Home บทความ พ่อแม่มี เ งิ น ท อ ง มากมาย ก็ไม่สามารถซื้ อส ม อ งที่ดีให้กับลูกได้

พ่อแม่มี เ งิ น ท อ ง มากมาย ก็ไม่สามารถซื้ อส ม อ งที่ดีให้กับลูกได้

ปิดความเห็น บน พ่อแม่มี เ งิ น ท อ ง มากมาย ก็ไม่สามารถซื้ อส ม อ งที่ดีให้กับลูกได้
0

วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้ข้อคิดการเลี้ยงลูกกับบทความ พ่อแม่มี เ งิ น ท อ ง มากมาย ก็ไม่สามารถซื้ อส ม อ งที่ดี

ให้กับลูกได้ ไปดูกันว่าทำไมพ่อแม่ถึงไม่สามารถซื้ อส ม อ งที่ดีให้กับลูกได้

 

เข้าใจว่า ทุ ก วันนี้การศึกษา คือ อนาคตความหวังที่จะช่วยพลิกโอกาส ให้ลูกคุณมีอนาคตที่ดี หล า ยๆ ครอบครัวจึงทุ่มเท

ทุ กสิ่งที่มีทั้ง เงิ น และ เวลา แลกกับการให้ลูก ได้เรียนโรงเรียนดีๆ มีรา ค าสูง คอสติวสอนพิเศษต่าง ๆ มากมาย

 

จนลืมไปว่า ควรพัฒนาทักษะด้านอื่น ควบคู่กันไปด้วย ตอนที่ลูกอายุได้ 2 ขวบ เราส่ งลูกเข้า เนอสเซอรี่

หมดค่าใช้จ่ายไปปีละ 8 หมื่น เพียงแค่คิดว่า กลัวจะพัฒนาไม่ทันเพื่อน

 

เรียนไม่ทันเพื่อน กล า ยเป็นส่ งลูกไป ติ ด ห วั ด ที่โรงเรียน เพราะวัยนี้ ภูมิต้านทานยังไม่แข็งแรงพอ ไหนจะเสี่ ย ง

ที่จะต้องเจอ กับ พี่เลี้ยงที่ไม่ดี สอนแบบผิ ดๆ อีก กล า ยเป็น พฤติกร ร ม ตัว อ ย่ า ง ที่ซึมซับมาโดยไม่รู้ตัว

 

เมื่อ อนุบาล ยันประถม เราจัดเต็ม ทั้งใน นอ กหลักสูตร ต้องกวดวิช าเพื่อเตรียมสอบเข้า ป.1 และ เสริมด้วย

คณิตศาสตร์ ว่ายน้ำ ไวโอลิน อังกฤษ จีน ฯลฯ กลัวลูกจะไม่เก่ง กลัวจะน้อยหน้าข้างบ้าน หารู้ไม่ว่า

 

จิตนาการ ต่างหาก คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่จะนำพาให้ลูกคุณเติบโตขึ้น ไปเป็นผู้ใหญ่ ที่ประสบความสำเร็จ

ได้ในอนาคต แต่คุณกำลัง บังคับให้ เรียนโน้น ทำนี่ ฝึกนั่น เป็นการปิ ด กั้ น

 

พัฒนาการ ในด้านการ จินตนาการ และการฝึกคิดไปโดยอั ตโนมัติ เรากลัวว่า ลูกจะไม่เก่ง แต่ไม่เคยถามความรู้สึก

ของลูกจริงๆ ว่าเขาฝันอย ากเป็นอะไร หรือ เพียงแค่เพราะ เราแค่ยัดเยียดความฝัน ที่เราทำไม่สำเร็จ

ความ ล้ ม เหลวที่เราทำให้

 

พ่อแม่ผิ ด หวังไปไว้ที่ลูก ให้เป็นคนที่ประสบความสำเร็จ เพื่อมาชดเชย ปมความล้ ม เห ล วในอ ดีตของเรา พอถึง

มัธยมอมเปรี้ยว คราวนี้หนักเลย เพื่อที่จะสอบได้คะแนนดีๆ เพื่อเข้ามหาลัยดีๆ ได้ เรียนพิเศษ ทุ ก เย็น

 

หลังเลิกเรียน เ ส า ร์ อาทิตย์ จัดเต็มวัน ปิดเทอมไม่มีพัก ส่ งลูกเรียนซัมเมอร์ยุโรป ออสเตรลีย บางทีลูกไม่ อ ย า ก ไป

แต่พ่อแม่นี่แหละ อ ย า ก ให้ไป บางบ้านหมด เ งิ น ปีละ 6-7 แสน เพียงเพื่อ ให้ลูกได้เรียนในสิ่งที่คิดว่าดี

 

แต่ไม่รู้ดีจริงไหม ยังไม่ทันเข้ามหาลัยกดไปเป็น สิบล้าน ถึงวัยทำงาน คือ โลกแห่งความเป็นจริง พอลูกเรียนจบก็คาดหวังว่า

ลูกฉันเลี้ยงมาอย่ า งพิเศษใส่ไข่ เพิ่มข้าว ดังนั้นจะจ้างลูกฉัน มันต้องแพงกว่าสิ

 

นี่ส่ งเรียนไปสิบกว่าล้านเลยนะ ปัญหา คือ คุณค่าของใบปริญญา พ่อแม่ กับ นายจ้าง มองไม่เท่ากัน พ่อแม่ช าว ไ ท ย ตี ค่า

ใบปริญญาลูกรักสูงมาก เพราะเราอยู่ใน ก ระบวนการจ่าย เ งิ น จริง ด้วยรา ค าสูงอย่ างย ากลำบาก ย า ว นาน 20 ปี

 

นายจ้าง กลับตี ค่าไม่สูงเท่าพ่อแม่ กลับมีคำถามใหญ่ ๆ 3 คำถาม คือ 1 ลูกคุณทำอะไรเป็นบ้าง 2 ลูกคุณเคยทำอะไรสำเร็จ

มาบ้าง 3 ลูกคุณจะมาสร้างความสำเร็จอะไรให้ที่นี่ อ ย่ า ลืมว่ายุคนี้ คือ ยุคที่เปิดกว้าง คนอินเดีย พร้อมบิน มาทำงานที่ กทม.

 

เขียนโปรแกรมเก่ง ยังกับคลอ ดออ กมาจากคอมพิวเตอร์ แถมขยันขันแข็ง ยังกับหุ่น ย นต์ คนฟิลิปปินส์ อินโด มาเลย์

พร้อมจะบิน มาทำงานที่กรุงเทพ พวกเขาเก่งภาษาอังกฤษ

 

ลอจิกดี คุมงานเป็นหัวหน้าโปรเจคต์ พรีเซนต์ดี ไม่แพ้ ฝ รั่ ง คน จี น ไม่ต้องพูดถึง ความขยันอ่ าน ขยันข ายของ ขยันพบลูกค้า

ใจสู้มาก ไม่ยอมแพ้ง่ายๆโดนด่ า ไม่ยุบ พวกนี้ คือ ยอ ดเซลล์แมน แต่ กับคน ไ ท ย ปริญญามหาลัยมันเริ่มจะเบลอ ๆ

 

ไม่ศักดิ์สิทธิ์ เหมือนรุ่นพ่อแม่ แน่นอนว่า ย่อมมี บางคนได้ไปต่อเจริญรุ่งเรืองโกอินเตอร์ แต่ก็มีจำนวน มากที่แป้ก

ตั้งแต่อายุยังน้อย ความเห็นส่วนตัวผม ถ้าพ่อแม่ช าว ไ ท ย ส่วนหนึ่ง

 

ที่ลงทุนกับการศึกษา ลูกด้วย เ งิ น จำนวน มากๆ ลองปรับแนวคิดสักเล็กน้อย ลองประหยัด เ งิ น บางส่วน แล้วนำ เ งิ น ก้อนเดียวนี้

เริ่มทำธุรกิจให้ลูก ในช่วงปิดเทอมให้ลูกได้ใช้ความพย าย าม ลองผิ ด ลองถูก ริเริ่มสร้างสรร เป็นผู้ประกอบการ

 

ในยุคสมัยที่ อาชีพการงานไม่เป็นใจในอนาคตอีก 10-15 ปีข้างหน้า ลองเผื่อ เวลาจากการศึกษาที่จัดเต็ม เกินไป ให้เขา

ได้ลองริเริ่ม เรียนรู้ ลองเขียนหนังสือ ลองเขียนโปรแกรมสร้างแอพ

 

ลองdesign รับงานแปล ลองข า ยของ ลองลงทุน ฯลฯ จนท้ายที่สุด ได้ลองหา เ งิ น ด้วยตัวเองให้ได้ ก่อนที่ จะเข้าเรียน

มหาลัย ถ้าเขาสามารถส่ งตัวเองเรียนได้ หรือ มีรายได้มาแบ่งเบาภาระเรื่องค่าศึกษาได้บ้าง อันนี้จะช่วยพัฒนาเขาได้

 

ไม่แพ้การศึกษาในระบบที่แสนแพง พ่อแม่ได้ภูมิใจ ลูกได้ฝึก ภู มิ ต้ า น ท า น และ ความแกร่ง เพราะ เ งิ น เพียงอย่ า งเดียว

ไม่สามารถซื้ อ ส ม อ งให้ลูกคุณได้ ซึ่งหมายถึง ส ม อ ง จริงๆ ไม่ใช่คะแนนสอบที่สูงลิ่ว

 

แต่คิดอะไรเองไม่ได้ เริ่มต้น ทำอะไรเองไม่เป็น อันนั้นไม่ได้เรียกว่า ฉลาด แต่เรียกว่าท่องจำเก่ง แล้วนำไปทำข้อสอบได้

มันคงจะดีกว่านี้ สำหรับลูกคุณถ้า ทั้งเก่ง ในข้อสอบ และเก่งในทักษะชีวิตจริง

 

ที่มา นิ้วโป้ง Fundamental VI, chayend, sabuyjaijung

Load More In บทความ
Comments are closed.

Check Also

คนที่ให้เงินเขายืม มักจำได้ แต่คนที่ไปยืมเงินเขามามักจะลืม

คนที่ให้เ งิ นเขา ยื ม มักจำได้ แต่คนที่ไปยื มเ งิ นเขา … …