ผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าแม่แล้ว เรื่องของพ ระคุณแม่นั้น หาที่เปรี ยบไม่ได้
ยิ่งกว่าท้องฟ้ามหาสมุทร ดังนั้น ไม่ว่าเราจะตอบแทนพ ระคุณท่านอย่ างไร
ก็ไม่มีวันทัดเที ยมกับพ ระคุณที่ท่านทำให้เรา
อย่ างเรื่องต่อไปนี้ ที่อຍากจะฝากให้เป็นข้อคิด กับใครหลาย ๆ คน
ที่ยังมีความคิดเช่นนี้ จะได้เปลี่ยนความคิดบ้าง มีชายหนุ่มคนหนึ่ง
เพิ่งเป็นเศรษฐี ด้วยลำแข้งตน เมื่อไม่กี่ปีก่อน มารดาของเขาสิ้ น บุญที่บ้านนอก
เขาไปร่วมงานศw ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ช อ บ คุณแม่ของเขาเพราะคุณแม่ของเขาเอา
แต่ขอเงิ นจากเขาเดือนไหนที่เขาไม่ได้ส่งเ งินกลับบ้าน แม่เขาจะโทรมา
เป็นแม่ที่เอาแต่เ งินจริง ๆ ยิ่งร วยมากขึ้น แม่ก็ยิ่งขอเ งิuมากขึ้นเท่านั้น เมื่อกลับถึงบ้าน
เขาก็ยังอดร้องไ ห้ ไม่ได้ เพราะเขาต้องไปทำงานไกล ๆ ไม่ได้อยู่ดูแลคุณแม่
แม้จะเป็นแม่ที่เอาแต่เงิ น เขาก็ยังอดรู้สึกติ ดค้ๅงคุณแม่ไม่ได้เลย
หลังงานศw ก่อนที่เขาจะกลับ
พี่ใหญ่ของเขาก็ยื่นซองเล็ก ๆ ซองหนึ่งให้เขาบอกว่าคุณแม่สั่งไว้ว่าต้องมอบให้
เขาให้ได้ เขาเปิดซองออกอย่ าง ร ะ มั ด ร ะ วั ง ในนั้uมีสมุดเงิ นฝากธนาคารเล่มหนึ่ง
และจดหมาย สมุดเงิ นฝากเป็นชื่อของเขาเอง
มีเงิ นฝากเป็นหลายสิบล้านบาท ในจดหมาย เขียนว่า “ลูกชายในบรรดาลูก ๆ ของแม่
คนที่ทำให้แม่กังวล ที่สุด คือลูกนะ เพราะตั้งแต่เล็กลูกไม่ขยันเรียนหนังสือ
และยังใจกว้างกับเพื่อนฝูง พอลูกจะขอไปทำงานในเมืองหลวง
แม่ก็กังวลว่าลูกจะใช้ชีวิตอย่ างไร เพราะงั้น แม่จึง บั ง คั บ ให้ลูกส่งเงิ นกลับมาให้แม่
ทุ กเดือu เพื่อจะได้ก ร ะ ตุ้ นให้ลูกไปหาเ งิน ได้เยอะขึ้น ในขณะเดียวกันก็เป็นการช่วยลูก
เก็บเงิ นด้วย เ งินที่ลูกให้แม่ แม่ไม่ได้ใช้แม้แต่แดงเดียวเลยนะ
พี่ชายของลูกดูแลแม่ดีอยู่แล้ว ณ ตอนนี้ ลูกเอาไปใช้ให้คุ้มเถิด” เมื่อเขาอ่ านจบ เขา ท รุ ด ลงบนพื้น
ท รุ ด อยู่เป็นเวลานาน เรื่องนี้ มันสอนให้เรารู้ว่า หากยังมีพ่อแม่อยู่ ก็แค่ทำหน้าที่ลูกให้ดีที่สุด
อย่ าทำอะไรที่ทำให้เรา รู้สึกเสี ยใจภายหลังเป็นพอ
ขอบคุณที่มา : san-sabai