1. ให้คำมั่นสัญญากับตัวเอง และบอกตัวเองซ้ำ ๆ
เพราะคำมั่นสัญญาดี ๆ มีผลต่อกระบวนการคิดของตัวเอง เช่น
ถ้าคุณมีอาการ ซึ ม เ ศ ร้ าเป็นประจำ คำมั่นสัญญาของคุณก็คือ
ฉันมีความสุข ฉันควบคุมตัวเองได้ บอกตัวเองเช่นนี้ หลาย ๆ
ครั้งในแต่ละวัน แล้วคุณจะรู้สึกถึงพลังความคิดด้านบวกที่เกิดขึ้น
2. รับข้อมูลข่าวส ารที่ดี
หมั่นอ่ า นบทความที่สร้างแรงจูงใจ หรือฟังธรรมะที่กระตุ้นให้รู้สึก
ตื่นตัว และเกิดปัญญาซึ่งจะช่วยให้มองโลกและชีวิตได้อย่ าง
เข้าใจ มีความหวัง และความสุข
3. อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี
ถ้ารอบๆตัวเต็มไปด้วยข้าวของวางระเกะระกะ กระจัดกระจายไปทั่วห้อง
ลองหาเวลาจัดเก็บให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
ซึ่งจะช่วยให้คุณเปลี่ยนมุมมอง ความคิดได้มาก ใครจะมองโลกในแง่ดีได้
ถ้าต้องอยู่ท่ามกลางสภาพสกปรกรกรุงรังตลอดเวลา เพราะสภาพแวดล้อมที่ดี
จะช่วยสร้างและเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดทัศนคติ ด้านบวก
4. ความผิ ดพลาดมีไว้ให้เรียนรู้ มิใช่แส้ที่เอาไว้เ ฆี่ ย น ตี
ทุ กคนล้วนเคยทำผิดทั้งนั้น และถึงแม้ว่าได้พ ย า ย า มอย่ างดีที่สุดแล้ว
แต่ก็ยังทำพลาด ขอให้จำไว้ว่ายังมีโอกาสให้เริ่มต้นใหม่ ความผิ ดพลาดต่าง ๆ
ที่ผ่ านมาถือเป็นบทเรียน เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข สิ่งที่จะทำต่อไปในอนาคต
5. จินตนาการว่ามีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้น
แปลกแต่จริงที่ว่า คนส่วนมากมักชอบวาดภาพเรื่อง เ ล ว ร้ า ย กำลังเกิดขึ้น
โดยมักจะพูดว่า ถ้ามันเกิดขึ้น จงฝึกนึกถึงเรื่องดี ๆ
กำลังเกิดขึ้น มองเห็นภาพงานที่กำลังทำเดินไปด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นงานที่บ้านหรือที่ทำงาน
และได้รับคำชมจากคนรอบข้างว่าเยี่ยมมาก เพราะนั่นจะเป็นกำลังใจให้คุณคิดบวกต่อไป
6. รู้จักบริหารเวลาอย่ างชาญฉลาด
อย่ าเสี ยเวลากับเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่คุณตั้งเป้าไว้ในชีวิต
ข้อสำคัญคือ มุ่งทำในเรื่องที่ทำให้ชีวิตของคุณเป็นไปดังที่หวังไว้
ซึ่งจะส่งผลให้คุณมีทัศนคติที่ดี
7. เห็นคุณค่าสิ่งดี ๆ ในชีวิต
เมื่อเราพอใจกับทุ กเรื่องดี ๆ ที่เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
ก็ตาม มันจะช่วยให้เราขจัดความคิดในด้านลบออกไป
การโฟกัสแต่สิ่งดี ๆ เหล่านี้ จะทำให้อุปสรรคที่เราเผชิญอยู่
กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เราจัดการได้ง่ายขึ้น
8. พาตัวเองเข้าไปอยู่ในแวด วงของคนที่ประสบความสำเร็จและมอง โลกในแง่ดี
มันเป็นเรื่องมหัศจรรยู์ที่พลังอำนาจของคนอื่น สามารถส่งผลกระทบต่อพลังในตัวเราได้
คนที่คิดในด้านบวกจะช่วยกระตุ้นและเป็นแรงบันดาลใจให้เรา เชื่อมั่นในตัวเองว่า
เราสามารถทำสิ่งที่มุ่งมั่นไว้ให้สำเร็จได้ จำไว้ว่า..จงอยู่ให้ห่างคนที่คิดแต่แง่ ร้ า ย
ซึ่งจะขัดขวางการเดินหน้าของคุณ ดังพุทธศ าสนสุภาษิตที่ว่า
คบคนพาล พ าลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล
9. มองหาบุคคลต้นแบบ
ทุ กคนควรมีบุคคลต้นแบบที่เป็นแรงบันดาลใจ คนคนนั้นอาจเป็นผู้ที่
เอาชนะอุปสรรคใหญ่ ๆ ได้สำเร็จ
และประสบความสำเร็จอย่ างงดงามในที่สุด
หรือเป็นผู้ที่ทำงานหนักและสัมฤทธิ์ผล
จงเอาคนนั้นเป็นแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต
10. ถ้าแก้วมีน้ำแค่ครึ่งเดียว จงเติมให้เต็มแก้ว
การมองว่า มีน้ำเหลืออยู่ครึ่งแก้ว หรือน้ำหาย
ไปครึ่งแก้วนั้น ถูกทั้ง 2 อย่ าง
อยู่ที่ว่าผู้มองเป็นคนมองโลกในแง่ดีหรือ ร้ า ย
และไม่ผิดอะไรที่คุณจะเติมน้ำให้เต็มแก้ว
11. รู้จักให้อภั ยตัวเองและผู้อื่น
สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต
เป็นผลพวงมาจากการกระทำของตนเองทั้งสิ้น
ในบางครั้งบางคราว เราต่างตัดสินใจผิ ดพลาด
แต่เมื่อรู้สำนึกแล้ว ก็ต้องปล่อยให้มันผ่ านไป
เรียกว่าเป็นการให้อภั ย และต้องให้อภั ยตัวเอง
เมื่อทำผิ ดพลาด เพื่อที่จะเดินหน้าต่อไป
รวมทั้งใช้ความผิ ดพลาดจากอดีตเป็นบทเรียน
เพื่อก้าวย่ างที่ดีกว่าในอนาคต
12. ให้มองไปข้างหน้า อย่ ามองย้อนหลัง
ทุ กคนเคยทำผิดมาแล้วทั้งนั้น
แต่ต้องไม่จมอยู่กับอดีตที่ผิ ดพลาด
เพราะชีวิตต้องดำเนินต่อไป จงวางเป้าหมายเล็ก ๆ
ที่เป็นไปได้ และพ ย า ย า มทำให้สำเร็จ
ขอบคุณที่มา : verrysmilejung