดน้อย ๆ ก่อน ส่วนห นี้ที่มียอดสูง ๆ ก็จ่ายเพียงขั้นต่ำไปก่อนเพื่อประคองตัว
จากนั้นเมื่อห นี้สินก้อนเล็ก ๆ หมดไป ก็จะทำให้เหลือเ งิน ในแต่ละเดือนเยอะขึ้น
และค่อยทยอยจ่ายห นี้ก้อนใหญ่ต่อไป
3. ตั้งเป้าเงิ นออม
สัญญากับตัวเองไว้ ว่าภายใน 1 ปีจะต้องมีเงิ นเก็บเท่าไหร่ เพื่อที่จะได้มีแรงจูงใจ
ในการเก็บเ งินโดยอาจจะทำเป็นสมุดจดบันทึกเพื่อให้เห็นพัฒนาการ
ของจำนวนเ งินเก็บในแต่ละวัน หรือแต่ละสัปดาห์เพิ่มมากขึ้นแค่ไหน
และต้องเก็บเงิ นอีกเท่าไหร่จึงจะถึงเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ ทำไปเรื่อย ๆ
ก็จะติ ดนิสัยรักการออมได้ในที่สุด
4. หารายได้เพิ่ม
ถ้ารายได้น้อยไม่ค่อยพอ กับค่าใช้จ่าย ต้องหารายได้เสริมเพื่อให้มีเงิ นมากขึ้น
โดยอาจจะเริ่มจากงานเสริมพาร์ตไทม์
ช่วงเย็นหลังเลิกงาน หรือช่วงเส าร์-อาทิตย์ หากมีความรู้พิเศษเฉพาะทาง
ก็สามารถรับงานฟรีแลนซ์มาทำได้เพื่อให้มีเงิ นเพียงพอกับค่าใช้จ่าย
เสริมสภาพคล่องในแต่ละเดือนให้มากขึ้น
5. ปรับตารางการเงิ นเสี ยใหม่
สำรวจรายรับรายจ่าย ในแต่ละเดือนเพื่อให้รู้สถานะทางการเ งินที่แท้จริง จะได้วางแผนใช้เงิ น
และออมเงิ นได้เหมาะกับตัวเอง
เพราะมีหลายคนที่ออมเ งิน ไม่ตรงกับสไตล์การใช้ชีวิต ทำให้เสี ยเงิ นไปกับเรื่อง
ไม่จำเป็นและเป็นห นี้เพิ่มขึ้นเช่น บอกว่าให้ออมเ งิน 10% ของเงิ นเดือน
ซึ่งถ้าหากคุณมีเงิ นเดือนประมาณ 1.5 หมื่นบาท แต่มีห นี้เกินกว่า 40% ของเงิ นเดือน
คือ 6,000 บาท เท่ากับเหลือเงิ นใช้ 9,000 บาท
ซึ่งที่เหลือนี้คุณต้องจ่ายให้กับค่าใช้จ่าย ประจำในแต่ละเดือนอย่ างค่าบ้าน 3,000 บาท
ค่าโทรศัพท์ 600 บาท ค่าน้ำค่าไฟ 800 บาท ส่งเงิ นให้ครอบครัว 2,000 บาท รวม ๆ
แล้วคุณเหลือเงิ นใช้ทั้งเดือนเพียง 2,600 บาทเท่านั้น ซึ่งเมื่อต้องหักเ งินออม 10%
ของเงิ นเดือนก่อนที่จะใช้จ่ายอย่ างอื่น ก็เท่ากับว่าเงิ นในแต่ละเดือนของคุณติ ดลบ
และไม่พอใช้แน่นอน และอาจจะตามมาด้วยการเริ่มต้นเป็นห นี้ และคุณภาพชีวิตในแต่ละวัน
ก็ไม่ดีด้วย เพราะต้องประหยัดอย่ างถึงที่สุด ดังนั้นตรวจสอบสถานะทางการเงิ น
ของตัวเองก่อนที่จะเริ่มออมเงิ นเพื่อจะได้หาวิ ธีที่เหมาะสมที่สุดกับตัวเอง ค่อยขยับปรับ
เปลี่ยนแล้วออมไม่ถึง 10% ในตอนแรกเมื่อปรับตัวได้ ลดค่าใช้จ่ายตรงอื่นแล้ว
จึงค่อยเพิ่มปริมาณไปเรื่อย ๆ
6. เริ่มเก็บเงิ นจากจุดเล็ก ๆ
ช่วงเริ่มต้นที่เงิ นเดือนไม่มากและ ยังมีห นี้สินล้นพ้นตัว อาจจะต้องเริ่มเก็บเงิ นจากสิ่งเล็ก ๆ ก่อน
เช่น เงิ นเหรียญที่เหลือจากค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน
หยอดใส่กระปุกออมสินเอาไว้ในทุ ก ๆ วันหรือเก็บเศษของเงิ นเดือนในแต่ละเดือน
เช่น เงิ นเดือน 15,650 บาท ให้เก็บเอาไว้ 650 บาท เป็นต้นเป็นการเริ่มต้นออมเงิ น
อย่ างง่าย ๆ ที่ไม่ทำให้คุณต้อง ลำบากมากนัก
7. แบ่งเงิ นใช้ให้พอดีเป็นวัน ๆ
เช่น วันละ 350 บาท อย่ าพกเงิ นติ ดตัวทีละเยอะ ๆ แต่ละวันหยิบเงิ นมาใช้ แค่จำนวนพอดี
เพื่อบังคับให้ใช้เ งินเท่าที่จำเป็นในจำนวนเงิ นที่มีอยู่ หลายคนเวลา
เข้าร้านสะดวกซื้ อ เพราะตั้งใจซื้อของแค่อย่ างเดียวแต่เมื่อเข้าไปในร้านก็อดไม่ได้
ที่จะหยิบของชิ้นอื่น ๆ เพิ่ม ดังนั้นหยิบเงิ นไปแค่พอซื้อของที่ต้องการก็พอ
8. เปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้เ งิน
เมื่อรู้สถานะทางการเงิ นของตัวเองแล้วก็สำรวจพฤติกร รมของตัวเอง ด้วยเช่นกันว่ามีอะไร
ที่เป็นอุปสรรคต่อการเก็บเ งินอย่ างเช่นชอบใช้เ งินเกินตัว จนเป็นสาเหตุที่ทำให้มีห นี้สิน
มีนิสัยชอบสร้างห นี้ ชอบใช้ของเกินฐานะและเป็นของที่ไม่จำเป็น
ซึ่งจะต้องแก้ไขพฤติกร รมเหล่านี้โดยด่วน ตัดทอนการใช้จ่ายบางอย่ างออกไป
ขอบคุณที่มา : sabailey