1. มีที่พึ่งทางใจ ไว้คอยช่วยเหลือ
การมีที่พึ่งทางใจ เป็นตัวชาร์จพลังให้เราได้มากเลยทีเดียว เราควรจะมี
ที่พึ่งทางใจสักทางไว้บ้างไม่ว่าจะเป็น คนรัก ครอบครัว
เพื่อน ศ าสนา กิจกร รมที่ชอบ หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงลองหาอะไรสักอย่ างที่ทำ
ให้จิตใจเราได้ฟื้นฟูเมื่ออยู่กับมัน มันอาจจะไม่ต้องเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่
แต่สำคัญและมีวคามหมายกับเรามากพอที่จะทำให้ชีวิตเราดูสว่างขึ้น
2. ดับเครื่องชนกับความกลัว
หลายคนเมื่อเจอปัญหา ก็รู้สึกกลัวและหนีปัญหา ซึ่งมันไม่ทำให้ปัญหานั้น
หายไปได้แค่เราไม่เจอมันสักพัก แต่สักวันหนึ่ง
มันก็จะกลับมาหาเราอยู่ดี ฉะนั้นจงเตรียมใจให้พร้อมอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
เราไม่สามารถไปควบคุมมันได้ สิ่งที่เราทำได้ก็คือ
ยอมรับความจริงและสู้กับมันไม่ว่ามันจะหนักแค่ไหนแต่มันคือความจริงที่เรา
ต้องเผชิญหน้าด้วย แล้วมันก็จะผ่ านไป
3. ปล่อยมันไปตามนั้น
การยอมรับความจริง ในสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ จะทำให้เราสามารถไปต่อได้เร็วขึ้น
เพราะหากเรายังจมปลักอยู่กับความรู้สึกผิดหวัง หรือไม่เป็นไปตามที่เราต้องการ
ชีวิต ก็คงไม่มีความสุข แต่หากเราคิดว่า ปล่อยมันให้เป็นไปยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น
และอยู่กับมันได้ แล้วมองหาความสุขจากสิ่งที่มี ชีวิตเราก็จะไปต่อได้
4. เขียนมันลงไป เมื่อเจอเรื่องแ ย่ ๆ
ในบางเรื่องเราก็ไม่ต้องการให้ใครมารับรู้ปัญหาของเรา แต่การได้ระบายสิ่งที่อยู่ในใจ
จะทำให้เรารู้สึกดีขึ้นถ้าเราไม่ต้องการบอกใคร
ลองหยิบกระดาษแล้วเขียนสิ่งที่เกิดขึ้นที่ทำให้เรารู้สึกดาวน์เขียนมันออกมาให้เราได้ระบาย
และได้รู้ว่าตอนนี้เรากำลังเจอกับอะไรอยู่ และหาทางออกให้ตัวเอง
เมื่อเรากลับมาอ่ านมันอีกครั้ง เราอาจจะยิ้มกับตัวเองก็ได้ที่สามารถผ่ านจุด ๆ นั้นมาได้
และวันข้างหน้าไม่ว่าเราจะเจอกับอะไร เราก็จะผ่ านมันมาได้เช่นกันเหมือนทุ กครั้ง
5. เมื่อรู้สึกหมดไฟ ให้คุยกับตัวเอง
การพูดคุยไม่จำเป็นต้องเป็นคนอื่นเสมอไป การได้ใช้เวลาพูดคุยถามไถ่กับตัวเอง
ก็สำคัญไม่แพ้กันเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกหมดไฟ หรือไม่มีแรงจะทำอะไร
ให้ลองหันกลับมาถามตัวเองว่าเราต้องการอะไรกันแน่ เพราะคนที่รู้เรื่องของเราดีที่สุด
ก็คือตัวเราเอง เรารู้ว่าลึก ๆ แล้วเราต้องการอะไรอย่ าปล่อยให้สังคมกลืนกินเราจน
ลืมฟังเสี ยงของตัวเอง
ขอบคุณที่มา : bitcoretech