ในทุ ก ๆ วันที่ส า มีกลับจากที่ทำงาน ส ามีจะไม่พอใจภร ร ย าเป็นอย่ า งมาก เพราะเห็น
ว่าภร ร ย าอยู่บ้านเฉย ๆ คิดว่าวัน ๆ ไม่ทำอะไรเลย ทำให้สามีนั้นรู้สึกรำคา ญใจ ไม่ค่อย
พูดจากับเธอสักเท่าไหร่!! เพราะเห็นว่าเธอนั้นไม่ช่วยทำงานและไม่ช่วยทำมาหากิน
วัน ๆ ได้แต่อยู่บ้าน ทำงานบ้าน ที่ใครหลายคนคิดว่างานบ้านที่ทำทำแล้วไม่ได้ เ งิ น
ภร ร ย าก็ไม่เคยท้ อ และไม่เคยปริปากบ่ น ที่ส ามีมองเธอเช่นนั้น แต่ก็มีบ้างที่เธอรู้สึก
“แ ย่” ที่ไม่สามารถทำงานหาเ งิ นช่วยค่ าใช้จ่ ายในบ้าน แต่เธอก็ยังคงทำความสะอาด
บ้าน ทำกับข้าว ทำหน้าที่เธอต่อไป…
วันหนึ่ง!! สามีบ่ น ภรรย าอย่ า งรุนแ ร ง และได้พูดคำที่ทำให้เธอรู้สึกเ สี ยใจที่สุด
“คุณไม่ต้องทำงานในบ้าน คุณก็อยู่ได้ ผมซิ ทำงาน เช้าถึงค่ำเพื่อเลี้ยงดูคุณและลูก”
คำพูดของส า มี ทำให้เธอร้อ งไ ห้ และนอนไม่หลับ
วันรุ่งขึ้น!! ส า มีรีบอาบน้ำแต่งตัว เตรียมตัวไปทำงาน หาดูเสื้อที่รีดแล้วแขวนอยู่ในตู้… แต่ไม่มี..!!
เธอจึงถามภรรย าว่า “ไหนเสื้อผม คุณไม่ได้รีดเหรอ?” ภรรย าตอบว่า.. “ฉันไม่ได้รีด”
ส า มีนั่งโต๊ะอาหาร เพื่อทานอาหารเช้า แต่ก็ต้องผิ ดหวัง เพราะวันนี้อาหารเช้าไม่มีสำหรับเค้า
ส ามีกลับจากทำงาน เห็นลูก ๆ สองคน วิ่งเล่นน้ำอยู่หน้าบ้าน ใส่ชุดนอน ผมหยุ่ งเห ยิ ง
พอเห็นพ่อกลับมา ลูก ๆ จึงเอาสายย างฉีดน้ำใส่พ่อ ทำให้เค้าเปียกทั้งตัว ส า มีเปิดประตูบ้าน
สภาพที่เห็น ข้าวของในบ้านร กมาก มองไปที่โต๊ะอาหาร มีแต่กล่องข้าว และถุงเศ ษอาหาร
ที่กินแล้วไม่เก็บกวาด สามีรู้สึกไม่พอใจอย่ า งมาก จึงรีบเดินเข้าไปดูในครัว เค้าเห็นสภาพ
ในครัว มีแต่จานที่เ ล อะเทอะ ที่ส่งก ลิ่นเห ม็ น ทั้งยังมีน้ำนองเต็มพื้น สามีจึงตะโกนเรียก
ภ ร รย าอย่ า งสุดเสี ยงว่า… “คุณอยู่บ้าน คุณไม่ทำอะไรเลยเหรอ” ภร ร ย าตอบว่า…
“ปกติฉันก็ทำงานตลอด แต่คุณก็ยังพูดว่า ฉันไม่ทำอะไรเลย ไม่ช่วยคุณเลย วันนี้
ฉันไม่ได้ทำงานที่ฉันทำทุ กวัน สภาพบ้านมันเลยเป็นเช่นนี้ นี่คือ งานของฉัน”
งานที่ไม่มีวันหยุด งานที่ไม่มีใครช่วยได้ ทั้งลูกและคุณ งานที่หนัก แต่ไม่ได้ เ งิ น งานที่ย า ก
ที่ส ามีเห็นว่าง่าย คุณทำเองดีไหม อยู่บ้านดีไหม? เปลี่ยนให้ฉันทำงานนอกบ้านบ้าง เพื่อที่
ฉันจะได้กลับมาถึงบ้าน แล้วพักผ่อนเช่นคุณ!!
มีแนวคิดหนึ่งที่คู่รักคู่หนึ่งได้บอกไว้ว่า ให้ปฎิบัติต่อกัน คือ ในวันหยุดงาน เส าร์-อาทิตย์
ส ามีและภร ร ย าต้องสลับหน้าที่กัน คือ ส ามีต้องมาทำงานบ้านแทนภร รย า ส่วนภรรย าก็ต้อง
ไปหางานเสริมพิเ ศ ษนอกบ้านทำเพื่อหาร า ยได้ ทำให้ส า มีเรียนรู้ว่าภร ร ย ามีภาระหน้าที่
ต้องรับผิ ดชอบในบ้านมากเพียงใด และภร รย าก็จะได้รู้ถึงความเห น็ ดเหนื่ อยของการทำงาน
นอกบ้านของส ามี เมื่อต่างฝ่ายต่างรับรู้ “ความลำบาก” ของกันและกัน ได้แล้ว… ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจกัน…
ขอบคุณที่มา : tour-takja