ใช้ชีวิตอย่ างคนจน จะร วยยิ่ง ๆ ขึ้นไป แต่ถ้าใช้ชีวิตแบบคนร วย จะจนลงไปเรื่อย ๆ อยู่อย่ างจนจะร วย อยู่อย่ างร วยจะจน
ในสังคมปัจจุบันไม่มีใครปฏิเสธได้เลยว่า เ งินไม่ใช่สิ่งสำคัญในชีวิต สมัยก่อนเมื่อมีคนพูดว่า เงิ นสามารถซื้ อทุ กอย่ างได้
ก็จะมีคนกลุ่มหนึ่งบอกว่า ไม่จริงหรอก เงิ นไม่สามารถซื้ อทุ กอย่ างได้ เช่น เวลา แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง เงิ นสามารถซื้ อเวลาได้นะ
เช่น นาย A นั่งรถโดยสา ร หรือรถทัวร์จากกรุงเทพไปเชียงใหม่ กับนาย B ที่ขึ้นเครื่องบินจากกรุงเทพไปลงที่เชียงใหม่
เห็นความแต กต่างไหม แปลว่านาย A สามารถซื้อเวลาที่ต้องเ สียไป หากมีเ งินเท่านาย B นั่นเอง
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า เงิ นเป็นปัจจั ยที่สำคัญมาก ๆ ในชีวิตปัจจุบัน หากใครเงิ นน้อยก็ลำบากมาก ใครเงิ นมากก็ลำบากน้อย
ยิ่งสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่มีความผันผวนมาก เกิดเหตุการณ์มากมายที่ทำให้เศรษฐกิจของโลก ระส่ำระสาย สลับขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่เว้นทุ กวี่วันแบบนี้
การที่จะสามารถหาเ งินให้ได้เยอะ ๆ นั้น ก็ยิ่งย ากเข้าไปใหญ่ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ธุรกิจแทบจะทุ กสายต่างเริ่มบ่นออกมาว่า ข าดสภาพคล่อง
ต้องคอยประคองตัวให้รอดกันไปก่อน ทำให้มีการมองหาการลงทุนหรือเครื่องมือทางการเงิ นต่าง ๆ ที่จะสามารถมาแบ่งเบาภาร ะของเราให้ได้ไม่มากก็น้อย
หรือมีการให้ความรู้ทางด้านการเงิ น และมีการปรับ Mind set ให้แ ก่คนที่ต้องการร วย ซึ่งประโยคที่ฮิตที่สุดประโยคหนึ่งคือ
หากเราอยู่อย่ างคนจน ก็จะร วย อยู่อย่ างคนร วยก็จะจน ถ้าเราพย าย ามแปลความหมายของประโยคนี้
อยู่อย่ างจนจะร วย อยู่อย่ างร วยจะจน อย่ างละเอียด จะเห็นว่า มันก็ค่อนข้างที่จะเป็นความจริงเลยทีเดียว โดยหากเราทำสลับกับข้อความข้างต้น ก็จะทำให้เราจนลงอย่ างแน่นอน
เพราะหากเรามีรายได้ 100 แต่เราใช้ 120 แปลว่า เราใช้เ งินในอนาคต 20 และถ้าเราทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ด อกเบี้ ยจากการใช้เ งินในอนาคต ก็จะพอกไปเรื่อย ๆ ทำให้สุดท้ายการเงิ นของเราก็จะพัง
แต่หากเราทำตามเรามีรายได้ 100 เราใช้ 80 เราก็จะเหลือเก็บ 20 พอเก็บไปเรื่อย ๆ มันก็จะกลายเป็นร้อย เป็นพันได้ในที่สุด แต่มันก็ยังมีนัยยะบางอย่ างซ่อนอยู่เช่นกัน
ไม่ใช่ว่าจะถูกต้อง 100% เ สียทีเดียว เราจะมาลองเจาะลึกกันว่า ที่บอกว่า ไม่ถูกต้อง 100% คืออะไร คือ
หากเราทำตามคำพูดข้างต้น 100% โดยไม่มองให้ลึกลงไป เราอาจจะไม่จนก็จริงอยู่ แต่เราก็จะไม่สามารถที่จะร วยขึ้นได้ เผลอ ๆ แม้จะไม่จน แต่ก็จะค่อย ๆ แ ย่ลงเรื่อย ๆ
เพราะหากเรามีเงิ นเท่าเดิม แต่เ งินเฟ้อเพิ่มขึ้นเราก็จะจนลงโดยอัตโนมัตินั่นเอง แต่หากเรามองให้ลึก โดยเข้าใจความหมายที่แท้จริงที่ประโยคข้างต้นจะสื่อว่าอยู่อย่ างคนจน คิดอย่ างคนร วย ถึงจะร วย
แต่หากอยู่อย่ างคนรว ย คิดอย่ างคนจน อีกไม่นานก็จะจน จะเห็นได้ว่า ประโยคนี้ค่อนข้างจะเป็นจริงเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะการนำการคิดจากคนที่ประสบความสำเร็จที่มักจะพย า ย ามหาโอกาสที่จะทำงานให้เกิดรายได้อย่ างสม่ำเสมอ
การนำความคิดแบบนี้มาใช้ จะทำให้เราร วยขึ้นได้ไม่ช้าก็เร็วแน่นอน และถึงแม้ว่าเราจะใช้ชีวิตอย่ างคนร วย แต่เราก็เอาความคิดของคนร วยมาใช้ในเรื่องของการทำงาน ความพย าย ามต่าง ๆ
เราก็อาจจะร วยได้เช่นกัน เพียงแต่จะช้ากว่าการใช้ชีวิตแบบคนจน แต่กลับกันหากเราใช้ชีวิตอย่ างคนจน แต่ไม่เอาความคิดคนรว ยมาใช้ ไม่นำหลักการณ์ แนวทางการทำงานต่าง ๆ มาพัฒนาตัวเราให้ดีขึ้น
เราก็จะไม่รว ยขึ้น มีแต่จะยิ่งจนลง ๆ เพราะพิ ษของเงิ นเฟ้ อนั่นเอง การคิดอย่ างคนรว ยทำยังไง คนร วยมักจะไม่พึ่งโช คช ะตา คนรว ยจะรู้เสมอว่าสิ่งที่เขาควรจะทำนั้นมีอะไรบ้าง
เช่น การเตรียมพร้อม แน่นอนบางครั้ง เราอาจจะไม่ได้รับโอกาสดี ๆ เข้ามาในชีวิต จนเฝ้าอิ จฉ าคนอื่นว่า หากเรามีโอกาสแบบนั้นอีกครั้ง เราก็น่าจะทำได้
คนรว ยจะไม่คิดแบบนี้เด็ ด ข า ด คนร วยจะเป็นคนที่เตรียมพร้อมอยู่เสมอ หาความรู้ ฝึกทักษะ ทำซ้ำ จนเก่ง โดยไม่รอโอกาสก่อน แล้วถึงค่อยลงมือทำ
และเมื่อถึงจังหวะเวลาที่เหมาะสมโอกาสที่เข้ามา เขาจะคว้ามันเอาไว้ และด้วยความพร้อมที่เขามีอยู่ ก็จะทำให้มีโอกาสประสบความสำเร็จได้อย่ างรวดเร็วนั่นเอง
จะเห็นได้ว่าการนำแนวคิดจากประโยคเพียงประโยคเดียวมาใช้ ก็สามารถที่จะช่วยให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นได้ อยู่ที่ว่าเราจะเลือกปฏิบัติตามแนวทางไหน และมีวินัยหรือความมุมานะเพียงพอที่จะทำให้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่นั่นเอง
และสุดท้ายสิ่งที่อย ากจะฝากไว้ก็คือ การที่เราได้เรียนรู้ หรือจะนำแนวคิดของใครมาปฏิบัติ หรือมาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวนั้น ไม่ว่าจะเป็นของคนร วย คนจน คนที่ประสบความสำเร็จ หรือคนที่ล้ มเห ลว
เราก็ต้องอย่ าลืมว่า คนนั้นไม่ใช่เรา และเราไม่สามารถเป็นเหมือนคน ๆ นั้นได้ 100% เพราะว่าเรากับเขาเป็นคนละคนกัน แต่อย ากจะให้นำแนวคิดเหล่านั้นมาพัฒนา ใส่ความเป็นตัวเราเข้าไป ปรับนู่นนิด นี่หน่อย ให้เหมาะสมกับตัวเรา
น่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด สู่การเป็นคนที่จะสามารถประสบความสำเร็จได้ในที่สุด คุณแค่ทำตัว จน ไม่ออกไปแฮงก์เอ าท์ เ สียเพื่อนห่ วย ๆ บางคนไป ไม่ฟังคำพูดพวกดีแต่ปาก ทนทำงานหนัก ไม่แคร์ว่าใครจะพล่ ามอะไร กินอะไรแค่พออยู่ได้
ไม่เที่ยวพักร้อนผล าญเ งิน ไม่ต้องใช้ชีวิตหรู ทั้งที่ทำได้ ก้มหน้าก้มตาทำอะไรลำบ าก ๆ ยอมอดหลับอดนอนได้ โฟกัสกับเป้าหมาย ที่เขาว่าเพ้ อ เจ้ อ ทำตัวแบบที่คนส่วนใหญ่ไม่ทำแล้วไม่เกิน 5 ปี คุณจะมีชีวิตใหม่ที่สบายไปตลอดชาติ คุณยอมแลกมั้ย ก็แค่นั้นแหละ
ขอบคุณที่มา : ต า ส ว่ า ง