1. หันมาผลิตเพื่อบริโภคภายในครัวเรือน
หากที่บ้านไหนมีพื้นที่ว่าง ๆ สนามหญ้าหลังบ้านหรือหน้าบ้านเล็ก ๆ
อาจจะลองนำเอาเมล็ดพันธุ์ผักปลอดส ารพิ ษต่าง ๆ
ไปปลูกดูดั่งคำพูดที่ว่ากินทุ กอย่ างที่ปลูกและปลูกทุ กอย่ างที่กิน
จะช่วยให้เราประหยัดไม่ต้องซื้อผักจากตลาด
แถมยังจะได้ผักที่สดสะอาดมั่นใจได้ว่าปลอดภัย เพราะเราปลูกด้วยตนเอง
แต่ถ้าใครที่อยู่บ้านเช่าตึกแถว คอนโด อพาร์ตเม้นต่าง ๆ
อาจจะไม่ค่อยมีพื้นที่สักเท่าไหร่แนะนำให้ลองหาอะไรมาดัดแปลง
เป็นกระบะหรือกระถางใส่ดิน ปลูกผักห้อย
วางตามระเบียงเพียงเท่านี้ก็จะได้ผักสวนครัวแบบกระถางห้อย
กินได้แล้วครับ
2. ทำบัญชีรายรับรายจ่ายประจำวัน
หลายคนอาจจะคิดว่า การทำบัญชีนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย ที่จริงแล้วมีผล
นะบัญชีทำให้เรารู้ว่าเรามีรายรับอะไรเท่าไหร่บ้าง มีรายจ่ายหมด
ไปกับสินค้าบริการ ประเภทไหนบ้างและเรามีภาระที่ต้องชำระค่าอะไรบ้างสิ่งเหล่านี้
เป็นเหมือนเครื่องเตื อนสติไม่ให้เราใช้จ่ายเงิ นจนเกินตัวโดยไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ
เมื่อเราเห็นภาพรวมของการเ งิน ของเราแล้ว ก็จะทำให้เรามีการวางแผน
ทางการเงิ นที่ดีขึ้นได้โดยเฉพาะใครที่อย ากมีเงิ นออมตอนสิ้นเดือนทุ ก ๆ
เดือนแล้วล่ะ ก็อย่ าลืมจดบันทึกและแบ่งเงิ นเก็บออมไว้เพื่ออนาคต กันบ้างนะ
3. ติ ดตามส่วนลด โปรโมชั่นดี ๆ
ถ้าจะซื้ออะไรสักอย่ างแล้ว เลือกซื้อที่มีรายการส่วนลดด้วยนั้น จะช่วยเซฟเ งิน
ในกระเป๋าของเราได้บ้างหรือถ้าใครที่ใช้จ่ายผ่ านบัตรเครดิตเป็นประจำ
ก็จะมีโปรโมชั่นเสริมต่าง ๆ มากมาย เช่น สะสมคะแนนเพื่อแลกรับของรางวัล
และส่วนลด ฟรีค่าที่พักค่าเดินทาง ค่าเครื่องบิน ตามแต่ละประเภทของบัตร
และสินค้าที่ร่วมรายการ
4. นำของเก่ามาทำเป็นของใหม่
ต่อเนื่องจากข้อแรกครับ ที่บอกว่าให้ซื้อแต่สิ่งที่จำเป็น สำรวจดูในบ้านบ้างครับว่า
สิ่งของชิ้นไหนที่ยังพอใช้ได้แต่สภาพเก่าไปบ้างก็ไม่เป็นไร
นำมาซ่อมแซมหรือดัดแปลงให้มันใช้งานได้หลากหลายขึ้นจะช่วยให้เรา
ประหยัดไม่ต้องเปลืองตังค์ซื้อ แถมยังได้ของใหม่ที่ทำขึ้นเองด้วยครับ
5. รู้จักประมาณตนในการใช้จ่าย
ก่อนที่จะควักเงิ น ออกจากกระเป๋าแต่ละที ควรคิดให้ดี ๆ ก่อนครับว่า
สิ่งที่เรากำลังจะแลกมานั้น มันมีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด
ถ้าสิ่งที่เกี่ยวกับเรื่องปากท้องอย่ าง ข้าวส าร อาหารแห้ง ผัก ผลไม้ น้ำดื่ม ฯลฯ
ของแบบนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีพ
หลายครอบครัวอาจไว้จะมีซื้อมาตุนไว้ก็ถือว่าเป็นไอเดียที่ดี
(แต่ระวั งของหมดอายุด้วยนะครับ)
ส่วนสิ่งของที่เป็นพวกเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย กระเป๋า รองเท้า
สินค้าไอทีต่าง ๆ พวกนี้อาจจะต้องคิดสักหน่อยก่อนซื้อ
เพราะบางอย่ างก็อาจจะไม่จำเป็น
6. หารายได้เสริม
จากวันว่าง หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ ช่วย ๆ กันในครอบครัวครับ พ่อ แม่ ลูก
ลองคิดว่าจะช่วยกันทำอย่ างไรเพื่อให้มีรายรับเพิ่มเข้ามา
อาจจะช่วยกันทำขนมหรือทำอาหารนำผักที่ปลูกไปขายที่ตลาด
หรือคุณแม่บ้านอาจจะมีอาชีพเสริม เช่น การเย็บปักถักร้อย, ทำตุ๊กตา, ทำงานฝีมือ
แล้วให้ลูก ๆ ช่วยเรื่องการถ่ายภาพจัดต กแต่งลงโพสต์ขายในออนไลน์ต่าง ๆ
นอกจากนี้ยังมีอาชีพเสริมอีกมายมายที่ให้เลือกตามความถนัด
และตามความสามารถของแต่ละคนอย่ างรับสอนพิเศษ รับเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
นักแปลภาษาเป็นไกด์ทัวร์นำเที่ยวช่วงเทศก าลและวันหยุด ฯลฯ เป็นต้น
ขอบคุณที่มา : yindeeyindee