“ถ้าทุ กคน ได้ทุ กอย่ าง ดั่งใจคิด
สิ้นชีวิต จะเอาของ กองไว้ไหน
ได้มาบ้าง เสี ยไปบ้าง ช่างปะไร
หน้าที่ใคร ทำให้ดี เท่านี้พอ”
จงดูแลรัก ษาของล้ำค่า 4 อย่ างนี้ดี ๆ
1. คู่ชีวิต
คือคนที่จะดูแลเข้าข้างและปกป้อง
เราไปตลอดชีวิต ลงทุนเพียงนิดได้ผลทวีคูณ
2. ทรัพย์สมบัติ
ยิ่งอายุมากขึ้น ความสามารถในการหามันเพิ่ม
จะยิ่งลดลง ดังนั้น ต้องรู้จักใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด
3. ร่า ง ก า ย
เป็นสิ่งเดียวที่จะอยู่กับเราไปตราบสิ้นชีวิต ไม่ว่าจะอยู่ใน
สถานะอะไร ไม่มีใครจะดูแลร่า งก ายได้ดีเท่ากับตัวเราเอง
4. เพื่อน
เพื่อนดี ๆ มีค่ายิ่งกว่าทรัพย์สินทุ กอย่ างบนโลก รอยยิ้ม
เ สียงหัวเราะ ความสนุกสนาน ความจริงใจ มีเงิ นก็ซื้อสิ่งเหล่านี้ไม่ได้
ข้อคิดดีสำหรับผู้ที่อายุจะถึง 40 ปี หรือเกิน 40 ปี
ในอนาคตคนอายุเกิน 40 ต้องเลิกเอาสุ ขภาพไปแลกกับความร่ำรว ยได้
แล้ว มีเ งินเท่าไรก็ซื้อสุ ขภาพที่ดีคืนมาไม่ได้ต่อให้มีไร่นามากมาย ก็กินข้าวได้แค่พออิ่ม
แม้นจะมีคฤหาสน์หลายสิบหลัง ก็ต้องการพื้นที่หลับนอนย ามค่ำคืนเพียงแปดตารางเมตร
ดังนั้น ตราบใดที่ยังมีข้าวปลาอาหารกินอย่ าง
เพียงพอ มีเงิ นพอใช้สอยได้ทุ กวัน เพียงเท่านี้ก็ดีเหลือเกินแล้ว
อายุเท่านี้แล้ว ควรอยู่อย่ างเป็นสุข ทุ กคนต่างก็มีปัญหาของตนเอง
อย่ ามัวไปคิดเปรียบเทียบ แ ก่งแ ย่งแข่งขันกันไม่ว่าชื่อเ สียง
ฐานะในสังคม หรือความก้าวหน้าของงาน
สิ่งที่ควรจะแข่งกันจริง ๆ คือแข่งกันมีความสุข มีสุ ขภาพดี และอายุยืนนาน
ส่วนอะไรที่เราเปลี่ยนมันไม่ได้ ก็อย่ าไปฝังอกฝังใจให้ป่ วยการ
และทำล ายสุ ขภาพตัวเองเลยหลัง 40 แล้ว ควรค้นหาหนทางที่จะสร้าง
ชีวิตที่เป็นสุข มีอ ารมณ์ดี คิดถึงแต่สิ่งที่ทำให้เกิดความสุข
จิตใจที่ดี จะช่วยรัก ษาโ รคภั ยได้ ถ้าจิตใจเป็นสุข โร คก็จะหายเร็วขึ้น
ออกกำลังกายให้เพียงพอ อยู่กลางแจ้งบ่อย ๆ กินอาหารให้ครบห มู่
ได้วิตามินและแร่ธาตุอย่ างเพียงพอ เท่านี้ก็เชื่อได้แน่นอนว่า ชีวิตจะเป็นสุข
“ความร่ำร วยของชีวิต คือ การมีสุ ขภาพที่แข็ งแ รง”
ขอบคุณที่มา : ส ถ า นี ค ว า ม สุ ข
