1. ผู้หญิงสามารถขอความร่วมมือจากผู้อื่นได้ดีกว่า
ผู้หญิงเป็นเพศที่ละเอียดอ่อนและมีการเลือกใช้คำและน้ำเสี ยงได้
หลากหลายกว่าผู้ชายมากค่ะ มีมหาวิทย าลัยแห่งหนึ่งได้ทำการ
ศึกษาการใช้ภาษาระหว่างผู้หญิงและผู้ชายพบว่า ผู้หญิง
จะเลือกใช้คำเพื่อขย ายคำนามหรือกริย ามากกว่าผู้ชาย ยกตัวอย่ าง เช่น
ถ้าเราถามเรื่องสี ผู้ชายอาจจะตอบแค่สีแดง แต่ถ้าถามผู้หญิง
จะตอบว่าสีแดงเ ลื อ ด นก ถามเรื่องอ ารมณ์และความรู้สึก
ผู้หญิงจะใช้คำได้ละเอียดลออกว่ามาก เช่น ผู้ชายอาจจะพูดแค่
ขอบคุณมาก ผู้หญิงจะใช้คำว่า ขอบคุณมากเลยจริง ๆ
เห็นมั้ยคะว่าแค่คำที่ต่างกันออกไป และน้ำเ สียงที่มีความขึ้นลง
ของเ สียงผู้หญิง ทำให้เ สียงนั้นเข้าถึงผู้ฟังได้อย่ างรื่นหู
นั่นเลยเป็นสาเหตุให้ผู้หญิงอย่ างเราสามารถเอ่ยปากขอความร่วมมือ
หรือขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นได้ไม่ย ากเลยค่ะ
2. ผู้หญิงจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีและทำให้ผู้คนไว้ใจได้มากกว่า
ด้วยธรรมชาติของผู้หญิง เราชอบที่จะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม มีความต้องการที่
จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน พูดคุยกันและช่วยเหลือ
กันตลอดเลยค่ะ ดังนั้นเวลาที่มีคนมาขอคำปรึกษาหรือมาบ่นให้ฟัง
ผู้หญิงจะเป็นผู้ที่รับฟังได้ดีกว่า เพราะนอกจากจะไม่รู้สึกรำคาญ
กับเรื่องจุกจิกต่าง ๆ แล้วนะคะ ผู้หญิงก็มีความสามารถ
ในการเข้าใจอ ารมณ์และความรู้สึกของผู้อื่นได้เป็นอย่ างดี
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องความไว้ใจค่ะ ความไว้ใจจะเกิดขึ้น
ต่อเมื่อเรารู้สึกว่าคนที่เราไปขอคำปรึกษานั้น เข้าใจความรู้สึกของเราจริง
ๆ ในการทำงานคุณอาจจะพบว่าเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้อง
จะกล้าเปิดใจและกล้าที่จะปรึกษาเพื่อนและหัวหน้างานที่เป็นผู้หญิง
มากกว่า นี้แหละค่ะข้อได้เปรียบของผู้หญิงอย่ างเราที่ทำให้ทุ กคน
สามารถเปิดใจและสื่อส า ร กับเราได้อย่ างตรงไปตรงมา
3. ผู้หญิงสามารถจัดงานที่หลากหลายในเวลาที่จำกัดได้ดีกว่า
ความสามารถในการทำหลาย ๆ อย่ างในเวลาเดียวกันนั้น (Multitasking)
เป็นความสามารถเฉพาะตัวของผู้หญิงทุ กคนจริง ๆ
ค่ะ บางคนอาจจะมองว่าผู้หญิงชอบคิดนู้นคิดนี่เยอะแยะเต็มไปหมด
แต่การที่ส ม อ ง ผู้หญิงสามารถคิดได้หลายสิ่งและประมวลผล
ความคิดได้เร็วนั้น ทำให้เราสามารถจัดการปัญหาและงานต่าง ๆ
ที่เข้ามาได้รอบด้านในเวลาที่จำกัด
ยกตัวอย่ างเช่น ในขณะที่คุณกำลังทำงานอย่ างหนึ่งอยู่ มีโทรศัพท์เข้ามา
คุยสามารถหาข้อมูลและตอบคำถามจากสายโทรศัพท์นั้น
ได้ทันที หรือผู้หญิงบางคนนะคะ อาจจะมีความสามารถถึงขั้นคุยโทรศัพท์เรื่องหนึ่งอยู่
และมือก็พิมพ์ทำงานอีกเรื่องหนึ่งได้อย่ างไม่น่าเชื่อเลยค่ะ
หรือผู้หญิงที่เป็นระดับผู้บริหาร เวลาคุยงานในที่ประชุม
ก็สามารถคุยและตัดสินใจได้อย่ างรวด
เร็วถึงแม้ข้อหัวที่คุยนั้นจะกระโดดข้ามไปข้ามมาจากเรื่องหนึ่ง
เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย
ผู้หญิงเราก็จะสามารถสลับความคิดได้อย่ างรวดเร็วเทียบเท่ากับ
การเปิดปิดสวิตช์ไฟเลยค่ะ ทำได้หลายอย่ างพร้อมกันได้จริง ๆ
4. ผู้หญิงยืดหยุ่นและรับมือกับภาวะวิ ก ฤ ต ได้ดีกว่า
ถ้าพูดถึงความแข็งแรงผู้ชายนั้นแข็งแรงมากกว่าแน่นอน
แต่ถ้าพูดถึงความอึดและความอดทนทั้งร่ า ง ก า ยและจิตใจแล้ว
บอกเลยว่าต้องยกรางวัลชนะเลิศให้กับผู้หญิงทั้งโลกเลยค่ะ เพราะธรรมชาติ
ได้เลือกมาแล้วว่าผู้หญิงนั้นเหมาะกับเป็นเพศที่ต้องอุ้มท้องและดูแลลูกมากที่สุด
ถ้าใครได้ผ่ านชีวิตของการเป็นมนุษย์แม่แล้วก็จะเข้าใจถึงคำว่าอึดและอดทน
ไม่ว่าปัญหาจะมาในรูปแบบไหน ทั้งปัญหาในบ้ า นนอก
บ้ า น หรือปัญหาการเงิ น การทำงาน ผู้หญิงที่ดูบอบบางก็สามารถ
ผ่ านอุปสรรคมาได้ทุ กสถานการณ์ด้วยจิตใจที่แข็งแกร่งจริง ๆ
ผู้หญิงบางคนอาจจะมีบุคลิกที่กลัวนู้นกลัวนี่ แต่พอเจอปัญหาหรือวิ ก ฤ ต ใหญ่ ๆ
กลับสามารถรับมือกับปัญหานั้นได้อย่ างใจเย็น
สามารถตัดสินใจได้อย่ างเด็ดข าด แล้วเมื่อถึงคราวที่ต้องปรับตัว
ผู้หญิงจะยอมปรับตัวโดยมุ่งเน้นผลลัพธ์ของส่วนรวมเป็นหลัก
ไม่มีอัตตาหรือมุ่งเน้นแต่ตัวเองเพียงอย่ างเดียว สามารถยืดหยุ่นในการทำงานได้ทุ กสถานการณ์
สิ่งนี้จึงทำให้ผู้หญิงอย่ างเราสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำได้ไม่แพ้ผู้ชายเลยค่ะ
5. มีโอกาสเติบโตด้วยทักษะการจัดการที่มีมากกว่า
จากข้อได้เปรียบของผู้หญิงทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมาข้างต้น
รวมกันทำให้เกิดทักษะที่เรียกว่าทักษะด้านการจัดการ
(Management Skill) ซึ่งทักษะนี้เป็นทักษะที่จำเป็นอย่ างมากในยุคปัจจุบัน
เพราะในการทำงานสมัยนี้เรียกได้ว่าทักษะด้านการ
คำนวณ ความจำ หรือความสามารถเฉพาะทางบางอย่ าง
ก็จะถูกแทนที่ด้วยคอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากขึ้นอีกในอนาคต
ดังนั้นทักษะด้านการสื่อส า ร การทำงานเป็นทีม การเข้าใจผู้อื่น
เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในตัวของผู้หญิงทุ กคนเลยค่ะ เพราะสิ่งเหล่านี้
เป็นธรรมชาติของผู้หญิงส่วนใหญ่โดยที่แทบไม่ต้องฝึกเลย
ขอบคุณที่มา : jingjai999