มีชายคนหนึ่งอาศัยอยู่บนหุบเขาที่ห่างไกลจากผู้คน ในทุ ก ๆ วันเขาต้องเดินทางวันละ 2 กิโล
ไปกลับจากบ้าน เพื่อไปตักน้ำที่ลำธาร ด้วยถังน้ำสองใบ เขาทำแบบนี้มาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว
แต่ถังน้ำใบหนึ่งมีรอยแต ก ส่วนอีกใบยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ด้วยระยะทางที่ไกล
ทำให้ถังน้ำที่มีรอยรั่ว ใส่น้ำกลับมาได้แค่ครึ่งถังเท่านั้น เท่ากับว่าเขาจะมีน้ำใช้ได้แค่วันละถังครึ่ง
ถังน้ำใบที่มีรอยแต กรู้สึกผิดและละอายใจตัวเอง ที่บกพร่อง และมีตำหนิ
ไม่มีความสามารถบรรจุน้ำกลับมาได้เต็ม ในขณะที่อีกใบก็ภูมิใจในตัวเองที่ใส่น้ำได้เต็มถัง
ถังน้ำที่มีรอยแต ก มองว่ามันคือความล้ มเหลวที่สุดในขีวิตของมัน มันจึงได้พูดขึ้นว่า
“ข้ามันช่างไร้ประโยชน์จริง ๆ เพราะข้ามีรอยแต กข้างตัว
จึงทำให้น้ำไหลออกตลอดทาง กว่าจะถึงบ้านก็เหลือน้ำแค่ครึ่งถังเอง”
คนตักน้ำจึงตอบถังน้ำไปว่า “ไม่ใช่แบบนั้นเลย เจ้าก็ยังเป็นถังน้ำที่มีประโยชน์อยู่เหมือนเดิม
เจ้าไม่สังเกตบ้างหรอว่า เส้นทางที่เราเดินมา
มีแต่ด้านของเจ้าที่มี ด อกไม้ขึ้นสวยงามเรียงรายตลอดทางกลับบ้าน แต่อีกด้านนั้นไม่มี”
คนตักน้ำพูดต่อว่า “เพราะข้ารู้ไงล่ะว่าเจ้ามีรอยแต ก และน้ำไหลตลอดทาง
ข้าเลยหว่านเมล็ดพันธุ์ด อกไม้เอาไว้
และเจ้าก็เป็นคนที่รดน้ำด อกไม้เหล่านี้ทุ กวัน ตลอดเกือบ 3 ปีที่ผ่ านมา ด อกไม้สวย ๆ เหล่านั้น
ข้าสามารถเก็บมาใส่แจกันบนโต๊ะอาหารที่บ้านได้
และยังเพิ่มทิวทัศน์ที่สวยงามให้เราได้มองเวลาต้องมาตักน้ำกลับบ้านอีกด้วย”
“เพราะฉะนั้นจงอย่ ารู้สึกไม่ดีไปเลย เพราะถ้าไม่ได้เจ้า เราก็คงไม่มี ด อกไม้สวย ๆ แบบนี้ให้เห็น”
เราทุ กคนต่างเกิดมามีข้อบกพร่อง ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบทุ กอย่ างได้ทั้งหมด
แต่อยู่ที่ว่าเราจะมองข้อบกพร่องหรือรอยจำหนิของตัวเองแบบไหน จมอยู่กับความรู้สึกแ ย่ ๆ
หรือจะเปลี่ยนวิ ธีคิดยอมรับข้อบกพร่องของแต่ละคนที่เป็นอยู่ และมองหาสิ่งดี ๆ
ในข้อบกพร่องเหล่านั้น ถ้าแก้ไขไม่ได้ก็ทำที่เป็นอยู่ให้มันดีขึ้น
ขอบคุณที่มา : bitcoretech