1. อภั ยย ากแต่ต้องทำ!
แม้ว่าการเห็นนางโพสต์ รูปหรือข้อความสุดแฮปปี้บนไทม์ไลน์นั้น
จะสร้างความวิ่งเต้นทุบอกไม่พอใจให้กับเราก็ตาม แต่สาว ๆ
รู้มั้ยคะ ว่ายิ่งเราเอาใจของเราผูกติ ดกับเรื่องนี้ก็มีแต่เราเนี่ยแหละ
ที่ไม่หลุดพ้น รู้สึกร้อนใจอยู่คนเดียว ขณะที่เขาเสวยสุข
จอมปล อมของเขาอยู่อย่ างสบายใจค่ะ ฉะนั้น เราควรปล่อยวางกับ
สิ่งที่นางทำไว้กับเราอยู่ให้ห่างจากความรู้สึกด้านลบเหล่านั้น
สุดท้ายเราเองก็ไม่เจ็ บ และเบาตัวเบาใจกับเรื่องนี้ได้เยอะเลย
2. อย่ าเปิดศึกบนโซเชี่ยลเด็ดข าด
อย่ าเด็ดข าด! กาด อกจันทร์ 100 ด อกไว้เลยนะคะ! เพราะการเปิด
สงคร ามประส าทประเภทจิกกัด เหน็บแนม
ระบายความในใจป่าวประกาศให้โลกรู้ มันไม่โอเค! นอกจากจะดูเป็น
การทำให้เรื่องไม่จบแล้ว ยังดูเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นในสายตาคนอื่นด้วยนะ
ดังนั้น เราแนะนำให้อยู่เฉย ๆ คีพลุคคูลเป็นเมียหลวงสไตล์กันดีกว่าค่ะ
3. เจ็ บแล้วจำ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจทำให้เราได้เห็นว่าใครที่เป็นเพื่อนแท้กับเราแน่ ๆ ได้
และใครที่ต กรอบไป ซึ่งคนที่ต กรอบไปเนี่ยแหละ
ให้ถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพงกับเราไว้ได้เลยพร้อมกับเรียกสติ กลับมาว่า
คนแบบนั้นต่อไปแม้แต่ความหวังดีเล็กน้อยก็จะไม่มีให้ เราข าดกัน!
เราพอจะเข้าใจว่าเรื่องเพื่อน มันก็เป็นเรื่องที่พูดย ากเรื่องหนึ่งเพราะบางคน
อาจนึกถึงเรื่องดี ๆ ที่ผ่ านมาด้วยกันมา แต่ถ้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เค้าไม่เคยนึกคิดถึงความรู้สึก และความสัมพันธ์อันดีที่เรามีให้กันมาตลอดเลย
ก็ลาข าดเถอะค่ะ คนแบบนั้นเราอย่ าไปนับเค้าเป็นเพื่อนดีกว่า!
4. มองทุ กอย่ างเป็นกลาง
ความดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เค้าทำให้เรามาตลอด คงไม่สามารถลบล้างความผิด
ใหญ่หลวงได้อย่ างเช่น เพื่อนที่เราคบมานาน ผ่ านร้อนผ่ านหนาวมาด้วยกัน
สุดท้ายผู้ชายมาทีเดียวก็อาจทำให้ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนของเราจบไปเลยก็ได้
ฉะนั้นเรามองทุ กอย่ างอยู่กับปัจจุบันและเป็นกลางดีกว่าค่ะ เพราะโลกนี้ไม่มีอะไร
แน่นอนจริง ๆ แม้กระทั่งความสัมพันธ์ 10 ปี
5. จมได้แต่อย่ านาน
ส่วนใหญ่แล้ว เหตุการณ์ที่เราเจอเพื่อน มาหักหลังมักจะมาจากเพื่อนรักแอบคุยกับกิ๊กเรา
เพื่อนที่ขโ มยผลงานไปเอาหน้ากับเจ้านาย หรือเพื่อนที่แอบมานินทาเราลับหลัง
ซึ่งพอเกิดเรื่องแบบนี้ ขึ้นก็จะมีคำถามตามว่า ฉันไปทำอะไรให้หล่อน ? ทำไมต้องมาทำแบบนี้ ?
เค้าไม่ละอายใจบ้างหรอ ?
สุดท้ายก็มานั่งร้องไห้เสี ยใจในมิตรภาพดี ๆ ที่เสี ยไปแต่ก็ช่างเถอะค่ะ
อะไรที่แล้วไปแล้วก็จบ แล้วลุกเดินไปข้างหน้ากันดีกว่า
ขอบคุณที่มา : verrysmilejung