เพราะการทำงานคือ อีกสังคมที่เราจะต้องอยู่ไป อ ย่ า ง น้อยก็ตลอดชีวิต ดังนั้นการปฏิบัติตัวให้คนในที่ทำงานเข้าใจ
และทำงานด้วยกัน อ ย่ า ง สงบสุข นั้นจึงเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ควรจะมีสกิลพื้นฐานเหล่านี้ ติ ด ตัวไว้ ยิ่งในวันที่เราเติบโต
ไปเป็นหัวหน้าคน การปฏิบัติตัวก็จะยิ่งต้องทำตัวให้น่ารักขึ้น
เพื่อนที่การทำงานจะได้ราบรื่น ลูกน้องรัก วิ ธี การปฏิบัติเป็นหัวหน้าที่ดีแต่ละคน ก็มีเทคนิคที่ต่างกัน แต่วันนี้เราจะมา
แนะนำ วิ ธี การปฏิบัติตัวเป็นหัวหน้าที่ดี ในแบบที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ไม่รู้ว่า
จะต้องเริ่มต้น อ ย่ า ง ไรดี
1. ไม่เอาเปรียบ
ลูกน้องทำงานหนักแค่ไหน หัวหน้าก็ควรที่จะทำงานหนักไปด้วยกัน อ ย่ า ปล่อยให้ลูกน้องทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ
ขณะที่ตัวเองสนุกสนานกับการทำในสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับงานเพราะคิดว่าลูกน้องมีไว้ให้สั่งงาน
2. ไม่เอาลูกน้องไปนินทา
การเอาเรื่องของลูกน้องไปเล่าในเชิงนินทานั้นไม่ใช่สิ่งที่หัวหน้าควรจะทำ เพราะจะทำให้ความรู้สึกเคารพในตัว
หัวหน้าลดลงทันทีหากวันหนึ่งลูกน้องทราบเรื่อง อ ย่ า หูเบา และปากไวคิดว่าการนินทาเป็นเรื่องสนุก
3. อ ย่ า เอาหน้า
ในวันที่งานประสบความสำเร็จ หัวหน้าต้องยืนอยู่แถวหลัง แล้วให้ลูกน้องที่เป็นเจ้าของงานนั้นได้รับความดี
ความชอบไป อ ย่ า ดึงซีนเด่นกว่าคนทำงานเพราะคนที่เหนื่อยกับการทำงานควรได้รับผลตอบแทนมากกว่าหัวหน้า
ตรงกันข้าม หากมีความ ผิ ด พ ล า ด เกิดขึ้น หัวหน้าที่ดีต้องออกหน้ารับแทนลูกน้อง
4. ให้คำปรึกษาได้
การให้คำปรึกษา แ ก่ ลูกน้องเป็นสิ่งหนึ่งที่หัวหน้าต้องมีศิลปะเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว
ถ้าน้องถาม อ ย่ า ง ตั้งใจ ก็ควรให้คำปรึกษาที่ถูกต้อง อ ย่ า ให้คำปรึกษาแบบขอไปทีเหมือนกับว่าธุระไม่ใช่
เพราะหากทำแบบนี้บ่อยๆ อนาคตน้องๆ จะไม่เปิ ด อ ก คุยกับคุณเลยแม้จะเป็นเรื่องงานก็ตาม
5. ให้โอกาส
การให้โอกาสคนเป็นสิ่งที่หัวหน้าควรจะทำ และควรจะรู้ว่าใครเหมาะที่จะได้รับโอกาสนั้น ซึ่งการให้โอกาสนั้น
เป็นสิ่งที่คนทำงาน ทุ ก คน อ ย า ก ได้จากหัวหน้าไม่ว่าจะเป็นโอกาสเล็ก หรือโอกาสใหญ่ก็ตาม เพราะมันแสดง
ให้เห็นว่า หัวหน้ามองเห็นศักยภาพของตัวเขา
6. พร้อมให้ความช่วยเหลือ
อ ย่ า คิดว่าให้งานลูกน้องรับผิดชอบไปแล้ว หัวหน้าจะลอยตัว นั่งรอน้องเอางานมาส่งเฉยๆ แต่หัวหน้าควร
จะพร้อมให้ความช่วยเหลือน้องๆหากมีปัญหาไม่ควรปล่อยให้ลูกน้องลุยงาน อ ย่ า ง โดดเเดี่ยว
เมื่อ ติ ด ปัญหาหาทางออกไม่ได้งานก็อาจจะ เ สี ย
7. ตั้งใจฟัง
หัวหน้ามีหน้าที่ในการรับฟัง ความคิดเห็นของน้อง ทุ ก คน เพราะถ้าเขาไม่ปรึกษาหัวหน้า ก็ไม่รู้แล้วว่าจะ
ไปปรึกษาใครต่อและไม่ใช่แค่รับฟัง อ ย่ า ง เดียวเท่านั้น แต่ต้องฟัง อ ย่ า ง ตั้งใจเพื่อให้รู้ถึงสิ่งที่น้องต้องการด้วย
เพื่อจะได้ช่วยน้องได้ถูกต้อง
8. เคารพเวลาส่วนตัว
นอกเวลางาน ไม่ใช่เวลาที่หัวหน้า จะคุยงานกับลูกน้อง หากเป็นงานด่วนจริงๆ หัวหน้าควรจะรับเรื่องเอาไว้ก่อน
แล้วค่อยไปจัดการกันในเวลาควรเข้าใจว่าวันหยุดหรือช่วงเวลาพักผ่อนของ ทุ ก คนมีค่า อ ย่ า คิดว่า…มันเป็นเรื่องงาน
ลูกน้องคุยได้เขาต้องพร้อมจะแก้ไขให้เราสิ
9. เป็นหัวหน้าแค่ในเวลางาน
ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม พอเลิกงานแล้ว ถอดหัวโขน ที่เป็นหัวหน้าทิ้งซะ ลูกน้องที่เห็นก็ไม่ใช่ลูกน้อง แต่เป็นพี่เป็นน้องกัน
10. รับปากต้องทำให้ได้
เมื่อไหร่ก็ตาม ที่เรารับปากไปแล้วสิ่งที่หัวหน้าต้องทำคือ จดจำให้ได้ว่าเคยสัญญาอะไรกับลูกน้องไว้แล้วต้องทำให้ได้
อ ย่ า พูดไปส่งๆ ว่าเดี๋ยวจัดการให้นะ เดี๋ยวทำให้ เดี๋ยวตามให้ แล้วก็ปล่อยให้น้องๆ รอความหวัง สุดท้ายพอน้อง
ทวงถามก็บอกว่าลืม ซึ่งไมใช่เรื่องดีเลย
11. ใจดีแต่ไม่ตามใจ
ทุ ก คนล้วนชอบคนที่ใจดีทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นคนที่ทำงานในระดับไหน แต่ความใจดีนั้นไม่ได้หมายถึงการยอมตามใจ
ลูกน้องไปซะ ทุ ก อ ย่ า ง น้องบอกทำแบบนี้ได้ไหม เราบอกได้เลยๆ อ ย่ า ง เดียวเพียงเพราะกลัวว่าน้องจะ เ สี ย ใจ
ซึ่งจริงๆ แล้วบาง อ ย่ า ง อาจจะไม่ดีต่องานเท่าไหนการทำแบบนี้ลูกน้องอาจจะรัก แต่เจ้านายจะมองว่าเราเป็นหัวหน้า
ที่ไม่สามารถบอกน้องๆ ได้ว่าอันไหนควรทำ อันไหนไม่ควร
12. ลงมือทำให้เห็น
การลงมือทำให้ ทุ ก คนเห็นนั้น เป็นสิ่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด กว่าการไปบอกใครว่า นี่ๆ ทำแบบนี้สิแล้วจะดี
แต่ความเป็นจริงแล้ว คนที่เป็นหัวหน้านี่แหละทำตามให้เห็นไปเลยถ้า อ ย า ก จะให้ลูกน้องทำอะไรง่ายกว่า
13. เป็นกลางกับ ทุ ก คน
ความเป็นกลางในที่ทำงานนั้นหมายถึง การให้ความสนใจกับ ทุ ก คน อ ย่ า ง เท่าเทียมกับ ไม่ลำเอียงไปทางคนใดคนหนึ่ง
หรือใน ทุ ก ครั้งที่ต้องตัดสินใจอะไรก็ตามควรเอาความเป็นกลางเป็นที่ตั้ง อ ย่ า เอาความสนิทเป็นที่ตั้ง
เพราะถ้าคนเป็นหัวหน้าเอียงไปทางคนใดคนหนึ่ง ปัญหาจะตามมา แต่ถ้าเราเป็นกลางใน ทุ ก เรื่องปัญหานี้จะไม่เกิด
14. มีเหตุมีผล
หัวหน้าที่ไม่มีใครชอบเลยคือหัวหน้าที่ยึดความคิดเห็นของตัวเองเป็นใหญ่ ใครพูดอะไร หรือเสนอไอเดียอะไรมา
ถ้าหัวหน้ารู้สึกว่าไม่คุ้นเคย ไม่เข้าใจ จะค้านทันทีทั้งที่ยังไม่เคยได้ศึกษาหรือฟังคำอธิบายเพราะยึดชุดความคิดของตัวเอง
เป็นหลักหัวหน้าแบบนี้จะทำให้ลูกน้องไม่ยอมเข้าหา ไม่กล้าคุยด้วยและไม่กล้าเสนอไอเดียอะไรใหม่ๆ เลย
ท้ายที่สุดแล้วงานก็ออกมา แ ย่
15. ไม่ตำหนิใครต่อหน้าคนอื่น
เวลาที่เราจะตำหนิใครจริงๆ สิ่งที่หัวหน้าที่มีสติ ควรทำคือตำหนิกันแค่สองคนในที่ที่ไม่ใครรับรู้ เพราะการตำหนิใคร
ต่อหน้าที่ประชุมหรือคนเยอะนั้นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกผิด แต่มันทำให้เขารู้สึกอายมากกว่า และจะไม่เคารพคุณด้วย
เพราะทำแบบนี้เหมือนไม่เคารพกัน
16. ควบคุม อ า ร ม ณ์ เป็น
การคุม อ า ร ม ณ์ คือ คุณสมบัติพื้นฐานของหัวหน้าที่ดี เพราะไม่มีลูกน้องคนไหนที่ อ ย า ก จะเจอหัวหน้าที่คุม อ า ร ม ณ์ ตัวเอง
ไม่ได้ คนที่ทำงานด้วยจะกดดันมากๆและแทบจะไม่ อ ย า ก เจอหน้าเลยล่ะ หรือหากคุณเป็นหัวหน้า แล้วลูกน้องทำผิดจริงๆ
อ ย่ า ใส่ อ า ร ม ณ์ กับลูกน้องแต่คุยด้วยเหตุผลว่าเรา อ ย า ก จะได้อะไรไม่ใช่มาถึงใส่เต็มที่เลย ลูกน้องหนีแน่นอน เข้าใจไหม ปั๊ดโธ่!
17. ปกป้องลูกน้อง
หน้าที่ของหัวหน้าที่ถูกต้องคือต้องพร้อมที่จะกางปีกปกป้องน้องๆ ทุ ก คนแม้ในวันที่เขาทำผิด ก็ต้องรู้ว่าควรจะทำ อ ย่ า ง ไร
ให้ลูกน้องไม่รู้สึกว่าตัวเองโดนถีบ ต ก น้ำคนเดียว แต่เราควรจะไปปกป้องลูกน้อง ส่วนผิดถูก อ ย่ า ง ไรเดี๋ยวไปแก้ไขกันที่หลัง
18. ชมต่อหน้า ทุ ก คน
หากลูกน้องของคุณทำดี สิ่งที่หัวหน้าควรทำคืนชื่นชมต่อหน้าคนอื่น เพื่อให้เขารู้สึกได้ภูมิใจในงานที่ทำ
ยิ่งได้รับคำชมจากหัวหน้ากำลังใจก็มาเต็มเพราะเขารู้ว่าสิ่งที่ทำไป อ ย่ า ง ตั้งใจไม่ เ สี ย เปล่า หัวหน้ารับรู้ และ ทุ ก คนก็รับรู้
19. คิดก่อนจะพูด
ก่อนจะพูดหรือแนะนำอะไรก็ตาม หัวหน้าที่ดีจะคิดก่อนแล้วค่อยเสนอความคิดเห็นหรือคำแนะนำออกไป
ที่หัวหน้าควรคิดก่อนพูดก็เพราะสถานภาพเราคือผู้นำทีม การที่เรานำทีมไปโดยไม่คิดผลลัพธ์ก็ออกมาไม่ดีแน่นอน
20. หัวหน้าก็ผิดได้
คนเป็นหัวหน้าต้องไม่ ผิ ด พ ล า ด แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสพลาด เมื่อพลาดแล้วหัวหน้าก็ต้องแสดงให้น้องๆ
ได้เห็นว่าหัวหน้ามีการจัดการความผิดนั้น อ ย่ า ง ไร ซึ่งน้องๆ จะจดจำสิ่งที่เราทำแล้วจำไว้เป็นแบบ อ ย่ า ง
ขอขอบคุณ m a n g o z e r o