1. คนที่ไม่เข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนในตัวเอง
เมื่อโทรกลับบ้าน แม่มักจะเตื อนว่า “อย่ าใช้เงิ นเปลือง”แต่หากฉันประหยัด 1 ปีเก็บเงิ นได้ 1 แสน,10ปีเก็บได้ 1 ล้านเนี่ย
คือเก่งเหรอ? ในขณะที่ฉันใช้เวลา 10 ปี เก็บเงิ นได้ 1 ล้าน คนอื่นอาจจะใช้เวลาเพียงแค่ปีเดียว
ดังนั้นตอนที่คุณยังเย าว์วัยคุณต้องรู้จักลงทุนกับตัวเอง เงิ นไร้ชีวิต แต่คนมีชีวิต หากทุ กเดือนคุณเอาเงิ นส่วนหนึ่งมาลงทุน
กับตัวเอง ไปเรียนไปเที่ยว ออกกำลังกาย ทำให้คุณค่าของตัวเองเพิ่มขึ้น เมื่อเวลาผ่ านไปหลายปี
คุณจะพบว่าเงิ นที่คุณใช้ไปกับการพัฒนาตัวเองจะได้คืนกลับมาหลายเท่าเลยล่ะ
2. คนที่ตอบสนองต่อสิ่งใหม่ ๆ ได้ช้ากว่าใคร
เมื่อ 2 ปี ก่อน นโยบาย ลูกคนที่ 2 ถูกประกาศออกมาและคนที่ตอบสนอง อย่ างรวดเร็ว คว้าโอกาสในการทำธุรกิจ
ไว้ลงทุนในกิจการที่เกี่ยวกับแม่ และลูกจนเจริญรุ่งเรือง เมื่อปี 2011 WeChat ถูกเปิดตัวหลายๆคน กำลังเรียนรู้ว่าใช้
มันอย่ างไร คนที่มีเซนส์ได้ค้นพบประโยชน์ของแพลทฟอร์มเหล่านี้
และเปิดแอคเค้าท์สาธารณะของตนเองเป็นที่เรียบร้อยแอคเค้าท์ที่ขึ้นต้นด้วย V ก็คือแอคเค้าท์ ที่เริ่มเมื่อสมัยนั้น
หลายคนพูดว่าปลาเล็กกินปลาใหญ่ ตอนนี้ต้องเปลี่ยนว่า
“ปลาเร็วกินปลาช้า” สิ่งใหม่ที่มีขึ้นมา มันมักมาพร้อมกับโอกาสเสมอ เมื่อโอกาสผ่ านไป คนที่ช้าคงไม่มีทางได้สัมผัสรับรู้
ดังนั้น จงค้นหาและแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเองให้ทันท่วงที
เพื่อที่จะพัฒนาตัวเองต่อไปในทิศทางที่ดีกว่าเดิมไม่เช่นนั้น คุณจะถูกคนอื่นๆทิ้งไว้ข้างหลัง
3. คนที่นอกเหนือจาก 8 ชั่ วโมงแล้วไม่เรียนรู้อะไรเลย
มีเพื่อนคนนึงทำการค้าระหว่างประเทศ ทำงานปีแรกมีลูกค้าชาวสเปนเยอะมาก เขาจึงเริ่มเรียนภาษาสเปนทุ กวัน
หลังเลิกงานวันละ 2 ชั่ วโมง ผ่ านไป 3 ปี จากความสามารถด้านภาษา เพื่อนคนนี้เลยมีโอกาสไปร่วมงานนิทรรศการ
การค้าต่างประเทศ แล้วสิ่งที่ได้กลับมาคือ ลูกค้ารายใหญ่
หลายรายธุรกิจขย ายตัวอย่ างรวดเร็ว ย่ างเข้าปีที่ 7ก็ได้เปิดบริษัทของตัวเอง สิ่งที่เขาไม่เคยหยุดทำก็คือ ใช้เวลา
นอกเหนือจาก 8 ชั่ วโมง เพื่อการเรียนรู้ ยุคสมัยนี้ เป็นยุคแห่งการเรียนรู้ ไม่ว่าใคร ก็จำเป็นต้องเรียนรู้ไปตลอด
หากปฏิเสธการเรียนรู้ จะทำให้เป็นคนไม่มีอนาคต
4. คนที่ทำงานร่วมกับคนอื่นไม่เป็น
บริษัทต่างชาติ มอบเ งินจำนวน 160 บาทให้แ ก่ผู้ที่มาสมัครงานกลุ่มหนึ่ง เพื่อให้พวกเขาไปหาอะไรกินด้วยกัน
พอไปถึงร้านอาหาร กลับพบว่าเงิ นที่พวกเขาได้มามันไม่พอ เพราะพวกเขามีกัน 6 คน แต่อาหารหนึ่งจานราคาอย่ างต่ำ
ก็ 40 บาท จึงเดินกลับไปที่บริษัทอย่ างหัวเ สีย
เมื่อถึงบริษัทประธานรู้เข้าก็ได้พูดว่า “ขอโ ทษด้วยพวกคุณไม่เหมาะกับบริษัทเรา”ร้านอาหารนั้นหากสั่งข้าวเปล่า 6
จานจะเป็นเงิ น 60 บาท เหลือเ งิน อีก 100 บาทสามารถสั่งเป็นกับข้าวมากินด้วยกันได้ ถึง 2 อย่ าง แต่ว่าผู้สมัคร
ทั้ง 6 คน กลับคิดว่าตัวเองไม่ได้มาด้วยกัน
ไม่เป็นทีมเดียวกัน ทุ กคนต่างคิดถึงแต่ตัวเองแต่ละคนก็เหมือนอิฐก้อนหนึ่ง โยนลงไปบนถนนก็ง่าย ที่จะถูกเตะไปมา
แต่หากคุณเอาอิฐหลายๆก้อนมาก่อเป็นผนังก็จะมั่นคงแข็งแรงยิ่งกว่า
5. คนที่มองอะไรสั้น ๆ แค่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า
เมื่อเรียนจบ LiTing กับ TanSisi เข้าไปฝึกงานที่บริษัทบัญชีแห่งหนึ่ง เมื่อหมดระยะฝึกงาน บริษัทได้เสนอให้ไปศึกษางาน
ที่สำนักงานใหญ่ในฮ่องกง 2 ปี แต่ได้เงิ นเดือนเพียงครึ่งเดียว
และไม่มีค่าคอมมิชชั่น LiTing รู้สึกว่าเ งินเดือนน้อยอีกอย่ างตนไม่คุ้นเคยกับฮ่องกง จึงไม่สนใจ ส่วนTanSisiตัดสินใจเลือก
ไปฮ่องกง เพื่อศึกษางาน แถมยังได้เ งินเดือนช่างเป็นโอกาสที่คุ้มค่า นี่คือความคิดของเธอ เวลาผ่ านไป 2 ปี TanSisi
กลับมาที่บริษัทในฐานะหัวหน้าโครงการ
รายได้ 1 ล้านบาทต่อปีส่วน LiTing น่ะ เหรอ ยังคงทำงานในตำแหน่งเดิม เงิ นเดือนไม่ถึง 1 ใน 3 ของTanSisi
ด้วยซ้ำ ดังนั้นถ้าอย ากประสบความสำเร็จ ต้องรู้จักมองการณ์ไกล
ขอบคุณที่มา : yakrookaset