1. นับหนึ่งให้ถึงสิบ
เริ่มจากวิ ธีพื้นฐานอย่ างนับเลขในใจ เวลาที่เราโกรธใครให้ลองนับหนึ่งถึงสิบ
หรือจะนับถึงร้อยถึงพันก็คงไม่มีใครว่า
เพราะการนับเลขจะส่งผลให้เรามีสมาธิ และยังได้มีเวลาไตร่ตรองคิดถึงสิ่งที่ผู้อื่น
ทำกับเราและสิ่งที่เรากำลังคิดจะทำด้วย
2. สนทนาอย่ างมีสติ
ฟังอย่ างตั้งใจ ฟังโดยไม่คิดตัดสินคู่สนทนา เปลี่ยนสภาพตัวเองให้เป็นเหมือนภาชนะ
ว่างเปล่าที่พร้อมรับฟังบุคคลตรงหน้า
ขณะที่เมื่อพูดก็ตระหนักถึงความงดงาม ของความสัมพันธ์ระหว่างคุณ
และคู่สนทนา สื่อส ารด้วยความรักด้วยความหวังดีด้วยใจที่อย ากจะสร้างสรรค์
ความหมายดี ๆ ระหว่างกัน
3. ปล่อยวาง ไม่ยึดติ ด
ปัญหาที่เกิดขึ้นนทุ กวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะคนเรามีอัตตามากเกินไป หากเราลองเปลี่ยนความคิด
ไม่ยึดติ ดกับตัวตน แล้วลองคิดว่าสุดท้าย วันหนึ่งเราก็ต้อง แ ต ก ดั บ
และส ล ายไป วนเวียนเป็นวัฏจั กร เช่นนี้เรื่อยไป เพราะฉะนั้นถ้าเรายอมรับกับวัฏจักรแห่งการเกิด-ดับนี้แล้ว
ไม่ว่าเรื่องใด ๆก็คงเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น
4. กินอย่ างมีสติ
บางครั้งเราก็ทานไปด้วยคุยโทรศัพท์ไปด้วย บางครั้งก็ทานไปด้วยดูจอทีวี จอมือถือไปด้วยแล้ว
ครั้งสุดท้ายที่ทานอาห ารทีละคำ รับรสชาติ แล้วขอบคุณอาห ารในมื้อนั้น คือเมื่อไหร่กันหรือ ?
5. ตื่นอย่ างมีสติ
แทนที่จะตื่นมาแล้วเช็คข่าวส ารจากโซเชียลมีเดีย เป็นสิ่งแรกของวันให้เวลาตัวเองซัก 5-10 นาที
นั่งสมาธินิ่ง ๆ ก่อนจะรับข่าวส ารอื่น ๆ เพื่อช่วยให้การเริ่มต้นวันใหม่เป็นไปอย่ างมั่นคงในอ ารมณ์
6. ทำงานอย่ างมีสติ
ท่ามกลางมรสุมงาน และการติ ดต่อผู้คนมากมายตลอดวันเราก็สามารถฝึกสติรู้เนื้ อรู้ตัวได้ง่าย ๆ
เพียงหลับตาลงหายใจเข้าและออกลึกๆ สัก 5 รอบลมหายใจ
โดยให้สติตามลมหายใจ โดยไม่คิดเรื่องอื่นแล้วค่อยกลับไปโฟกัสกับงานตรงหน้าใหม่อีกครั้ง
7. เดินอย่ างมีสติ
เดินไปข้างหน้าด้วยความรู้สึกขอบคุณทุ กสิ่งทุ กอย่ างขอบคุณร่ างก ายที่ยังมีกำลังมากพอให้สามารถ
เดินได้ขอบคุณถนนหนทางที่สะดวกสบายมาก
พอจนเดินก้าวไปได้ และเดินด้วยใจกรุณาด้วยความรู้สึกว่า “อย ากสร้างแต่รอยย่ำอันงดงามให้กับโลกใบนี้”
ขอบคุณที่มา : verrysmilejung