รักสามเส้า และปัญหานอกใจ จัดเป็นปัญหาใหญ่ที่หลายคนกำลังพบเจอ
หลายครั้งปัญหานี้จบลงด้วยน้ำตาแต่บางคนก็ไม่ยอมจบปัญหา ยื้อเวลาไว้
อย่ างนั้น ในขณะที่อีกหลายคนไม่รู้ว่าควรจะก้าวต่อไปอย่ างไรดี
พ ระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ “รักสามเส้า” ไว้หลายกรณีดังนี้
กรณีที่ 1 ทำอย่ างไร เมื่อเขาทิ้งเราไปมีคนใหม่ แต่เราตัดใจไม่ลงสักที
การที่สามีไปมีผู้หญิงอื่นทำให้คุณรู้สึกว่า คุณไม่มีความหมาย ไร้คุณค่า ยิ่งคุณรู้สึกยึดมั่นใน “ตัวฉัน” มากเท่าไร
ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกดูถู กเหยี ยดหย ามมากเท่านั้น ขณะเดียวกันหากคุณยึดมั่นว่าสามีเป็น “ของฉัน”ก็จะ
ยิ่งโกรธที่เขาถูกแ ย่งไปจากคุณ อาตมาอย ากให้คุณพิจารณาให้ดี ๆ
ว่าความรู้สึกที่รบกวนจิตใจของคุณเกิดจากอะไรแน่ถึงที่สุดแล้วมันก็ไม่หนีไปจากความยึดติ ดถือมั่นใน ตัวฉัน-ของ
ฉัน นั่นเองความยึดติ ดถือมั่นนี้แหละที่เป็นตัวการสร้างความทุ กข์แ ก่เราอย่ างแท้จริงและนำไปสู่การซ้ำเ ติมตัวเอง
เพราะแทนที่จะเ สียของรัก เช่น สามี ทรัพย์สมบัติ ก็เสี ย ความสุขซ้ำเข้าไปด้วยไหน ๆ
จะเสี ยก็ขอให้เสี ยอย่ างเดียวพอ ไม่ควรเสี ยใจซ้ำอีกหากคุณทุ กข์ใจเพราะรู้สึกว่าได้สูญเสี ย “ของฉัน”ก็ลองใคร่
ครวญอย่ างจริงจังว่าสามีนั้นเป็นของคุณจริงหรือ คุณสามารถครอบครองเขาได้จริงหรือ? หรือว่าเขาเพียงแต่ผ่ าน
เข้ามาในชีวิตของคุณเพียงเพื่อจะจากไปในที่สุดไม่มีทางที่คุณจะยึดเป็นของคุณได้เลยแม้แต่นาทีเดียว
หากคุณเ จ็ บ ป ว ดเพราะรู้สึกว่าตัวคุณไร้คุณค่าหรือถูกดูถู กก็ลองใคร่ครวญดูว่า คุณค่าที่แท้ของคุณนั้นอยู่ที่ตัวคุณ
เองอยู่ที่การกระทำและภาวะภายในของคุณ หาได้อยู่ที่สายตาของคนอื่นไม่การที่เขาทิ้งคุณไปไม่ได้ทำให้คุณค่าของ
คุณลดน้อยถอยลงเลยคนที่จะลดทอนคุณค่าของตัวคุณได้มีคนเดียวเท่านั้น คือ คุณ
อาตมาขอแนะนำให้คุณลองมองเหตุการณ์นี้ในมุมใหม่ว่า การที่สามีทิ้งคุณไปนั้นเป็นการฝึกให้คุณรู้จักพึ่งพาตนและ
กลับมาเห็นคุณค่าของตนเอง ไม่เอาความสุขไปผูกติ ดกับคนอื่น ช่วยให้คุณเป็นอิสระอย่ างแท้จริงอีกทั้งยังทำให้คุณ
ได้เห็นถึงโ ทษของความยึดมั่นใน ตัวฉัน-ของฉัน และกระตุ้นให้คุณคลายความยึดมั่นดังกล่าวลง
กรณีที่ 2 ทำอย่ างไรเมื่อเขาเผลอนอกใจ แล้วสำนึกผิดและขอโอกาสอีกครั้ง แต่เราให้อภั ยไม่ได้
หากสามีของคุณสำนึกผิดและขอโ ทษคุณ คุณก็ควรให้โอกาสเขาพิสูจน์ตนเองอีกครั้งคนเรานั้นย่อมมีความพลาดพลั้ง
เป็นธรรมดา หาความสมบูรณ์แบบไม่ได้ แม้ว่าความผิ ดพลาดครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่แต่ในเมื่อคุณยังรักเขา ก็ควรรู้จักให้อภั ย
เพราะรักแท้นั้นหมายถึงการให้
เช่นเดียวกับแม่ที่พร้อมให้อภั ยต่อลูกเสมอ แม้ลูกจะทำความเ จ็ บ ป ว ดแ ก่แม่ก็ตาม หากคุณยอมรับว่าเขาเป็นคนที่ไม่เคย
บกพร่องในการเป็นสามีและพ่อ เมื่อเขาพลั้งพลาดเพียงครั้งเดียวจึงไม่น่าที่จะตัดรอนเขาไป การทำเช่นนั้นไม่ได้สร้างความ
ทุ กข์แ ก่เขาเท่านั้น แต่ยังเป็นผลเ สียต่อคุณและลูกด้วย
กรณีที่ 3 ทำอย่ างไรหากเราหมดซึ่งความไว้วางใจในตัวเขาแล้ว
หากยังคิดที่จะมีชีวิตคู่ด้วยกันหรือเป็นแฟนกัน ก็ต้องให้โอกาสคู่รักของตนในการแก้ตัวเพราะคนเรานั้นย่อมผิ ดพลาดกันได้ หากเขา
สำนึกผิดและอย ากแก้ตัว ก็ควรให้โอกาสเขา ระหว่างนั้นก็ควรลดความระแวงลงบ้าง เพราะตราบใดที่ยังมีความระแวงอยู่ย่อมมีการ
จ้องจับผิด ซึ่งก่อให้เกิดความทุ กข์ทั้งแ ก่เขาและแ ก่ตนเอง
เพราะเป็นธรรมดาว่าเมื่อจ้องจับผิดแล้ว ก็ย่อมเห็นแต่เรื่องที่ไม่สบายใจหรือเพิ่มความระแวงสงสัยให้หนักขึ้น (ส่วนเขาจะทำจริงหรือ
ไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง)เพราะอคติเมื่อเกิดขึ้นแล้วย่อมย ากที่จะเห็นสิ่งต่างๆตามความเป็นจริงได้ แม้แต่สิ่งที่อยู่ข้างหน้าก็ตามคนเรานั้น
หากไม่มีความไว้วางใจกันแล้ว ย่อมอยู่ร้อนนอนทุ กข์
ถ้าเป็นอย่ างนั้น ต่างคนต่างอยู่หรือเป็นแค่เพื่อนกันไม่ดีกว่าหรือความทุ กข์จะได้ลดลง ถ้าอยู่แล้วทุ กข์ทั้งสองฝ่ายจะมีประโยชน์อะไร
ดังนั้นถ้ารักจะเป็นแฟนกันก็ควรมีความไว้วางใจกันตามสมควร ลดความระแวงลงและให้โอกาสแ ก่คู่รักของเขาในการพิสูจน์ตนเอง
อย่ างน้อยก็สักระยะหนึ่งแม้อดีตจะมีเรื่องที่เ จ็ บ ป ว ด
ก็ไม่ควรฝังใจอยู่กับอดีต หรือปล่อยให้อดีตครอบงำจิตใจจนไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ หากคุณให้โอกาสเขาแก้ตัวแล้วเขายังนอก
ใจอยู่ ถึงตอนนั้นจึงค่อยตำหนิหรือว่ากล่าวเขา หรือจะตัดความสัมพันธ์ไปเลยก็เป็นเรื่องที่สมควรอยู่
กรณีที่ 4 จะดีไหม ถ้าไม่เลือกวิ ธีหย่ า แต่ขอแยกลูกออกจากพ่อของเขา
คุณไม่ได้มีเจตนาร้ า ยต่อลูกที่แยกเขาออกจากพ่อ จึงไม่เป็นบาปแต่อย่ างใด แต่คุณก็ต้องไตร่ตรองว่าการทำเช่นนั้นจะส่งผลกระทบ
ต่อเขาอย่ างไร หากคุณสามารถให้ความรักแ ก่เขาได้อย่ างเต็มที่ สามารถเป็นทั้งแม่และพ่อให้แ ก่เขาได้ หรือมีข้อต กลงเพื่อให้เขาได้
อยู่ใกล้ชิดกับพ่อตามโอกาส ผลเสี ยต่อลูกก็ไม่น่าจะมีมาก อย่ างไรก็ตาม
หากคุณสามารถอดทนเพื่อให้ลูกมีทั้งพ่อและแม่อยู่ใกล้กัน(โดยมีบรรย ากาศของครอบครัวที่ไม่อึมครึมร้าวฉาน) ก็น่าจะดีต่อลูกมากกว่า
แต่ถ้าคุณอยู่แล้วไม่มีความสุขเลยมีแต่ความทุ กข์ หรือถึงกับมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับสามีเป็นอาจิณการอยู่เป็นครอบครัวในสภาพเช่นนั้น
ย่อมส่งผลเสี ยต่อลูกมากกว่าเรื่องนี้คุณลองพิจารณาดูแต่หากตัดสินใจที่จะแยกจากเขา
ก็ควรทำหลังจากที่ให้โอกาสเขาแก้ตัวแล้วไม่มีอะไรดีขึ้นตัวอย่ างคำแนะนำจากพ ระไพศาล วิสาโล คงช่วยให้ผู้มีปัญหาเริ่มตัดสินใจได้แล้วว่า
ตัวเองจะก้าวต่อไปอย่ างไร…ไม่ว่าจะเลือกทางไหน เราขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ
ขอบคุณที่มา : kapook999