1. อย่ าซื้อ เพียงเพราะทุ กคนก็ซื้อ
หลายต่อหลายคน มักจะซื้อของตามคนอื่น หรือเพียงเพราะเห็นคนอื่นซื้อแล้วดี ตัวเองก็เลยอย ากดีตามคนอื่นไปด้วย
เช่น ซื้อหุ้น หรืออสังหาริมทรัพย์ พอข าดทุนทีก็เสี ยหายกันไปเป็นแถว ในการซื้ออะไรก็ตาม จะดีกว่าถ้าคุณใช้ความรู้
สึกและสัญชาตญาณของคุณเอง ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไร
2. การซื้อบ้านไม่ใช่การลงทุน
หลายคนคงเคยได้ยินว่า บ้านคือการลงทุนชนิดหนึ่ง ที่ทำกำไรได้แน่นอน ซื้อไว้ก็มีแต่ราคาขึ้น แต่โดยทั่วไปแล้ว บ้าน
ไม่ใช่การลงทุนนะคะ เพราะถ้าคุณซื้อเพื่ออยู่อาศัยเพียงอย่ างเดียว ไม่ใช้ประโยชน์ให้มีรายได้เข้ามา ก็ถือว่าบ้านนั้นเป็น
ห นี้สินดี ๆ นี่เอง
ดังนั้น ถ้าคุณคิดจะขายบ้านเอากำไร คุณก็จะต้องซื้อบ้านหลังใหม่อยู่ดี แล้วการขายบ้านไม่ใช่เรื่องง่ายนะคะ เอาจริง ๆ
เมื่อบวกลบกับระยะเวลาและปัจจัยต่าง ๆ แล้ว คุณแทบจะหวังกำไรจากส่วนนี้ไม่ได้เลย
3. หากคุณจ่ายเงิ น ก่อนเก็บออม คุณจะไม่ได้อะไรเลย
การออมที่ได้ผล คือต้องหักจากรายได้ของคุณก่อน ไม่ใช่หักจากเงิ นเหลือใช้ เพราะคุณจะมีเหตุผลร้อยแปดในการซื้อสิ่งของ
ต่าง ๆ ถ้าหั กไว้เก็บออมหลังจากใช้จ่ายไปแล้ว จะทำให้คุณไม่มีเงิ นเหลือเก็บจริง ๆ จัง ๆ สักทีจะดีกว่าไหม ถ้าเ งินเดือนคุณ
ออก แล้วคุณรีบหั ก เ งินเก็บไว้ในอีกบัญชีทันที ก่อนที่คุณจะเอาเงิ นเดือนไปใช้จ่ายอะไรก็ตาม วิ ธีนี้จะช่วยให้คุณมีเงิ นเก็บ
และมีวินัยในการใช้จ่ายเงิ นมากขึ้นด้วยนะคะ
4. จำนองบ้าน ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย
ในบางช่วงอาจจะเจอมรสุมชีวิต และต้องการเงิ นก้อนใหญ่ในการแก้ปัญหานั้น ถ้าเป็นคนที่มีบ้าน ทางเลือกที่ดีที่สุดที่คุณจะนึกถึง
ก็คงเป็นการนำบ้านไปจำนองซึ่งด อกเบี้ยของสิ นเชื่อบ้านปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 6% – 8% แล้วแต่สถาบันทางการเงิ นนั้น ๆ มัน
อาจจะน้อยกว่าอัตราดอ กเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลก็จริง
แต่อย่ าลืมว่า หากคุณจำนองบ้าน คุณต้องใช้เวลาชำระคืนเป็นสิบ ๆ ปีถ้าคุณกู้สินเชื่อส่วนบุคคล แม้ว่าอัตราด อกเบี้ยจะแพงกว่า
(สูงสุดไม่เกิน 28% ต่อปี) แต่ระยะเวลาการชำระเงิ นคืนน้อยกว่า กลายเป็นว่า การเอาบ้านไปจำนองนั้น อาจจะทำให้คุณเสี ยเงิ น
เยอะกว่า การกู้สินเชื่อส่วนบุคคลอีกนะคะ
5. ทรัพย์สินที่ใหญ่ที่สุด นั่นคือรายได้ของคุณ
คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า บ้านหรือรถของพวกเขา เป็นสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุด แต่คุณคิดผิดค่ะ เพราะสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดของคุณ
นั่นก็คือรายได้ของคุณ หรือจะให้เจาะจงก็คือ ตัวคุณนั่นแหละค่ะหากคุณหาเงิ นได้ 300,000 บาทต่อปี นั่นถือว่าคุณสามารถทำเงิ น
ได้มากถึง 12,000,000 บาท ตลอดอายุการทำงาน
แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของคุณ ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังสามารถใช้ประสบการณ์ที่มากขึ้น เพื่อสร้างรายได้ให้สูงขึ้นไปอีกไหนจะการเรียน
รู้เสริมสร้างทักษะ ไหนจะทำโอที หรือแม้แต่ทำงานพิเศษ ดังนั้น สินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดของคุณ ก็คือตัวคุณเอง จงพย าย ามรั กษาดูแล
มันเอาไว้ เพื่อก้าวไปสู่การประสบความสำเร็จด้านการเงิ นนะคะ
6. ไม่มีประกันภั ย = ไม่มีเ งิน
“โจ รปล้ นสิบครั้ง ไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว” สำนวนโบราณนี้นับว่าเป็นเรื่องจริง เพราะหากคุณไม่ได้ทำประกันภัยรถยนต์ หรือประกันทรัพย์สิน
เอาไว้ อนาคตเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน คุณอาจจะต้องเสี ยเงิ นจำนวนมหาศาล มากกว่าราคาเบี้ยประกันที่คุณต้องจ่ายหลายเท่า
เผลอ ๆ อาจจะเป็นเงิ นเก็บทั้งชีวิตของคุณเลยก็ได้ เพื่อจ่ายค่าซ่อมรถ ค่าโรงพย าบาล หรือค่าซ่อมแซมบ้าน และอื่น ๆ อีกจิปาถะมากมายไปหมด
ดังนั้น การมีประกันภัยต่าง ๆ เอาไว้เพื่อซื้อความเ สี่ยง ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่านะคะ
7. ควรโฟกัสไปที่รายจ่าย มากกว่ารายรับ
หลายคนมักจะได้ยินคำกล่าวที่ว่า “ฉันจะมีเงิ นเก็บมากขึ้น หากฉันมีรายได้มากขึ้น” หรือ “ฉันไม่สามารถเก็บเ งินได้ เพราะเงิ นเดือนฉันมันน้อยมาก”
ความเชื่อนี้ถือเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะคุณมองปัญหาผิดจุดต่างหากสิ่งที่คุณควรจะโฟกัสจริง ๆ คือรายจ่ายที่คุณต้องทำให้มันลดลง ไม่ใช่รายได้
ของคุณได้มาเท่าไหร่ เชื่อไหมคะ ว่าร้อยทั้งร้อย เมื่อมีรายได้มากขึ้น ก็ยิ่งใช้จ่ายมากขึ้นตามไปด้วย
ขอบคุณที่มา : aansanook