ในปัจจุบันนี้นะ น่าเป็นห่วง นั่นก็เพราะว่า เมื่อคน อินเดีย เวียดนาม จีน อพยพมาไทย
และอีกอย่ างคือ กลับได้ดีซะด้วยแต่คนไทย คงเป็นลูกจ้าง อยู่เหมือนเดิมไม่ไปไหนเลย
เมื่อ 100 ปีก่อน : คนจีน หนีความย ากจนอดอย าก มา เมืองไทยแบบเสื่อผืนหมอนใบเป็นกุ ลี
แบกข้าวสา ร ล าก รถ ฯลฯคนไทย ดู ถู ก เรียก “ไ อ้เจ็ ก”
แต่คนจีนขยันไม่เกี่ยงงาน อย ากเป็นเจ้าของกิจการ อย ากเป็นพ่อค้าและคนไทย
นี่แหละชอบสบายอย ากเป็นเจ้าคนนายคน รับร าชการ มียศ มีสี มีเกียรติ
จนมาถึงวันนี้ คนจีนร่ำร วยเป็ นเจ้าของกิจการเยอะแยะ
(คนไทยเป็นลูกจ้างและเป็นลูกห นี้คนจีน)
50 ปีก่อน คนอินเดีย : คนบังคลาเทศ หนีความย ากจน มาที่เมืองไทยเป็ น
คนขายนมแพะ เป็นย าม ขายถั่วคนไทยดู ถู กเรียก “ไ อ้บัง”
คนอินเดียนั้นขยัน เจียมเนื้ อเจียมตัว ประหยัด ออม อดทน
ไม่ยอมเสี ยเปรียบจนวันนี้คนอินเดียเป็นเจ้าของกิจการ มากมายในไทย
ทั้งร้าน เจ้าของโรงงาน ขายผ้า (คนไทยเป็นลูกจ้าง และเป็นลูกห นี้คนอินเดีย)
และ 30 ปีก่ อน คนเวียตนาม : อพยพมาไทย นั่นเพราะหนีสงค ร า ม
มาเมืองไทยมาเป็นลูกจ้างทำประมง ซ่อมรถทำน าคนไทย ดู ถู ก เรียก “ไ อ้แ กว”
จนวันนี้ เมืองไทยโดยเฉพาะทางอีสาน และภ าคตะวันออกคนเวียตนามเป็นเจ้าของ
กิจการมากมายส่วนคนไทยน่ะเหรอ เป็นลูกจ้าง เขาตามเคย
วันนี้ คนเขมร ลาว พม่ า เข้ามาไทย ทั้งถูกต้อง ทั้งไม่ถูกต้อง เพราะ A E C
เปิดรับค่ าแร ง 300 บาท เข้ามาเป็นคนรับใช้ในบ้าน พนักงานโรงแรม
เด็ กปั้ม คนงานก่อสร้าง คนไทย ดู ถู กเรียก “ไ อ้เขมร”สิ่งที่น่าเป็นห่วงในอนาคตคือ
อีก 20 ปีข้างหน้า ชนชาติต่างๆ ที่อพยพเข้ามา
เขาคงเป็นเจ้าของกิจการกันหม ดเหมือนที่เคยเกิ ดขึ้นกับ คนจีน คนเวียดนาม คนอิน เดียและ
คนไทยก็คงกลับมาเป็นลูกจ้าง คนเ ข ม ร คนพม่ า คนลา ว
นี่คือคนไทย แท้ๆ นะ ทำไมกัน คนไทยมีความรู้ มีฝีมือแร งงานที่ดีแต่ไม่สร้างโอกาส
ไม่สร้างงานให้มีคุณค่าเลยล่ะ
งานหนักหน่อย ท้อ ออก งานเหนื่ อยหน่อย บ่น งานมากหน่อย บอกค่าจ้ างถูก
ไม่คุ้ม ลาออกน่ าเป็นห่วงคนไทยที่รักสนุก ไม่อดทน
ไม่พึ่งพาตัวเอง รักสบาย ชอบหรูหราเลี้ยงลูกไม่รู้จักโต เ ส พ ติ ด วั ตถุนิยม
ขายที่ดินปู่ย่ าต ๅ ย า ย กิน ขออย่ าให้เป็นเช่นนี้เลย
เรามีฝีมือ มีทักษะดี ไหวพริบดี ฉลาด เอาตัวรอดเก่งเราจงนำมันออกมาใช้
ให้เกิ ดประโยชน์ดีกว่า รักกันไว้เถิดคนไทย
อย่ าให้ อีก 20 ปีข้างหน้า ต้องเป็นลูกจ้าง หรือ ต้องเป็นลูกห นี้
ต่างชาติใน A E C เลย..เรียบเรียง คิดกลับด้าน
ขอบคุณที่มา : 108resources