Home บทความ จะเลิก ส น ใ จ สิ่งนี้เอง ถ้า คุ ณ เป็นผู้ใหญ่

จะเลิก ส น ใ จ สิ่งนี้เอง ถ้า คุ ณ เป็นผู้ใหญ่

ปิดความเห็น บน จะเลิก ส น ใ จ สิ่งนี้เอง ถ้า คุ ณ เป็นผู้ใหญ่
0

1. เลิกกังวลเกี่ยวกับอนาคต

ต้องยอมรับว่าบางสิ่งก็ไม่สามารถควบคุมได้ ไม่ว่าเราจะ พ ย า ย า ม แค่ไหน อนาคตเป็นผล

มาจากความคิดและการกระทำในปัจจุบัน คุณต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่คุณเลือกคิด

 

และทำในห้วงขณะนี้ ‘คุณคือสิ่งที่คุณเชื่อ คุณคืออะไรก็ตามที่คุณเลือกที่จะเป็นและเชื่อมั่น

อย่ างสุดจิตสุดใจ’ เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องกังวลถึงอนาคต แค่เลือกคิดและทำปัจจุบันขณะ

ให้ดีที่สุดก็พอ และปล่อยให้ ‘จังหวะชีวิต’ ทำงาน

 

2. เลิกวิ่งไล่ตามความสุข

บางครั้งเราก็ นิ ย า ม ความสุขไว้ไกลเกินกว่าที่ควรจะเป็น กำหนดกะเกณฑ์ว่าต้องประสบความสำเร็จ

มีทรัพย์สินเงิ นท อง บ้าน รถ ชื่อเสี ยง ที่มากพอ จึงจะมีความสุข

 

วิ่งไล่ไขว่คว้าหาความสุขนอกกายทั้งที่สามารถหาได้จากสิ่งรอบตัวในทุ กวัน พ ระอาทิตย์ขึ้น ย า ม เ ช้ า

กาแฟหอมกรุ่นสักแก้ว เ สียงหัวเราะของคนรอบตัว สุ ข ภ า พ ที่ยังครบสมบูรณ์

 

ไม่ได้บอกว่าเราไม่ควรไขว่คว้าหาความสุขนอกกายนะคะแต่ถ้าเราสามารถชื่นชมยินดีกับสิ่งที่มีอยู่

แล้วได้ ความสุขเล็ก ๆ ก็เกิดขึ้นได้ทันทีในขณะที่เราชื่นชมมัน

 

3. เลิกบ่นสิ่งรอบตัว

การบ่น ไม่ใช่อะไรที่มากไปกว่าการเ สียเวลา ไม่ว่าคุณจะบ่นหูดับตับไห ม้แค่ไหน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง

อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นไปแล้วได้ คุณอาจทำให้คนอื่นรู้สึกผิดได้

 

แต่คุณไม่สามารถทำให้ตัวเองดีขึ้นได้จากการกระทำไร้สุขนี้หรอกค่ะและถ้าคุณเอาแต่บ่นทุ กสิ่งที่ไม่พอใจ

อยู่ตลอดเวลา ทำตัวเป็นเหยื่อและคาดโ ทษกับสิ่งต่าง ๆ แล้วชีวิต ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น

 

ลองเปลี่ยนมาเป็นมองข้ามมันไปบ้าง หยุดที่จะให้ความสนใจกับมัน แล้วรอดูกันค่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้น

เมื่อคุณเปลี่ยนพฤติกร รมนี้ได้

 

4. เลิกคิดไปเอง

ส ม อ ง มนุษย์มักจินตนาการในด้านลบอยู่เสมอ เป็นกลไกป้องกันตนเองที่ติ ดอยู่ในตัวมนุษย์เรามาตั้งแต่อดีต

หลายครั้งที่การคิดไปเองว่าคนอื่นรู้สึกยังไง คิดอะไร หรือต้องการอะไร

 

ทำให้ความสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้างต้องพัง และใจเราเองที่ทุ กข์ที่สุด บางทีเพื่อนร่วมงานที่ไม่ยิ้มให้เรา

อาจเพราะแค่เขาขี้อาย ไม่ใช่เพราะเขาห ยิ่งหรือไม่ชอบเรา

 

บางครั้งการที่แฟนไม่ตอบแชท อาจเพราะเขางานยุ่งจึงไม่มีเวลา เราไม่สามารถล่วงรู้ทุ กอย่ างในใจผู้อื่น

ได้อยู่แล้ว “เขามีเหตุผลของเขา”เราแค่ต้องเปิดใจให้กว้าง และปล่อยวางการคิดไปเองทั้งปวง

ไม่ต้องเอาใจไปจับ ดั่งคำสอนของ พ ร ะ พุ ท ธ เ จ้ า ที่ว่า “มันเป็นเช่นนั้นเอง..”

 

5. เลิกวิจารณ์ตัวเอง

หยุดโ ทษตัวเองในสิ่งที่คุณทำไม่สำเร็จ ให้เกียรติและเคารพตัวเองให้มากพอที่จะให้อภั ยและก้าวต่อ

ทำความเข้าใจให้ได้ว่า ชีวิตคนเราไม่จำเป็นต้องได้ในทุ กสิ่งที่ต้องการ

 

แต่เราจะได้ในทุ กสิ่งที่เราสมควรได้รับ และนั่นคือเหตุผล ที่คุณต้องเห็นคุณค่าในตัวเอง

เชื่อมั่นว่าตัวคุณเองมีค่าพอที่จะได้รับในสิ่งที่ดีที่สุด

 

6. เลิก พ ย า ย า ม ทำให้คนอื่นต้องพอใจอยู่ตลอดเวลา

การกังวลว่าคนอื่นจะไม่ชอบเรา เป็นสิ่งที่เสี ยเวลาโดยเปล่าประโยชน์ เราต่างก็ผิดหวังเพราะคาดหวังว่า

คนอื่นจะทำแบบที่ตัวเองต้องการ เราจึงทำดีกับคนอื่น

 

เพราะคาดหวังให้คนอื่นทำดีกับเรา และนั่นคือสิ่งที่สร้างความไม่เป็นอิสระในตัวเอง ให้เกียรติและเคารพตัวเอง

ให้มากพอที่จะแคร์สิ่งที่ตัวเราเองต้องการ โดยที่ไม่ได้ทำให้ใครเดื อดร้อน

เราทำให้ทุ กคนในโลกพอใจตลอดเวลาเวลาไม่ได้หรอกค่ะ คนที่เราควรแคร์ที่สุด…คือตัวเราเอง

 

7. เลิกทำตัวยุ่งตลอดเวลา

เพราะการแข่งขันที่สูง สังคมทุ กวันนี้จึงผลักดันให้เราต้องรีบเร่ง ต้องทำอะไรให้เร็วอยู่ตลอดเวลา

เร่งทำงานให้เสร็จตามกำหนด เพื่อที่จะได้เริ่มทำงานใหม่อย่ างรีบเร่งอีกเช่นเคย

 

เพราะกับดักของค่านิยมในสังคม การเร่งรีบกับทุ กสิ่งไม่ได้หมายความว่าจะดีเสมอไป หลายครั้ง

ที่ยิ่งหักโหม ยิ่งทำให้ผลที่ออกมาไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น

 

ลองหยุดพักแล้วฟังเ สียง ร่ า ง ก า ย ตัวเองกันค่ะตอนนี้มันอาจกำลังร่ำร้องด้วยความ เ จ็ บ ป ว ด

ผ่ านอาก ารที่แสดงออกมา การ ป่ ว ย ไ ข้ ง่วง เ พ ลี ย ตลอดเวลา หรือแม้กระทั่ง สิ ว

 

ที่ขึ้นบนใบหน้า สิ่งเหล่านั้นคือการประท้วงของ ร่ า ง ก า ยเรียกร้องให้เราต้องหยุด ลองหาเวลาหยุดจาก

ความรีบเร่งทั้งปวง ไปใช้เวลานั้นกับสิ่งที่คุณรัก หรือเที่ยวสถานที่ธรรมชาติให้จิตใจได้ผ่อนคลาย

เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ให้กับ ร่ า ง ก า ย และจิต วิ ญ ญ า ณ ให้สามารถกลับมายิ้มได้อีกครั้ง

 

8. เลิกคาดหวังกับความสมบูรณ์แบบ

คุณไม่จำเป็นต้องไขว่คว้าหาความสมบูรณ์แบบตลอดเวลา เพราะมันไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น

ในแง่หนึ่งมันอาจทำให้คุณมีแรง ก ร ะ ตุ้ น ที่จะพัฒนาตัวเอง

 

แต่ในอีกแง่หนึ่ง มันก็สร้างความกดดัน และความรู้สึก ‘ไม่ดีพอ’ ให้เกิดขึ้นได้ ลองเปลี่ยนแนวคิดจากการ

ต้องทำทุ กอย่ างให้สมบูรณ์แบบ เป็นการทำทุ กอย่ างให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่ างไร นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณจะสามารถทำได้แล้ว จงชื่นชมกับมัน เห็นคุณค่า

ในความ พ ย า ย า ม นี้ มีความสุขกับมัน ยอมรับในความผิ ดพลาด

 

ทำความเข้าใจว่าไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ ความล้ มเหลวที่อาจเกิดขึ้น ก็ไม่ใช่ความล้ มเหลวที่แท้จริง แต่คือ

โอกาสในการเรียนรู้เพื่อจะเติบโต เราไม่เคยแพ้หรอก บางครั้งเราชนะ และบางครั้งเราได้เรียนรู้..

 

ขอบคุณที่มา : sabailey

Load More In บทความ
Comments are closed.

Check Also

ลักษณะผู้ชาย แ ม ง ด า ที่หวัง จะเกาะ ผู้หญิงกิน

1. เขามักจะบอกคุณอยู่เสมอ ว่าแม่เขาอย ากได้อะไร เขามักจ … …