1. คิดถึงแต่ด้านลบของแฟน เวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน
แทนที่จะคิดถึง อย ากให้เขามาอยู่ด้วยตอนที่ห่างกัน เธอกลับคิดถึงมุมแ ย่ ๆ แง่ร้ า ย แง่ลบ
สิ่งน่ารำคาญทุ กเรื่องที่แฟนหนุ่มทำ ถ้าเวลาเดียวที่เธอเลิกคิดเรื่อง แ ย่ ๆ
คือตอนเขาเอาใจเธอแปลว่าเธอเห็นค่าของแฟนแค่ตอนที่เขาทำดีกับเธอแค่นั้นเอง
มีคำหนึ่งกล่าวว่า ‘ถ้าเธออย ากรู้ว่าหัวใจตัวเองอยู่ที่ไหน คนแรกที่เธอนึกถึงก็คนนั้นแหละ’
และถ้าในห้วงคำนึงนั้นไม่มีแฟนหนุ่มของตัวเองอยู่เลย ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ เธอไม่ได้รัก
เขาอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ
2. อยู่ห่างแฟนแล้วรู้สึกสบายใจกว่า
เธอเริ่มมีความรู้สึกว่า เธอต้องใส่ ‘หน้ากาก’ ยิ้มแย้ม สดใสร่าเริงตลอดเวลาที่อยู่กับแฟน
เพราะต้องคอยซ่อนความรู้สึกจริง ๆ เอาไว้นั่นเอง เธอไม่อย ากทะเลาะ มีเรื่อง
หรือปิดบังความลับบางอย่ างไว้อันที่จริงอยู่กับคนแปลกหน้าอาจสบายใจกว่าด้วยซ้ำ!
จำไว้ว่า อย ากมีเวลาส่วนตัวกับเพื่อน กับ อย ากอยู่เป็นโสดนั้นต่างกัน
คนเราต้องมีระยะห่างบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่ในที่สุดก็กลับมาหาแฟนแต่ถ้าอย ากอยู่เป็นโสดคือ
เธอไม่มีเขาในหัวใจอีกแล้ว อย ากตัดข าดว่าอย่ างนั้นเถอะ! ถ้าเริ่มอึดอัดกับสภาพที่เป็นอยู่
แปลว่าเธอไม่อย ากใช้สถานะ ‘แฟน’ กับเขาแล้วล่ะค่ะ
3. เธอเอาแต่คิดว่า “ถ้าฉันโสดจะเป็นยังไง”
“ถ้าฉันโสดจะเป็นยังไง ฉันจะเรียนได้เกรดดีมากขึ้นไหม ทำงานแล้วได้เลื่อนขั้นสูงขึ้นหรือเปล่า
หรืออาจจะมีเวลาทำงานอดิเรกที่ชอบมากขึ้น อืม…แล้วถ้าฉันเปลี่ยนแฟนล่ะ
จะมีความสุขมากขึ้นหรือเปล่านะ “ถ้าเธอมีความคิดแบบนี้วนเวียนในส มอง จากนาน ๆ
ทีกลับบ่อยครั้งขึ้นเรื่อย ๆ แปลว่าเธออย ากมีชีวิตใหม่ และแน่นอน ไม่มีแฟนของเธอรวมอยู่
ในนั้นด้วยอีกต่อไปแล้ว
4. คุยเมื่อไหร่ ทะเลาะทุ กที
เมื่อก่อนน่ะเหรอ เธออย ากอยู่กับแฟน ‘ตลอดเวลา’ 24 ชั่ วโมงยังไงก็ไอเลิฟยู ขอตามติ ดไปทั่วทุ กที่
คุยกันได้ทุ กเรื่อง คุยจนหลับแล้วตื่นขึ้นมาคุยอีกก็ไม่เบื่อ ขอให้ได้อยู่ด้วยกันก็พอแล้ว แต่ตอนนี้
ไม่มีอะไรจะคุยด้วยสักนิด ไม่อย ากเล่าอะไรให้ฟังทั้งนั้น แค่ขยับปากยังขี้เกียจเลย! พอเขาอย ากคุย
เธอก็เริ่มหงุดหงิด ถ้าไม่ทำเงียบ ๆ ก็หาเรื่องพูดให้เขาอ ารมณ์เ สีย ในที่สุดก็ทะเลาะกันจนได้
ถ้าเหตุ การณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำ ๆ แปลว่าเธอไม่อย ากมีเขาอยู่ในความสัมพันธ์แล้ว เตรียมรอวันเลิกได้เลย
5. หงุดหงิดแฟนแม้ในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
เมื่อก่อนแฟนทำอะไรก็ดู ‘ดีงาม’ ไปซะหมด ท่วงท่าในการเดิน การเขียนหนังสือ การขยับนิ้วมือไปมาของเขา
แค่เห็นก็ท รมา นใจสุด ๆ อะไรจะหล่อจะเท่ขนาดนี้ แต่ปัจจุบัน แค่ได้ยินเ สียงลมหายใจ ฟืดฟาดของเขา
ก็หงุดหงิดได้อีก ไปให้พ้น ๆ สายตาได้ไหม ไม่สิ ไปให้พ้นจากชีวิตน่าจะดีกว่า
( แฟนได้ยินรีบไปผูกคอใต้ต้นถั่วงอกรัว ๆ ) แค่เขาเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ
เธอก็แทบจะสะอิดสะเอียน ผดผื่นคันจนต้องบอกให้เขา‘ไปให้ไกล ๆ’ เป็นไปได้ว่าเธอไม่รู้สึกว่าเขา ‘มีเสน่ห์’
อีกต่อไปแล้ว แต่กลายเป็นสิ่งน่ารำคาญอย่ างหนึ่ง และนี่แหละจะนำไปสู่การเลิกรา
6. ใช้เวลาห่างกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
จากที่เคยตัวติ ดกันเป็นตังเม ก็เริ่มมีปัญหาชีวิต / ภาระหน้าที่ / วิถีชีวิตไม่ตรงกัน ทำให้ใช้เวลาห่างกันบ่อย
ขึ้นเรื่อย ๆ อันที่จริงห่างกันบ้างเป็นเรื่องดี เพราะทำให้แต่ละฝ่ายได้ใช้ชีวิตของตัวเอง
เว้นระยะให้คิดถึงกันบ้าง แต่ถ้าในใจของเธอกลับไม่อย ากเห็น อย ากคุยกับแฟนติ ดต่อกันนาน ๆ เป็นไปได้
ว่าเธอสบายใจกว่า ถ้าเขาไม่มายุ่งกับเธอค่ะ! วิ ธีสังเกตตัวเองง่าย ๆ คือ ถ้าเธอรู้สึกว่า
การนัดเจอ นัดเดทกับแฟนเป็น ‘หน้าที่’ ที่ต้องทำ ไม่ใช่สิ่งที่ทำตามความรู้สึกหรือหัวใจ แปลว่าเธอกำลังเบื่อ
และอาจไปหาคนใหม่ที่ตื่นเต้นกว่าได้ทุ กเมื่อ
ถ้ายังไม่อย ากปล่อยมือแฟนก็ต้องจับเข่าคุยกันแล้วล่ะว่า สาเหตุที่ทำให้เธอเบื่อคืออะไรแล้วแก้ไขมันซะ
7. เถียงกันจากเรื่องเล็ก ๆ จนบานปลาย
มันอาจจะเริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ เช่น ‘วันนี้ใครจะล้างจาน’, ‘วันนี้ใครจะจ่ายค่าไอติม’ แต่ไม่มีใครยอมอีกฝ่าย
จนบานปลาย ทะเลาะกันใหญ่โต ลามไปถึงลักษณะนิสัย พฤติก ร ร มไม่ดีที่ผ่ านมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว
แล้วสรุปด้วยคำว่า ‘เป็นอย่ างนี้ไงถึงอย ากเลิก ‘บางคู่อาจเก็บอ ารมณ์ถ้าอยู่นอกสถานที่ แต่พออยู่ใน
บ้านเท่านั้นแหละใส่ไม่ยั้ง! ทั้งตะโกน กรีดร้อง เขวี้ยงปาข้าวของ ร้องไห้เ สียงดังจนข้างบ้านคิดว่า
มีการ ฆ า ต ก ร ร ม ตอนนี้การทะเลาะห่างจากประเด็นหลักไปไกลแล้ว ถ้าอย ากให้จบเธอต้องเลือก
ระหว่าง ‘ขอโ ทษ’ หรือ ‘ทำเงียบแล้วปล่อยไป’ แต่ถ้าอย ากเลิก ก็ทำตรงกันข้ามเท่านั้นเอง!
ขอบคุณที่มา : staylifeth