1. คนที่มักกังวลตลอดเวลา
คนประเภทนี้มักขี้กลัว และไม่มั่นใจเวลาที่ต้องทำสิ่งใหม่ ๆ จนข าดการลงมือทำที่มากพอ
และไม่กล้าเสนอแนะความคิด ได้แต่รอคำสั่งให้ทำเพียงเท่านั้น
วิ ธี การรับมือกับคนแบบนี้
หากเรามีลูกน้องประเภทนี้ ควรให้กำลังใจและพร้อมรับฟังในการมอบหมายงานทุ ก ๆ ครั้ง
ว่าสามารถทำงานได้ตามเวลาที่กำหนดหรือเปล่า ถึงแม้งานอาจจะเร่งด่วน แต่ต้องพร้อม
ให้โอกาสเขาพูดถึงกรอบเวลาที่สามารถทำได้ รวมถึงการป้อนงานใหม่ ๆ โดยค่อย ๆ เป็น
ค่อย ๆ ไปอย่ าไปเร่งรีบมากเกินขอบเขต
2. คนที่ข าดสัมมาคารวะผู้อื่น
คนประเภทนี้มักไม่ค่อยยิ้ม ไม่ค่อยไหว้ ให้เกียรติต่อคนที่อาวุโสมากกว่า
เพราะคิดว่าตนเองนั้นมีความสามารถ
วิ ธีการรับมือกับคนแบบนี้
ให้เกียรติต่อคนเหล่านี้ก่อนครับ เพราะบางครั้งเขาอาจต้องการให้คนอื่นมาให้เกียรติต่อ
ตัวเขาก่อนก็ย่อมได้ดังนั้น เราอย่ าไปโต้แย้งในสิ่งที่เขาเป็น แต่ให้ใช้ใจแลกใจกับเขา
เพื่อทำให้เขาเห็นว่า การเคารพซึ่งกันและกันโดยเฉพาะต่อผู้หลักผู้ใหญ่นับเป็นความ
งดงามที่ควรทำในองค์กร
3. คนเฉื่อย
คนประเภทนี้มักทำงานไปเรื่อย ๆ ทำแบบเดิม ๆ ถึงแม้จะมีวิ ธีการที่ดีกว่าแต่ก็ไม่ยอม
เปลี่ยนแปลงตนเองข าดความมุ่งมั่น ทำงานค่อนข้างช้า
ไม่สนใจว่าคนอื่นที่รับงานต่อว่าจะเป็นอย่ างไร ทำงานทันเวลาไหมเพราะส่งงาน
ล่าช้าทุ กที
วิ ธีการรับมือกับคนแบบนี้
ต้องทำใจเยอะ ๆ หากหวังว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงตนเองในทันที แต่คนเราต้องมีความหวังครับ
ถึงแม้จะริบหรี่ คนประเภทนี้ที่เขาไม่เปลี่ยนแปลงอาจเพราะข าดความรู้ความเข้าใจในสิ่งใหม่ ๆ
การสนับสนุนให้เขาได้ไปเปิดโลก
สร้างมุมมองใหม่ ๆ เติมพ ลั งให้ชีวิตนับว่าเป็นสิ่งที่ดี โดยส่งไปอบรมภายนอกองค์กร หรือ
ให้ลองทำงานใหม่ ๆ อาจทำให้เขาเปลี่ยนแปลงตนเองก็ย่อมได้ครับ
4. คนที่พูดไม่คิด
คนประเภทนี้มักใช้อ ารมณ์เป็นใหญ่ มักจะพูดโดยไม่สนใจคนอื่นจนบางครั้งทำให้คนฟัง
เสี ยหาย เสี ยหน้าเสี ยใจ และเสี ยความรู้สึก และมักไม่รู้ตนเอง หรือหากรู้ตนเองก็ไม่ทันที่
จะดึงคำพูดนั้นกลับคืนมา
วิ ธีการรับมือกับคนแบบนี้
อย่ าไปเก็บคำพูดของคนเหล่านี้มาทำให้ใจเป็นทุ กข์ครับ ปล่อยวางได้ก็ควรปล่อยวางและโฟกัส
สิ่งที่ทำตรงหน้าให้ดีที่สุด
ยกเว้นเรื่องที่เขาพูดถึงแม้จะทำให้เราเสี ยใจ แต่ถ้าเป็นจริงอย่ างที่เขาพูดก็ควรพิจารณานำ
ไปปรับปรุงตนเองต่อไปครับ
5. คนที่ไม่รับฟังผู้อื่น
คนประเภทนี้มักคิดว่าตัวเองเก่ง และรู้ดีที่สุดในการทำงานแต่ละเรื่อง จนข าดการรับฟังผู้อื่นเพราะ
มองว่าเสี ยเวลาและเข้าใจดีอยู่แล้ว โดยลืมมองไปว่า การทำงานอาจต้องเปลี่ยนวิ ธีการใหม่ ๆ
เพื่อให้เกิดการพัฒนา
วิ ธีการรับมือกับคนแบบนี้
ทำใจเยอะ ๆ ปล่อยวางเชิงอ ารมณ์เยอะ ๆ ก่อนที่เราจะสื่อส า รกับเขาและเตรียมข้อมูลที่จะสื่อส า ร
ให้แปลกและแต กต่างจนเขาคาดไม่ถึงและพร้อมรับฟังในสิ่งที่เกิดขึ้น
หากคนที่ไม่รับฟังเป็นหัวหน้างานเรา และเราได้นำเสนอข้อมูลไปให้พิจารณาแล้ว หากเขาไม่ตัดสินใจ
จงก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดในสิ่งที่ทำได้เต็ม 100 % ต่อไป
หรือหากรู้สึกไม่มีความสุขในการทำงานกับคนแบบนี้ จงมองทางเลือกอื่น ๆ ไว้บ้ างครับ
เพราะชีวิตไม่มีทางตัน
ขอบคุณที่มา : jingjai999