1. ตั้งเป้าหมายในสิ่งที่ทำได้ไม่ย าก ลองมองหาสิ่งที่ง่าย ๆที่อยู่ในความสามาร
ถที่จะทำได้ เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น เช่น
หากเผชิญกับปัญหาทางการเ งิน ก็อาจจะใช้เวลาพิจารณางบประมาณและดูว่า
จะสามารถจะลดค่าใช้จ่ายในส่วนใดได้บ้าง หากมีปัญหาในการทำงาน
ลองมองดูศักยภาพที่มีอยู่ในตนเอง แล้วเริ่มต้นจากเป้าหมายเล็ก ๆที่สามารถทำ
ได้ไม่ย าก หยิบมาทำก่อน เพื่อช่วยให้เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า มีทางเป็นไปได้มากขึ้น
2. ดึงตัวเองให้หลุดออกจากความทุ กข์ ในวันแ ย่ ๆ
หากอยู่ในห้องทึบทึมที่อบอวลไปด้วยความคิดแง่ลบ ด้วยบรรย ากาศที่ขุ่นมัวแบบนี้
จะทำให้ความคิดของเราหยุดนิ่ง และจมดิ่งลงสู่ทัศนคติเชิงลบทั้งหลายซึ่งมีแต่จะทำ
ให้สถานการณ์ย่ำแ ย่ลงไปอีกดังนั้น หากพบว่าตัวเองชักจะจมปลัก
อยู่กับความท้อแท้ผิดหวังอย่ าปล่อยให้ตัวเองติ ดอยู่กับความทุ กข์ ไม่ว่าสถานการณ์
นั้นจะมืดมนเพียงใดคุณก็สามารถทำบางสิ่งบางอย่ าง
ที่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้เช่น รับประทานไอศครีมอร่อย ๆ สักถ้วย อ่ านข้อความที่ให้กำลังใจ
โทรศัพท์ไปหาเพื่อนหรือคนที่คุณรัก ออกไปเดินเล่น ปลูกต้นไม้สักต้น ฯลฯ
ไม่สำคัญว่าสิ่งดี ๆนั้นจะเป็นอะไร ขอเพียงแต่ช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นและจะช่วยดึงให้หลุด
ออกจากบรรย ากาศที่ทำให้เกิดความคิดแง่ลบ
เมื่อถอยออกมาจากเหตุ การณ์นั้นสักระยะหนึ่ง แล้วมองย้อนกลับเข้าไปใหม่
อาจช่วยให้คุณมองเห็นทางออกของปัญหาเหล่านั้นก็ได้
3. จำไว้เสมอว่า “เวลาคือของขวัญล้ำค่า” บางวันบางเวลาดูเหมือนเป็นช่วงเวลาที่ย่ำแ ย่
แต่ชีวิตคนเรานั้นประกอบด้วยช่วงเวลาสั้น ๆ มากมาย
และแต่ละช่วงเวลาให้โอกาสเราในการเลือกที่จะมองในมุมที่ดีหรือมุมที่เ ล วร้ า ยการยึดติ ด
กับความผิ ดพลาดที่เกิดขึ้นในอดีต ถือเป็นเรื่องที่เปล่าประโยชน์
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นและผ่ านไปแล้วนั้น เราไม่สามารถจะตามไปแก้ไขอะไรได้พึงระลึกเสมอว่า
ช่วงเวลาที่เหลืออยู่เป็นของขวัญอันล้ำค่าที่เปิดโอกาสสำหรับสิ่งดี ๆ
ที่จะเข้ามาในชีวิตของคุณได้อีก ความผิ ดพลาดในวันนี้ไม่ได้หมายความว่าวันหน้าคุณจะไม่มี
วันประสบความสำเร็จได้ บางเรื่องราวหรือบางคนอาจทำให้เราโกรธ
หรือเครียดมากเมื่อวันก่อน ครั้นมาวันนี้เราอาจลืมเรื่องราวหรือคน ๆ นั้นไปแล้วก็ได้อย่ าปล่อย
ให้เหตุ การณ์เพียงเรื่องเดียวมาควบคุมชีวิตของคุณจงเรียนรู้ที่จะ
มองข้ามช่วงเวลาที่ผิดหวังหรือทุ กข์ใจ ให้เห็นโอกาสอีกมากมายที่รออยู่ข้างหน้า
4. หยุดคิดในแง่ลบ ข้อนี้อาจดูเหมือนพูดง่ายแต่ทำย าก อย่ างไรก็ตาม
เป็นความจริงที่ว่าการหยุดความคิดเชิงลบสามารถเปลี่ยนชีวิตของเราได้ทำนองเดียวกับรถยนต์
หากขับเคลื่อนไปโดยไม่มีห้ามล้อ อาจจะถลำจนเสี ยหายและต กเ หวได้ การหยุดความคิดในแง่ลบ
อาจทำได้หลายวิ ธีเช่น ถามตัวเองว่า “เหตุ การณ์นี้จะมีความสำคัญ
กับตัวเราไปตลอดทั้งปีเลยหรือไม่?”ถ้า “ไม่” ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องกังวลหรืออ ารมณ์เสี ยมากมาย
ไปกับสิ่งนั้นแต่ถ้าคำตอบคือ “ใช่” ลองพิจารณาดูว่ามีขั้นตอนใดบ้าง
ที่จะสามารถทำได้ในขณะนี้เพื่อปรับปรุงสถานการณ์ให้ดีขึ้น
5. เปลี่ยนมุมมองเป็นแง่บวก เมื่อใดก็ตามที่คุณเริ่มหมกมุ่นอยู่กับความคิดเชิงลบ
ให้รีบถอนตัวออกมาทันที และเปลี่ยนมุมมองเสี ยใหม่ โดยมองปัญหาในอีกด้านมองเรื่องแ ย่ ๆ ให้เป็น
แง่บวก การมีรอยยิ้มและอ ารมณ์ขันจะช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายลงได้มาก
จงยิ้มและหัวเราะให้กับเรื่องเครียด ๆที่เจอ โดยมองว่า “ชีวิต คือ การเรียนรู้ ทุ กประสบการณ์ล้วนเป็น
ครูสอนเราให้แข็งแกร่งขึ้น”ดังนั้น ทุ กอย่ างที่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องที่ดีและมีประโยชน์ทั้งหมด
อย่ างไรก็ตาม การจะเปลี่ยนมุมมองให้คิดบวกจนติ ดเป็นนิสัยนั้นต้องอาศัยความกล้าและความอดทน
ฝึกไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นคนมองโลกในแง่ดีมีทัศนคติเชิงบวก
แล้วเราจะพบเห็นโอกาสต่าง ๆ อีกมากมาย ให้เลือกก้าวเดินไปข้างหน้า
และควบคุมชีวิตตัวเองไปในทางบวกได้ตามที่คิด
6. ขอบคุณสิ่งดี ๆ ในชีวิต เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า
จงเริ่มต้นวันใหม่ของคุณด้วยการคิดถึงสิ่งดี ๆ อย่ างน้อย 5 สิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณ และทำเช่นนี้อีก
ครั้งในเวลากลางคืนก่อนนอนโดยคิดถึงอีก 5 สิ่ง ที่คุณรู้สึกชื่นชมและขอบคุณ ซึ่งอาจเป็นความ
สำเร็จเล็ก ๆ
น้อย ๆ ที่คุณทำได้ในแต่ละวันก็ได้ แล้วคุณจะพบว่าเรื่องดี ๆมีมากกว่าเรื่องแ ย่ ๆ ตั้งมากมาย
และเมื่อใรก็ตาม ที่คุณรู้สึกท้อแท้ให้คว้ากระดาษหรือไดอารี่ขึ้นมาแล้วเขียนสิ่งดี ๆ
เหล่านี้ลงไปความรู้สึกดี ๆ จะถูกซึมซับผ่ านเข้าสู่จิตใจและทำให้คุณมีรอยยิ้มและกำลังใจ
ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งด้วยการจดจำสิ่งดี ๆ และความสำเร็จทั้งหลายในชีวิต
จะช่วยให้เปลี่ยนความคิดจากเชิงลบเป็นเชิงบวกได้ดียิ่งขึ้น
7. ลงมือทำตามคำแนะนำของตัวเอง ลองสมมติว่าหากมีเพื่อนสนิทมาหาคุณ
เพื่อขอคำแนะนำในปัญหาหรือสถานการณ์ที่คุณกำลังเผชิญอยู่คุณจะให้คำแนะนำแ ก่เขาอย่ างไร
โดยทั่วไปเรามักจะรู้คำตอบดีอยู่แล้วว่า“สิ่งที่จะต้องทำเพื่อให้ชีวิตดีขึ้นนั้นคืออะไร”
เพียงแต่ต้องเริ่มที่จะลงมือทำสิ่งนั้น แทนที่จะเฝ้ารอบางคนหรือบางสิ่งบางอย่ าง
ให้มาเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของตัวเราเองหากวันนี้คุณเหนื่อยล้าท้อแท้ใจ
กับวันแ ย่ ๆ ลองใช้ 7 วิ ธีที่กล่าวมานี้คืนความสุขและรอยยิ้มกลับมาสู่ตัวคุณเอง เปลี่ยนวัน
สีเทาให้เป็นวันที่สดชื่นแล้วคุณจะพบว่าการมองโลกในแง่บวกจะช่วยให้อะไร ๆ ง่ายขึ้นมาก
เลยทีเดียว
ขอบคุณที่มา : 108resources