Home บทความ สัญญาณว่า ทำงาน 10 ปีก็ไม่ ร ว ย

สัญญาณว่า ทำงาน 10 ปีก็ไม่ ร ว ย

ปิดความเห็น บน สัญญาณว่า ทำงาน 10 ปีก็ไม่ ร ว ย
0

1. คิดถึงภาพตอนเกษียณ

ถ้าอยู่ ๆ ก็จินตนาการภาพตัวเองปลดเกษียณหยุดทำงานและนอนพักผ่ อ นอยู่บ้ าน

บางคนถึงขั้นนับปี นับเดือน นับวันที่จะเกษียณจากงานที่ทำอยู่ตอนนี้เลย

 

เพราะในแต่ละวันนั้นไม่ได้มีแรงจูงใจให้อย ากไปถึงที่ทำงานไม่ได้มี Passion

ที่อย ากจะสร้างสรรค์สิ่งที่มีคุณค่าออกมา ชีวิต การทำงานหมดไปกับงาน

 

ที่ทำแบบส่ง ๆ เท่านั้นก็อาจจะถึงเวลาที่เราต้องเริ่มมองหาทางใหม่ ๆ ได้แล้ว

เพราะการนิ่งดูดายต่อเวลาที่ผ่ านไปแบบนี้ไม่สามารถช่วยให้ความหวังที่

จะเกษียณเป็นจริงได้แน่นอน

 

2. เบื่อและไม่อย ากทำงาน

ภาพที่ทุ กคนจำได้ว่าเราคือเบอร์หนึ่งในแผนกหายไปทุ กวันนี้แค่จะเข็นให้งานเสร็จ

สักชิ้นในแต่ละสัปดาห์ยังย ากเลย เพราะเราเริ่มเช็กโซเชียลทุ ก ๆ สิบนาที

 

การทำงานกลายเป็นสิ่งสุดท้ายที่คิดถึง หมดความกระตือรือร้นและเบื่อหน่ายอยู่

ตลอดเวลางานที่ได้รับมอบหมายมาถูกปล่อยค้างเอาไว้ ซึ่งนอกจาก

 

กระทบต่องานของตัวเองแล้วสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ยังส่งผลให้เริ่มมีปากเสี ยง กับ

เพื่อนร่วมงานเนื่องจากงานของเราช้าเกินกำหนดกระทบต่อระบบ

 

การทำงานในแผนกหนักกว่านั้นคือการทะเลาะกับหัวหน้าจนทำให้รู้สึกว่า เราไม่

สามารถควบคุมอะไรในการทำงานได้เลย

 

3. ระบบชีวิตพัง

จากที่เคยเป็นคนนอนหลับง่าย กลายเป็นคนนอนไม่หลับ ตื่นมากลางดึกบ่อย ๆ

เพราะต้องเก็บเอาความเ ครียดจากเรื่องงานไปนอนฝัน

 

นี่คือจุดเริ่มต้นของระบบชีวิตที่แปรปรวนหนำซ้ำบางคนจากที่เคยสุ ขภาพแข็งแรง

กลับมีอาการป่ วยบ่อยขึ้นซึ่งการป่ วยทางกายนี่แหละที่เป็นตัวชี้วัดอย่ างหนึ่ง

 

ได้เช่นกันว่า สุ ขภาพจิตของเราอาจจะกำลังแ ย่ไปด้วยนอกจากนี้หากงานรบ

กวนความคิดจนทำให้ทุ ก ๆ เย็น ต้องนัดเพื่อนออกไปสังสรรค์

 

เพื่อให้หายเค รียดจนเริ่มมีสโลแกนติ ดปากในห มู่เพื่อนว่า “ดื่มเพื่อให้ลืมงาน”

ก็อาจเป็นสัญญาณเตื อนครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นแล้วว่างานนี้อาจจะไม่เหมาะกับเราอีกต่อไป

 

4. เริ่มมองหางานใหม่

ถ้าเว็บที่เราเข้าเริ่มเปลี่ยนเป็นเว็บไซต์หางาน เริ่มพิมพ์คำว่า “หางาน”ลงไปใน

Search Engine พร้อมเคาะปุ่มเอ็นเทอร์ นั่นเท่ากับว่าเราผ่ าน

 

จุดสุดท้ายของความอดทนในงานปัจจุบันไปแล้ว และหากทุ กวันมีแต่คำว่า

“ฉันจะหางานใหม่!” แวบเข้ามาในความคิดไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม

 

อาจไม่เป็นการดีที่เราจะใช้ชีวิตด้วยการทนทำงานที่ไม่สร้างความสุขแบบนี้ต่อไป

ซึ่งนอกจากจะเป็นผลเ สียต่อตัวเองแล้ว ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน รวมถึง

บริษัทก็ต่างได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน

 

5. พูดคุยเรื่องงานในแง่ลบให้คนในครอบครัวฟัง

ช่วงเวลาสุขสันต์อย่ างเวลาทานข้าวกับครอบครัวจากที่เคยเป็นการพูดคุยเรื่องราว

สนุกสนานในที่ทำงานของเรา วีรกร รมน่าสนุกของลูกที่โรงเรียน

 

และวางแผนไปเที่ยวด้วยกันในวันหยุด ย า ว ที่จะมาถึง ถูกแทนที่ด้วยการถูกตำหนิ

และถูกต่อว่าจากที่ทำงานของเราเป็นหัวข้อหลัก แทรกด้วยพฤติกร รมที่

 

ไม่ดีของเพื่อนร่วมงานวันแล้ววันเล่าที่คนในครอบครัวของเราได้รับฟังแต่เรื่องงาน

ในเชิงลบหากสถานการณ์นี้ยังเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำและมีแนวโน้มว่าจะบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ

เราอาจต้องเริ่มพิจารณาถึงงานของเราอย่ างจริงจังมากขึ้นแล้ว

 

6. รู้สึกว่าอยู่ต่อไปยังไงก็ไม่โต

ถ้ารู้สึกว่าตัวเองไม่มีโอกาสก้าวหน้าในที่ทำงานเลย ก็ไม่แปลกที่จะนึกถึงเรื่องหางานใหม่

เพราะโอกาสในการก้าวหน้าคือเป้าหมายสำคัญในการทำงาน

 

ของมนุษย์เงิ นเดือนอย่ างเราซึ่งโอกาสในการก้าวหน้าที่หมายถึงอาจไม่ใช่แค่การ

เลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้นเพียงอย่ างเดียวแต่มันอาจจะหมายถึงการ

 

ได้รับโอกาสใหม่ ๆ เช่น การได้รับมอบหมายให้ทำโปรเจกต์ใหม่ได้ทำสิ่งที่เราไม่เคย

ทำมาก่อน หรือได้เรียนรู้งานจากระดับหัวหน้างานยังไงก็ตามก่อนที่คุณ

 

จะรีบลาออกจากงานด้วยเหตุผลนี้ลองเข้าไปคุยเรื่องนี้กับหัวหน้างานก่อนจะดีที่สุด

แต่ถ้าคุยแล้วยังดูไม่มีโอกาสล่ะก็ อย่ ารอช้าที่จะลาออกมาหาที่ที่ให้โอกาสคุณ

ก้าวหน้ามากกว่านี้

 

ขอบคุณที่มา : jingjai999

Load More In บทความ
Comments are closed.

Check Also

ลักษณะผู้ชาย แ ม ง ด า ที่หวัง จะเกาะ ผู้หญิงกิน

1. เขามักจะบอกคุณอยู่เสมอ ว่าแม่เขาอย ากได้อะไร เขามักจ … …