1. ทำงานเชิงรุก
อย่ างที่บอกไปตอนต้น ว่า การเป็น “ผู้ตาม” หรือ “ลูกน้อง” ไม่ได้
หมายความว่าต้องนั่งรอรับคำสั่งเพียงอย่ างเดียว
แต่ผู้ตามอนาคตรุ่ง จะใช้เวลาเรียนรู้งานของตัวเอง และงานของคนอื่นที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ยังรู้หน้าที่ตัวเองว่า ต้องทำอะไร โดยไม่จำเป็นต้องมีใครสั่ง
หลายครั้งก็จะเสนอไอเดียหรือเสนอตัวทำงาน ก่อนที่หัวหน้าจะบัญชาลงมา
เพื่อแสดงให้หัวหน้ารู้ว่าเป็นคนทุ่มเทให้งานขนาดไหน และมีศักยภาพอะไรบ้าง
2. ทำสิ่งที่อย ากให้คนอื่นทำ
ถ้าไม่รู้ว่า ควรเป็นผู้ตามแบบไหนดี ลองจินตนาการดูว่าถ้าตัวเองเป็นหัวหน้า
อย ากได้ลูกน้องแบบไหนก็ควรจะทำตัวแบบนั้น
และถ้าไม่ชอบลูกน้องแบบไหน ก็ควรเลิกประพฤติตัว
แบบที่ว่าเหมือนกัน
3. ขยันเรียนรู้
ผู้ตามที่ดียังขยันเรียนรู้ เพราะอย ากพัฒนาตัวเอง อยู่ตลอดเวลา
คนกลุ่มนี้ไม่ได้อย ากรู้แค่เรื่องพื้นฐาน แต่อย ากเข้าใจ
สิ่งที่พวกเขาสนใจอย่ างจริงจังคนเหล่านี้ มักจะไปเรียนเพิ่มเติม เข้าฟังสัมมนา
อ่ านหนังสือและหาที่ปรึกษา (mentor)
ที่จะมาแนะนำการทำงานให้เก่งกว่าเดิม
4. ปรับทัศนคติ
คนเรามักมองสิ่งต่างๆ จากมุมของตัวเอง แต่ถ้าอย ากเป็นผู้ตามที่ดีคงต้องเปิดใจ
และเข้าใจว่าโลกคนอื่นรวมถึงหัวหน้าอาจไม่ได้มองอะไรเหมือนกันเรา
อย ากให้การทำงานไปได้สวย
ก็ต้องเรียนรู้ว่าหัวหน้าเป็นคนแบบไหน ชอบทำงานแบบลุยเดี่ยวหรือบุกเป็นทีม หัวหน้า
เป็นคนเก็บตัวหรือสังคมจ๋า เพื่อจะได้รู้ว่าควรรับมือ กับหัวหน้าอย่ างไร
เช่น ถ้าหัวหน้าเป็นคนชอบพูดคุยเข้าสังคม ลูกน้องอาจต้องช่างคุยมากขึ้น
5. เข้าใจหัวหน้า
หัวหน้ามีอิทธิพลอย่ างมาก ต่ออนาคตหน้าที่การงานของลูกน้อง
ต้องเลือกว่าจะมีปฏิสัมพันธ์กับหัวหน้าอย่ างไรและ
ต้องการให้หัวหน้ามองเราแบบไหนบางทีอาจต้องปล่อยวางอีโก้ของตัวเอง
รักษ า สิ่งที่ดีไว้และอาจปรับเปลี่ยนตัวเองบ้าง
เพื่อให้เข้ากับหัวหน้าได้เพราะหากรอให้หัวหน้าปรับตัว
อาจจะใช้เวลานานมาก หรืออาจไม่เกิดขึ้นก็ได้
ขอบคุณที่มา : sabailey