1. รวบรวมทรัพย์สินที่มีทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็น เงิ นสด เงิ นฝาก เงิ นลงทุนในกองทุน สิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่สามารถแป รสภ าพ
เป็นเงิ นส ดเพื่ อชำระห นี้ได้ รวมถึงบ้านและรถย นต์ที่ปลอดภาระห นี้
2. เจรจาประนอมห นี้ คุยกับเจ้าห นี้แต่ละรา ย
เพื่อขอปรับลดอัตราด อกเบี้ยจ่าย ขอขย ายระยะเวลาในการผ่ อน
ชำระห นี้รวมถึงขอปรับล ดเงิ นผ่อนชำระต่องวด
3. หยุดการก่อห นี้เพิ่มไม่ว่าจะเป็นห นี้ใด ๆ
และตั้งใจชำระห นี้อย่ างมีวินัย หาหนทางเพิ่มรายได้จากงาน
ประจำเพื่อให้มีรายได้ชำระห นี้ได้มากขึ้น
4. หลังจากปลดภาระห นี้แล้ว
ควรวางแผนการเงิ นแ บบง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เพื่อไม่ต้องกลับไปเป็นห นี้แบบในอดีต
โดยเริ่มทำบัญชีบันทึกรายรับ รายจ่าย ในแต่ละเดือนเพื่อดูว่าเงิ นหายไปไหน ประหยัด
และ เปลี่ยนนิสัยการใช้จ่ายเป็นมีเงิ นสดแล้วค่อยซื้อ จ่ายในสิ่งที่ จำเป็น และ ลดในสิ่ง
ที่เรียกว่าอย ากได้ ใช้ชีวิตอยู่อย่ างคนจน จะไม่จน
5. รวบรวมห นี้ที่มีทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นห นี้บั ตรเค รดิตที่มีทุ กใบ ห นี้สินเ ชื่อส่วนบุคคลห นี้บัตรกดเงิ นสด ห นี้บ้าน ห นี้รถ
รวมถึงห นี้ที่กู้ยื มจากคนรอบข้างหรือคนใกล้ตัว ว่ามียอดเท่าไหร่ และดูระยะเวลาในการชำระห นี้
ว่าเป็นห นี้สินระยะสั้น หรือห นี้สินระยะย าว
6. แยกห นี้ที่มี ด อ กเบี้ ยสูง ผ่อนระยะสั้น
และห นี้ที่มี ด อกเบี้ยต่ำ ผ่อนระยะย าว โดยชำระห นี้ที่มีอัตราด อกเบี้ ยสูงกว่าก่อนแล้วค่อยเรียง
ลำดับไล่ลงมายังห นี้ ที่มีอั ตราด อกเบี้ยต่ำ เช่นจ่ายห นี้สินเชื่อส่วนบุคคลที่มี
ด อกเบี้ ยสูงกว่าก่อนห นี้บัต รเค รดิต
7. รวมห นี้ หาเจ้าห นี้ที่รับโอนห นี้ที่มี ด อกเบี้ ยต่ำที่สุด
และควรเป็นเจ้าห นี้ในระบบ เนื่อ งจากอัตราด อกเบี้ ยในระบบโดยทั่วไปจะต่ำกว่ าห นี้นอกระบบ
รวมถึงวิ ธีการทวงถามห นี้จะเป็นไปตามระเบี ยบของสถาบันการเ งินนั้น ๆ
ขอบคุณที่มา : lamunlamai