1. ที่ปัดน้ำฝน
เป็นสิ่งที่หล า ยๆคน มองข้ามไป อ ย่ าลืมว่าระหว่างทางอาจเกิดฝนต กหนัก
หากย า งที่ปัดน้ำฝนคุณเสื่อม อาจทำให้คุณมองไม่เห็นทาง และเกิด อุ บั ติ เ ห ตุได้ง่าย
ดังนั้นคุณควรเอาใจใส่ที่ปัดน้ำฝนของคุณบ้าง ก่อนจะเกิดเ ห ตุ ก า ร ณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
2. น้ำมันเครื่อง
ถือเป็นสิ่งจำเป็นของระบบกลไกต่างๆในเครื่องยนต์ ประสิทธิภาพของน้ำมันเครื่องที่ดี
จะต้องผ่ านการใช้งานเกินระยะที่คู่มือ กำหนดระดับน้ำมันเครื่องจะต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม
ซึ่งเราสามารถตรวจเช็คได้จากก้านวัดน้ำมันเครื่อง และขณะเดินทางควรมีน้ำมันสำรองติ ดรถไว้
อ ย่ า งน้อย 1 ลิตร เผื่อได้ใช้ย า ม ฉุ ก เ ฉิ น
3. ชุดเครื่องมือประจำรถ
เช่น ล้อ ย า งอะไหล่ แม่แรง ชุดเครื่องมือในการถอ ดล้อ ที่เติมลมฉุ ก เ ฉิ น ส า ยพ่วงแบต
สายลากรถ ไฟฉาย ซึ่งคุณมือเหล่านี้ควรมีติ ดรถเอาไว้ จะได้อุ่นใจย ามเดินทาง
และทุ กอ ย่ า งต้องตรวจว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน
4. ระบบปรับอากาศ
คุณควรเปลี่ยนกรองแอร์ทุ ก ๆ 1 หมื่นกิโลเมตร เพราะคงไม่ดีแน่ถ้าแอร์คุณเสี ย ไม่เย็น
หรือมีกลิ่นระหว่างเดินทาง เพราะฉะนั้นแอร์ก็เป็นหนึ่งความสำคัญที่คุณจะมองข้ามไปไม่ได้
5. ระบบไฟส่องสว่าง
ทั้งไฟหน้า ไฟท้าย ไฟตัดหมอ ก ไฟเลี้ยว และไฟ ฉุ ก เ ฉิ น จะต้องใช้งานได้ครบทุ กจุด
แสงสว่างจะต้องคมชัด ไม่มัว ยิ่งเดินทางในช่วงกลางคืน ระบบไฟส่องสว่างถือว่าจำเป็นมาก ๆ ในการเดินทาง
6. ล้อและย า งรถยนต์
เป็นอีกจุดสำคัญมากๆ เพราะอุ บั ติเ ห ตุ ส่วนหนึ่งบนท้องถนน เกิดจากย า ง ร ะ เ บิ ดขณะขับขี่
ดังนั้นย างที่ดีต้องอยู่ในสภาพใช้งาน ไม่รั่ว ไม่ซึม ไม่แต กล า ยงา มี ด อ กย า งเพียงพอ
เติมลมย าวต ามที่คู่มือประจำรถกำหนด ส่วนล้อก็ควรอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่คด ไม่บิดเบี้ยว
และที่สำคัญอ ย่ าลืมเ ช็ ค น็ อ ตช่วงล่างด้วยว่ามันขันแน่นหรือเปล่า
7. เช็คระดับน้ำมันเบรก และระบบเบรก
หล า ยท่านเข้าใจว่าหากน้ำมันเบรกห า ย เราต้องเติมน้ำมันเบรกเพื่อให้อยู่ในปริมาณที่พอดี
แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าระบบเบรกความจริงแล้ว คือ ร ะ บ บ ปิ ด ความหมายก็คือน้ำมันเบรกจะอยู่แต่ภายใน
ระบบเบรกจะไม่ระเหยเหมือนน้ำมันเ ชื้ อ เ พ ลิ ง ซึ่งแน่นอนว่าถ้าผ้าเบรกไม่สึก หรือไม่มีจุดไห นรั่ ว
น้ำมันเบรกจะไม่สามารถห า ยไปได้ง่ายๆ ดังนั้นหากรถเราน้ำมันเบรกห า ย
เราต้องหาสาเหตุให้ได้ก่อนว่าน้ำมันเบรกห า ยไปได้อ ย่ า งไร ก่อนจะเติม
8. แบตเตอรี่และระบบไฟ
หั ว ใ จ หลักการสต าร์ทเครื่องยนต์ คือ แบตเตอรี่ ตรวจดูสภาพของแบตเตอรี่ว่า อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์หรือไม่
หมั่นตรวจเช็คทำความสะอาดคราบเกลือที่ขั้วแบต เช็คระดับน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่กำหนด
ตรวจสอบความแน่นของขั้วแบต และฉนวนหุ้มสาย
9. แตรรถ
เราควรเช็คก่อนว่า มันใช้งานได้ต ามปกติหรือเปล่า เพราะหล า ยคนซื้ อรถมาไม่ค่อยได้ใช้แตรรถ
จนหลงลืมความสำคัญของมันไป ถ้าคุณเดินทางไกล คุณต้องเช็คแตรรถให้ดี
เผื่อระหว่างทางอาจจะต้องส่ งสัญญาณให้รถคันอื่น ๆ
10. สายเข็มขัดนิ ร ภั ย
เราควรตรวจสอบสายคาดนิรภั ยทุ กครั้งว่าอยุ่ในสภาพที่ดี โดยการลองดึงเร็ว ดูว่าล็อคอยู่มั๊ย
ลองดึงสายดูว่าสามารถเซฟตัวคุณได้รึเปล่า เพื่อ การขับขี่ที่ปลอ ดภั ยคุณควรใช้สายคาดนิรภั ยทุ กครั้ง
ขอบคุณที่มา : th.wikipedia.org, deesoulmuch