เธอได้พบเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเพิ่งกลับจากการไปปลูกป่า หน้าตาของเธอเบิกบานด้วยความปิติ
ที่ได้ช่วยฟื้นฟูธรรมชาติ เธอพรรณนาถึงคุณประโยชน์มากมายของการปลูกป่าทั้งบรรเทาโลกร้อน
เพิ่ม อ อ ก ซิ เ จ น ให้ร่มเงา ปกป้องหน้าดิน
และช่วยให้ฝนฟ้าต กต้องตามฤดูก าล ดีจังเลยเธอยินดีกับเพื่อน ตอนนี้เธอคงปลูกต้นไม้ที่บ้านเยอะเลยสิ
เพื่อนทำหน้าเซ็ งทันทีแล้วตอบว่า โอ๊ย ใครจะไปกวาดใบไม้ไหว ร่วงอยู่ได้ เลยตัดทิ้งไปแล้ว
รักป่ารักต้นไม้ทั่วทั้งโลกนั้น บางครั้งกลับง่ายกว่ารักต้นไม้ในบ้าน
เราพร้อมจะไปปลูกป่าทั่วทุ กหนแห่ง แต่คร้านที่จะดูแลต้นไม้ในบ้าน ปลูกป่านอกบ้านไม่ใช่เรื่อง ย า ก
แค่หย่อนกล้าไม้ลงหลุมแล้วกลบ จากนั้นก็กลับบ้านได้เลยแต่ปลูกต้นไม้ที่บ้านสิ
เรายังต้องรดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ยนานนับปีครั้นต้นไม้เติบโตสูงใหญ่
ก็ยังต้องเสี ยเวลากวาดใบไม้ร่วงไม่หยุดหย่อน วันดีคืนดีกิ่งไม้อาจต กมากระแทกหลังคาเป็นรู
เป็นเพราะต้นไม้นอกบ้านให้แต่สิ่งดีๆมีแต่สิ่งที่น่าชื่นชม ไม่เป็นภาระแ ก่เราเลย เราจึงรักเขาได้ง่าย
ส่วนต้นไม้ในบ้านนั้นเรียกร้องการดูแล
เอาใจใส่จากเราแถมยังอาจก่อปัญหาให้ด้วย หลายคนจึงมองเห็นแต่ข้อเสี ยของเขาจนรู้สึกระอาขึ้นมา
เป็นเพราะเหตุผลเดียวกันนี้หรือเปล่า ผู้คนเป็นอันมากจึงรักและชื่นชมคนอื่นได้ง่ายกว่าคนในบ้าน
เราเห็นแต่ความดีของคนไกลตัว
เพราะเขาไม่เคยเรียกร้องอะไรจากเราเลยส่วนคนในบ้านนั้นอยู่ใกล้กับเรามากเกินไป จึงเห็นแต่ข้อเ สียของเขา
หรือเห็นเขาเป็นภาระที่ต้องดูแลเอาใจใส่จนกลบข้อดีของเขาไปเกือบหมด ผลก็คือเรามักสุภาพอ่อนโยน
กับคนไกลแต่มึนตึงฉุน เฉียวง่ายมากกับคนใกล้ตัว
ลองมองให้เห็นคุณประโยชน์หรือความดีของต้นไม้ในบ้านบ้าง เราอาจจะรักเขาได้ง่ายขึ้น หลายคน
มาเห็นประโยชน์ของต้นไม้ในบ้าน ก็หลังจากที่โค่นจนเหลือแต่ตอ แต่นั่นก็สายไปแล้ว จะไม่ดีกว่าหรือ
หากเรารู้จักชื่นชมเขาขณะที่ยังอยู่กับเรากับคนในบ้านก็เช่นกัน
เราควรหัดชื่นชมคุณความดีของเขาบ้างที่แล้วมาเราอาจมองข้ามไปเพราะคุ้นชินความดีที่เขาทำกับเรา
จนมองเห็นเป็นเรื่องธรรมดาเพลงที่แสนไพเราะ หากได้ฟังทุ กวันทุ กคืน ก็กลายเป็นเพลงธรรมดาๆ
ไม่มีเสน่ห์สำหรับเราอีกแล้ว
ฉันใดก็ฉันนั้น คำพูดที่ไพเราะของภรรย า น้ำใจของสามี หรือความใส่ใจของพ่อแม่หากเราได้ยินได้ฟัง
หรือได้รับติ ดต่อกันเป็นปี ๆ หรือนานนับสิบปี ก็กลับกลายเป็นสิ่งสามัญจนเรามองไม่เห็นความสำคัญ
ไม่ต่างจากอากาศที่เราไม่ค่อยเห็นคุณค่าทั้ง ๆ
ที่ข าดมันไม่ได้เลยน่าแปลกก็ตรงที่ หากคนใกล้ตัวทำผิ ดพลาดหรือสร้างความไม่พอใจแ ก่เราแม้เพียงครั้งเดียว
การกระทำนั้นๆ กลับฝังใจเราได้นานหรือลึกกว่าความดีที่เขาทำกับเรานับร้อยนับพันครั้ง
ใช่หรือไม่ว่าเวลาเขาทำดีกับเรา เรามองว่านั่นเป็น
หน้าที่ของเขา หรือเป็น สิทธิที่เราควรได้รับ แต่เมื่อใดที่เขาทำไม่ดีกับเรา ทำให้เราไม่พอใจเรากลับมองว่า
การกระทำเช่นนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สมควร เป็นเรื่อง ไม่ธรรมดา ดังนั้นจึงฝั งใจเราได้ง่ายกว่า
อันที่จริงเขาอาจไม่ได้ทำผิ ดพลาดเกินวิสัยปุถุชน
แต่ความที่เรามักจะมีความคาดหวังสูงจากคนใกล้ชิดความผิ ดพลาดของเขาแม้เพียงเล็กน้อยก็ทำให้เรารู้สึกแ ย่
ขุ่นเคือง หรือน้อยเ นื้ อต่ำ ใจได้ง่ายและนานคนในบ้านหรือคนใกล้ตัวนั้น ไม่ว่าจะดีแสนดีเพียงใด
ก็ย่อมมีวันที่ต้องกระทบกระทั่งกับเราบ้าง
แต่หากเราไม่ฝังใจอยู่กับเหตุการณ์เหล่านั้น หันมามองและชื่นชมคุณความดีของเขาเปิดใจรับรู้ความรัก
ที่เขามีต่อเรา เราจะรักเขาได้ง่ายขึ้น และตระหนักว่าเขามีความสำคัญต่อชีวิตของเรายิ่งกว่าคนไกลตัว
เสี ย อีก อ ย่ าร อให้เขาจากไป เ สี ย ก่อน
ถึงค่อยมาเห็นคุณค่าของเขา ถึงตอนนั้นก็สายไปเ สี ย แล้ว
อะไรก็ตามยิ่งอยู่ใกล้ตัวมากเท่าไรเราย่อมหน่ายแหนงและระอาได้ง่ายมากเท่านั้น
ขอบคุณที่มา : kitdtaang