Home ธรรมะ อ า ร ม ณ์ พ ร ะ โสดาบัน ไม่ ย า ก เกิน พ ย า ย า ม

อ า ร ม ณ์ พ ร ะ โสดาบัน ไม่ ย า ก เกิน พ ย า ย า ม

ปิดความเห็น บน อ า ร ม ณ์ พ ร ะ โสดาบัน ไม่ ย า ก เกิน พ ย า ย า ม
0

ท่านสาธุชนพุทธบริษัททั้งหลาย สำหรับคืนนี้ก็มาเริ่มปฏิบัติเนื่องในโสดาปัตติผล หรือว่าปฏิบัติเพื่อพ ระโสดาปัตติมรรค การเจริญพ ระก รรมฐานนี่ พ ระพุทธเจ้ามีความต้องการให้ผู้ปฏิบัติทุ กท่านเข้าถึงพ ระอริยมรรค พ ระอริยผล

ถ้าเราจะปฏิบัติกันอย่ างเลื่อนลอย ก็มีความสุขเหมือนกัน แต่มีความสุขไม่จริง ที่จะปฏิบัติให้มีความสุขจริง ๆ ก็จะต้องมีจุดใดจุดหนึ่งเป็นเครื่องเข้าถึงจึงจะใช้ได้ ในอันดับแรกนี้ องค์สมเด็จพ ระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ทรงต้องการผลอันดับต้น คือได้พ ระโสดาปัตติมรรค หรือพ ระโสดาปัตติผล หรือการที่เราเรียกกันว่า พ ระโสดาบัน ก่อนที่ท่านทั้งหลายจะศึกษาอย่ างอื่น ก็โปรดทราบว่า สำหรับพ ระโสดาบันนี้ละสังโยชน์ได้ 3 ประการคือ

 

1. สักกายทิฏฐิ

ตัวนี้มีปัญญาเพียงเล็กน้อย เพียงแค่มีความรู้สึกว่าเราจะต้องต ายเท่านั้น เป็นผู้ไม่ประมาทในชีวิต คิดอยู่เสมอว่าความต ายเป็นธรรมดาของชีวิต เราไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงความต ายให้พ้นได้

และความต ายนี้ จะปรากฏกับเราเมื่อไรก็ไม่แน่นอนนัก และเชื่อว่า ต ายเช้า ต ายสาย ต ายบ่าย ต ายเที่ยง ต ายกลางคืน ต ายกลางวัน อย่ างนี้ไม่มีความแน่นอน เพราะว่าความต ายไม่มีนิมิต ความต ายไม่มีเครื่องหมาย

แต่ถึงอย่ างไรก็ดี เราก็ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงให้พ้นจากความต ายไปได้ นี่สำหรับข้อแรกสักกายทิฏฐิ ที่เห็นว่าร่าง กายก็คือ ขันธ์ 5 ได้แ ก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิ ญ ญ าณ ที่เรานิยมเรียกกันว่า ร่าง กาย

พ ระโสดาบันมีความรู้สึกว่า มีปัญญาเพียงเล็กน้อย รู้แค่ต ายเท่านั้น ยังไม่สามารถจะจำแนกร่าง กายว่าไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเราได้ ความรู้สึกของพ ระโสดาบัน ยังมีความรู้สึกว่าร่าง กายเป็นเรา เป็นของเรา

ทรัพย์สินทั้งหลายยังเป็นเรา เป็นของเรา แต่ทว่ามีความรู้สึกว่า สิ่งทั้งหลายที่เป็นของเรานี้ทั้งหมด เมื่อเราต ายแล้วเราก็ไม่มีสิทธ์ที่จะเข้ามาครอบครอง หรือถ้าว่าเรายังไม่ต าย สักวันหนึ่งข้างหน้ามันก็ต้องสลายตัวไป

เนื่องในข้อว่า สักกายทิฏฐิ พ ระโสดาบันคิดได้เพียงเท่านี้ ยังไม่สามารถจะแยกกาย ทิ้งไปได้ทันทีทันใด องค์สมเด็จพ ระจอมไตรจึงกล่าวว่า พ ระโสดาบันมีปัญญาเล็กน้อย

 

 

ในข้อที่ 2 วิจิกิจฉา

พ ระโสดาบันไม่สงสัยในคำสั่งและคำสอน ขององค์สมเด็จพ ระสัมมาสัมพุทธเจ้า คำว่า คำสั่งก็ได้แ ก่ “ศีล” คำสอนก็ได้แ ก่ จริย าอันหนึ่งที่เราเรียกกันว่า ธรรมะ เป็นความประพฤติ ดี ประพฤติชอบ ศีล พ ระพุทธเจ้าสั่งให้ละ

หมายความว่า ละตามสิกขาบทที่กำหนดให้ไว้ คำสอนทรงแนะนำว่า จงทำอย่ างนี้จะมีความสุขอีกทั้งคำสั่งก็ดี ทั้งคำสอนก็ดี พ ระโสดาบันก็มีความเชื่อมั่นในคุณพ ระรัตนตรัย คือเชื่อพ ระพุทธเจ้า ในการเชื่อก็ใช้ปัญญาพิจารณาก่อน ไม่ใช่สักแต่ว่าเชื่อ

 

นี่สำหรับสังโยชน์ข้อที่ 3 สีลัพพตปรามาส

เพราะอาศัยที่พ ระโสดาบันมีความเคารพในพ ระพุทธเจ้า มีความเคารพในพ ระธรรม มีความเคารพในพ ระสงฆ์ เมื่อพ ระพุทธเจ้าทรงแนะนำบรรดาพ ระสงฆ์ว่า จงนำธรรมะนี้ไปสอน พ ระสงฆ์ก็ไปสอน พ ระโสดาบันใช้ปัญญาเพียงเล็กน้อย มีความเข้าใจดี

ยินยอมรับนับถือคำสั่งและคำสอนขององค์สมเด็จพ ระชินสีห์ ที่พ ระพุทธเจ้าทรงตรัสมา แล้วพ ระสงฆ์นำมาแสดง อาศัยที่ศรัทธาในพ ระรัตนตรัยทั้ง 3 ประการนี้ พ ระโสดาบันจึงเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ เป็นอันว่าพ ระโสดาบัน ถ้าเราจะไปพิจารณาจริง ๆ

ก็ไม่เห็นมีอะไรสำคัญ มีสภาวะเหมือนชาวบ้านชั้นดีนั่นเอง ทีนี้เราจะกล่าวถึง องค์ของพ ระโสดาบัน ท่านที่เป็นพ ระโสดาบันจริง ๆ นั้น มีอ ารมณ์ใจ คำว่า “องค์” นี่หมายความว่า อ ารมณ์ที่ฝังอยู่ในใจ อ ารมณ์ใจของพ ระโสดาบันจริง ๆ ก็คือ

 

1. มีความเคารพในพ ระพุทธเจ้า

 

2. มีความเคารพในพ ระธรรม

 

3. มีความเคารพในพ ระสงฆ์

 

4. มี ศีล 5 บริสุทธ์

 

 

อันนี้ก็ตรงกับพ ระบาลี ที่องค์พ ระชินสีห์ตรัสว่า พ ร ะโสดาบันกับพ ระสกิทาคามี เป็นผู้มีอธิศีล สำหรับกิเลสส่วนอื่นจะเห็นได้ว่า พ ระโสดาบันยังมีกิเลสทุ กอย่ าง ตามที่เรากล่าวกันคือ

 

โลภะ ความโ ลภ

 

ราคะ ความรัก

 

โทสะ ความโกรธ

 

โมหะ ความหลง

 

จะว่ารักก็รัก อย ากร วยก็อย ากร วย โกรธก็โกรธ หลงก็หลง แต่ไม่ลืมความต าย คำที่ว่าหลงก็เพราะว่า พ ระโสดาบันยังต้องการความร่ำร วยด้วยสัมมาอาชีวะ พ ระโสดาบันยังต้องการความสวยสดงดงาม ต้องการมีคู่ครอง

อย่ าง นางวิสาขามหาอุบาสิกา ก็ดี ภรรย าของพรานกุกกุฏมิตร ก็ดี ทั้งสองท่านนี้เป็นพ ระโสดาบัน ตั้งแต่อายุ 7 ปี แต่ในที่สุด ท่านก็แต่งงานมีเครื่องประดับประดาสวยงาม เป็นอันว่ากิเลสที่เราต้องการกัน

เนื่องจากการครองคู่ระหว่างเพศ พ ระโสดาบันยังมี และก็ยังมีครบถ้วน เพราะว่าอยู่ในขอบเขตของศีล ไม่ทำกาเมสุมิจฉาจาร ไม่ละเมิดความรักของบุคคลอื่น ไม่ทำให้ผิดประเพณีหรือกฎหมายของบ้านเมือง

และเป็นไปตามศีลทุ กอย่ าง คือรักอยู่ในคู่ผัวเมียตามปกติ นี่ขอบเขตของพ ระโสดาบันมีเท่านี้ มีความต้องการร วยด้วยสัมมาอาชีวะ พ ระโสดาบันยังประกอบอาชีพ แต่ไม่คดไม่โกง ไม่ยื้อไม่แ ย่งใครเท่านั้น

หามาได้แม้จะร่ำร วย แสนจะร่ำร วยก็ได้มาด้วยความบริสุทธ์ ไม่คดไม่โกงเขา พ ระโสดาบันยังมีความโกรธ ไอโกรธน่ะโกรธได้ แต่ว่าพ ระโสดาบันยังไม่ฆ่ าใคร เกรงว่าศีลจะข าด พ ระโสดาบันยังมีความหลง แต่หลงไม่เลยความต าย

ยังมีความรู้สึกอยู่ว่าต้องการชีวิต ชีวิตของเรามีอยู่ ต้องการทำประโยชน์ให้เกิดขึ้น ยังไง ๆ เราก็ต ายแน่ การที่จะหลีกเลี่ยงให้พ้นจากความต ายไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้ เป็นอันว่าถ้าเราพิจารณากันจริง ๆ ความเป็นพ ระโสดาบันนี่รู้สึกว่าไม่ย ากเลย

 

ขอบคุณที่มา : ธ ร ร ม ะ ส วั ส ดี

Load More In ธรรมะ
Comments are closed.

Check Also

ลักษณะผู้ชาย แ ม ง ด า ที่หวัง จะเกาะ ผู้หญิงกิน

1. เขามักจะบอกคุณอยู่เสมอ ว่าแม่เขาอย ากได้อะไร เขามักจ … …