1. ทำตัวเป็น “งูเห่า” เลี้ยงไม่เชื่อง
สมัยเด็ กคุณคงเคยได้ยินนิทานก่อนนอนเรื่อง “ชาวนากับงูเห่า” มาบ้างแล้ว
บางทีคุณไม่ได้โ ง่หรอกที่เมื่อเพิ่งรู้จักกันระยะแรก
คุณมองไม่ออกว่าคนรอบตัวคุณใครคือ “ งู เ ห่ า ”ด้วยความที่คุณเป็นคนดีคุณ
ก็เมตตาคนประเภทนี้ไปเรื่อย ๆ แต่คนประเภทนี้
นอกจากเขาอาจจะไม่ได้ตอบแทนคุณด้วยการขอบคุณหือความรู้สึกที่ดีต่อคุณ
เขายังไปฉกกัดคุณ มีความริษย าในด วงใจ จ้องจะทำร้ า ยคุณเป็นผลตอบแทน
2. กอบโกยผลประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว จ้องเอารัดเอาเปรียบไม่มีที่สิ้นสุด
บุคคลประเภทนี้มักจะแอบแฝงมาในรูปแบบเพื่อนหรือคนสนิทต่างๆเข้ามาหาคุณ
ใครจะไปรู้ว่าแท้จริงแล้วเหตุผลที่เขาเข้าหาคุณนั้นเพียง
เพื่อจะมาเอาผลประโยชน์จากคุณเท่านั้นซึ่งอาจจะเป็นทรัพย์สินที่คุณมีอยู่อาจจะเป็น
แรงกายหรือทรัพย์สินทางสติปัญญาของคุณ
เพื่อโอนเข้าทางประโยชน์ของเขามันเป็นเรื่องปกติมากที่คนเราทุ กคนเกิดมาอย่ าง
“น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า”ความหมายคือคนเราต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกัน
ย้ำอีกที “ซึ่งกันและกัน”แต่บุคคลนี้กลับใช้คตินี้ตีความผิดไปหรือไม่ก็ตีความไม่ครบ
เขากลับเห็นแต่ประโยชน์ที่คุณจะสามารถให้เขาได้
ใช้เล่ห์กลเพื่อเอารัดเอาเปรียบคุณส ารพัดรูปแบบ สำคัญแต่ตัวจะรับไม่คำนึงถึงการให้
โดยเบื้องลึกของจิตใจคนเหล่านี้บางคนไม่ได้คิดแม้แต่จะหาทางตอบแทนคุณอย่ างใด
3. เป็นนักกุเรื่อง ชีวิตไม่อยู่บนฐานความเป็นจริง
บุคคลประเภทนี้มักชอบพูดเรื่องเท็จเป็นกิจจะลักษณะ ไม่สนใจว่าสิ่งที่ตนเองได้ให้ข้อมูล
ที่ไม่เป็นความจริงต่อผู้อื่นไปแล้วฝ่ายตรงข้ามจะถูกคนในสังคมมองเช่นไร
บุคคลประเภทนี้มักชอบพูดจาบิดเบือนความจริง จนบางครั้งคุณก็น่าจะรู้สึกได้ด้วยตัวคุณเอง
4. สนใจแต่เฉพาะเรื่องตัวเอง
มักจะโผล่มาเฉพาะเวลาที่ต้องการให้คนช่วยเสร็จแล้วก็หายเข้ากลีบเมฆคนประเภทนี้เอาคำว่า
“เพื่อน” หรือความสัมพันธ์ต่างๆมาบังหน้าไว้เท่านั้น
คุณสมบัติของคนเหล่านี้ ร้อยวันพันปีหากไม่มีเรื่องอะไรที่ที่เขาต้องการความช่วยเหลือ
เขาจะไม่โผล่ตัวมาหาคุณเลยยกตัวอย่ างเล็ก ๆ เช่น
เขาจะ แชทส่งข้อความ ทักคุณมาก็ต่อเมื่อเขากำลังมีเรื่องให้คุณช่วยเท่านั้นกลุ่มบุคคลนี้มัก
เป็นผู้เห็นแ ก่ได้ฝ่ายเดียวซะด้วยสิ
และพอเขาใช้งานคุณเสร็จแล้วก็หายตัวเข้ากลีบเมฆไปอย่ างรวดเร็วบุคคลเหล่านี้ขัดกับตำรา
เพื่อนที่ดีที่ได้กล่าวไว้ว่าคนช่วยต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
คนประเภทนี้หากคุณสังเกตดีๆว่าเวลาคุณต้องการความช่วยเหลือขึ้นมาบ้างบางครั้งเขาอาจจะ
ไม่ปรากฏตัวเลยก็เป็นได้นะ
5. ไม่มีความ “เสมอภาค” ในมิตรภาพ ไม่เห็นความสำคัญของอีกฝ่าย
คุณอาจสงสัยว่าหมายถึงบุคคลประเภทนี้ใดกัน บุคคลประเภทนี้ก็หมายถึงบุคคลที่ชอบทำอะไรที่
ไม่เป็นธรรมตัวอย่ างก็เช่นเวลาใดที่บุคคลเหล่านี้มีเรื่องทุ กข์ใจ
อย ากเเ ช ร์ก็ไปหาคุณได้ตลอดเวลาแต่พอคุณมีเรื่องต้องการคนปรับทุ กข์บ้างคุณกลับไม่สามารถ
ไปหาคนคนนี้ได้เนื่องจากเขากลับไม่ได้รับฟังหรือ เขาอาจเรียกร้องน้ำใจ
ของคุณอยู่ฝ่ายเดียวเช่น ช่วยงานให้เขาหรือให้คุณช่วยอะไรเขาจิปาถะแต่เมื่อถึงทีของคุณบ้างคุณ
กลับไม่ได้รับน้ำใจนั้นกลับคืนมา เรื่องนี้ดูเผินๆอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย
แต่มันมีความหมายว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ได้มองเห็นความสำคัญในตัวคุณมากที่คุณคิด
ขอบคุณที่มา : verrysmilejung